สาวๆหลายคนอาจประสบปัญหาซื้อรองพื้นมาแล้วไม่ตรงกับสีผิว หรือบางทีก็ซื้อมาแล้วไม่ชอบ ไม่ถูกใจ ทำให้รองพื้นขวดนั้นกลายเป็นขวดที่ถูกลืมไม่ได้ใช้ น่าเสียดายค่ะเพราะราคาเริ่มต้นส่วนใหญ่ก็หลายร้อยไปถึงเป็นพันๆ วันนี้เราจะมาทบทวนการเลือกรองพื้นก่อนตัดสินใจซื้อกันค่ะ ลองดูซิว่าบางทีสาวเฟียรซ์อาจจะข้ามขั้นตอนไหนไป ทำให้เลือกรองพื้นได้ไม่ตรงใจรึเปล่า?
Image source : M.A.C Mineralize Foundation Campaign
|
การเลือกรองพื้นมีง่ายๆ 3 ขั้นตอนค่ะ
1. Coverage หรือ ระดับการปกปิด: ระดับการปกปิดมี 5 ระดับ ขึ้นอยู่กับการแต่งหน้าในแต่ละโอกาส และความชื่นชอบส่วนตัว ได้แก่
Image source : www.narscosmetics.com
a. Sheer Coverage เป็นรองพื้นแบบบางเบาไม่ได้ให้การปกปิดใดๆ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวดีอยู่แล้วและต้องการแต่งหน้าแบบเพื่อโชว์ผิว ต้องการแค่ปรับให้สีผิวดูสม่ำเสมอเนียนเรียบ ให้การแต่งหน้าที่เป็นธรรมชาติ บางแบรนด์ก็จะเรียกว่า Tinted moisturizer
b. Sheer to medium coverage การปกปิดแบบบางเบาไปจนถึงระดับกลาง สำหรับคนที่ต้องการการปกปิดเพียงเล็กน้อย และยังต้องการโชว์ผิวธรรมชาติอยู่ หรือรองพื้นบางแบรนด์จะทำออกมาเป็น buildable coverage คือถ้าใช้แบบบางๆจะให้การปกปิดระดับ sheer แต่ถ้าใช้เยอะๆจะเพิ่มการปกปิดได้ถึงระดับ medium
Image source : www.giorgioarmanibeauty-usa.com
c. Medium coverage การปกปิดระดับกลาง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปกปิดที่เพิ่มมากขึ้น แต่ไม่อยากให้ดูหนาจนเกินไป ให้การปกปิดรอยแบบบางๆได้ ส่วนรอยสิวและรอยแดงที่หนักๆต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยในการปกปิดเฉพาะจุด
d. Medium to full coverage การปกปิดระดับกลางไปจนถึงปกปิดขั้นสุด คล้ายๆกับระดับ sheer to medium coverage คือถ้าใช้แบบบางๆจะให้การปกปิดระดับกลาง แต่เมื่อใช้มากจะให้การปกปิดได้ถึงขั้นสุด
Image source : www.bobbibrowncosmetics.com
e. Full coverage การปกปิดขั้นสุด สำหรับคนที่ต้องการปกปิดทุกอย่างบนใบหน้าเอาไว้ ส่วนใหญ่จะแต่งในการออกงานกลางคืน งานพิธีต่างๆ หรือเมื่อเวลาต้องการหน้าแน่น-หน้าเต็ม
2. Finish เนื้อของรองพื้น ขึ้นอยู่กับระดับการปกปิด ลุคที่ต้องการแต่งหน้า และสภาพผิวหน้า
Image source : en.vogue.fr
a. Dewy finish จะให้ลุคแบบโกลวๆ หน้าวาวๆ เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ผิวแห้ง คนผิวค่อนข้างมันอาจจะต้องระวัง เพราะจะทำให้หน้าดูมันเกินไป ลุคนี้ให้ผิวดูฉ่ำสุขภาพดีตลอดทั้งวัน รองพื้นที่จะให้ dewy finish จะอยู่ในระดับการปกปิดแบบ sheer coverage
Image source : fabulishliving.blogspot.com
b. Satin finish จะให้ลุคกึ่งวาวกึ่งแมทท์ คือไม่มันวาวเท่า dewy แต่ก็ไม่ matte ไปหมด จะให้ความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รองพื้นที่ให้ Satin finish จะอยู่ในระดับการปกปิดแบบ sheer, sheer to medium, medium และ medium to full coverage
Image source : viralfashion.com
c. Matte finish จะให้ลุคที่มันวาวเลย ดูแมทท์สนิท เหมาะสำหรับทุกทกสภาพผิว แต่คนผิวแห้งอาจจะไม่แฮปปี้เท่าไรเพราะจะทำให้หน้าดูแห้งมากกว่าปกติ รองพื้นที่ให้ matte finish จะอยู่ในระดับการปกปิดแบบ medium, medium to full และ full coverage เป็นลุคที่หน้าแน่นหน้าเต็ม ปกปิดทุกอย่างได้มิดชิด
3. Shade & Undertone เป็นขั้นตอนการเลือกสีรองพื้น รองพื้นแต่ละแบรนด์ก็จะมีเลขสีที่แตกต่างกัน และบางแบรนด์ก็จะตั้งชื่อสีของตัวเอง ก่อนอื่นต้องรู้อันเดอร์โทนของตัวเองก่อนว่าอยู่โทนไหน และที่สำคัญควรไปลองที่เคาเตอร์แบรนด์ เพื่อให้ได้สีที่ตรงกับผิวหน้าที่แท้จริง |
เห็นไหมคะว่าการเลือกรองพื้นไม่ได้ยาก แค่จำ 3 ข้อง่ายๆนี้ไว้ รับรองได้รองพื้นที่ไม่แค่ถูกใจถูกใจแต่ถูกกับผิวหน้าและความต้องการของเราแน่นอน!!
หวังว่าสาวเฟียสซ์ทุกคนจะเลือกรองพื้นที่เหมาะกับผิวของตัวเอง ที่สำคัญสาวไทยชอบคิดว่าตัวเองขาว ไม่เอานะคะ เลือกที่สีตรงกับผิวเราจริงๆดีกว่า เราไม่ควรที่จะขาวไม่แคร์คอ หรือรองพื้นดูหลอกเพราะใช้ผิดสีแค่นี้ก็ไม่ต้องเสียความมั่นใจเวลาออกไปข้างนอกอีกแล้วค่ะ
.png){kind=avatar}
