เฟียร์ซเชื่อว่า ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่คนรุ่นใหม่อย่างเราควรจะศึกษา และเรียนรู้ไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะประวัติศาสตร์ทุกเรื่องต่างก็เต็มไปด้วยเรื่องราวอันทรงคุณค่า และถึงแม้ว่าประวัติศาสตร์จะกลายเป็นเรื่องราวในอดีตที่เราไม่สามารถย้อนเวลาไปในช่วงเหตุการณ์นั้นๆได้ แต่เราก็สามารถซึบซับกับกลิ่นไอ หรือสัมผัสกับเรื่องราวในอดีตบางส่วนได้จากพิพิธภัณฑ์ต่างๆที่ยังคงเก็บรักษาประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าเหล่านั้นไว้ และวันนี้เฟียร์ซจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 พิพิธภัณฑ์ทรงคุณค่า ที่น่าไปเยือนที่สุดกันค่ะ
1. พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
(วังสระปทุม) (ปิดให้เข้าชมแล้ว)
Photo Credit : Youtube
สำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เฟียร์ซขอยกให้เป็นหนึ่งในเรื่องความสวยงาม และสมบูรณ์มากที่สุด ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ หอนิทรรศการ จะจัดแสดงนิทรรศการ เรื่อง สายธารประวัติสว่างวัฒน์พิพิธภัณฑสถานซึ่งประกอบไปด้วยพระราชประวัติสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และนิทรรศการการบูรณะซ่อมแซมพระตำหนักใหญ่ วังสระปทุม
Photo Credit : Youtube
และส่วนที่สองนั่นคือ พระตำหนักใหญ่ เป็นพระตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และครอบครัวมหิดลทุกพระองค์ ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญมากมายเกิดขึ้นที่นี่ ทั้งการเป็นสถานที่อภิเษกสมรสของสมเด็จพระบรมราชชนกกับสมเด็จพระบรมราชชนนี และยังเป็นสถานที่จัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถอีกด้วย
Photo Credit : Youtube
Photo Credit : Youtube
นับได้ว่าพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เป็นพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่าที่คนรุ่นใหม่อย่างเราควรมาเยี่ยมชมและช่วยกันรักษามรดกชิ้นสำคัญนี้ไว้ให้คนรุ่นหลังต่อไป โดยพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าจะเปิดให้เข้าชมเป็นช่วงเวลา ซึ่งสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร และวันเวลาการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ที่ queensavangmuseum นะคะ
ที่ตั้ง : เลขที่ 195 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์ : 02 - 252- 1965-7
2. พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
Photo Credit : kingprajadhipokmuseum
Photo Credit : kingprajadhipokmuseum
พิพิธภัณฑ์ของพระมหากษัตริย์อีกหนึ่งพระองค์ที่ล้ำค่ามากทีสุดนั่นคือ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 และนอกจากพระราชประวัติ และพราชกรณียกิจแล้ว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังจัดแสดงพัฒนาการทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอีกด้วย
Photo Credit : kingprajadhipokmuseum
ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องราวของประชาธิปไตย ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยของพระองค์นั่นเอง ซึ่งในส่วนของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พุทธศักราช 2475 นั้นพิพิธภัณฑ์ฯ ได้จัดแสดง ภาพบุคคล เหตุการณ์ และเอกสารสำคัญ รวมไปถึงการจัดแสดงรัฐธรรมนูญฉบับสมุดไทย พระราชลัญจกรประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
Photo Credit : kingprajadhipokmuseum
เห็นมั้ยคะว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีความรู้ และประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่ารอคนรุ่นใหม่อย่างเราไปศึกษาอยู่เพียบเลย โดยพิพิธภัณฑ์ฯจะเปิดให้เข้าชม วันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น อัตรค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท นักเรียน นิสิต นักศึกษา ภิกษุ-สามเณร เข้าชมฟรี ส่วนวันเสาร์-วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เข้าชมฟรีค่ะ
ที่ตั้ง : เลขที่ 2 ถนนหลานหลวง แขวงโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
โทรศัพท์ : 02-280-3413, 02-280-3445 ถึง 46 ต่อ 111, 102 และ 105
3. พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
Photo Credit : qsmtthailand
Photo Credit : qsmtthailand
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สวยงามอลังการไปด้วยเครื่องแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย ที่ยากจะหาใครเหมือน ซึ่งพิพิธภัณฑ์ผ้าฯแห่งนี้เกิดขึ้นจากพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมุ่งหวังให้เป็นแหล่งความรู้ที่ยั่งยืนเกี่ยวกับผ้า ตลอดจนประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกายขงอคนไทยตั้งแต่กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น จนถึงปัจจุบัน และที่พิเศษไปกว่านั้นยังมรการจัดแสดงฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถอีกด้วย นับเป็นบุญตาของเราทุกคนเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ชมความสวยงามเหล่านี้
Photo Credit : qsmtthailand
นอกจากจะเป็นแหล่งรวบรวมความรู้เกี่ยวกับผ้าไทยแล้ว พิพิธภัณฑ์ผ้าฯแห่งนี้ ยังเป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บรักษาผ้าไทย และเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจัดแสดงงานหัตถศิลป์อันทรงคุณค่าทั้งของราชสำนัก และผ้าพื้นเมืองจากท้องถิ่นต่างๆ เพื่อเป็นการสืบสานสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าให้คงอยู่สืบไป
Photo Credit : qsmtthailand
เฟียร์ซเชื่อว่าพิพิธภัณฑ์ผ้าฯแห่งนี้จะเป็นอีหหนึ่งแรงบันดาลใจ และแหล่งเรียนรู้ที่ดีที่สุดให้กับทุกคนที่สนใจ และรักในผ้าไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งใครสนใจเดินทางมาเข้าชม ทางพิพิธภัณฑ์จะเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-16.30 น. ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 15.30 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150 บาท ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 80 บาท นักเรียน/นักศึกษา 50 บาท เด็กอายุ 12-18 ปี 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าชมฟรีค่ะ
ที่ตั้ง : ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง
โทรศัพท์ : 02-225-9420 และ 02-225-9430
4. พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน
Photo Credit : policemuseum
Photo Credit : policemuseum
นับเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ทรงคุณค่าอีกหนึ่งแห่งของชาติเลยก็ว่าได้ เพราะที่พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวันแห่งนี้ได้จัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ตำรวจไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเมื่อมาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับเครื่องแบบของตำรวจในยุคสมัยต่างๆ ที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน รวมไปถึงอาวุธปืนในสมัยต่างๆที่ต่างก็มีรูปแบบ และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป
Photo Credit : policemuseum
รวมไปถึงการจัดแสดงเรื่องราวของพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์มีต่อข้าราชการตำรวจ นอกจากนั้นพิพิธภัณฑ์ตำรวจแห่งนี้ยังจัดเเสดงเรื่องราวของวัตถุในคดีความที่มีความสำคัญหลายต่อหลายคดีในอดีตอีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นเเหล่งที่สามารถให้ความรูให้กับเยาวชนได้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อใช้เป็นความรู้ในการทำคดีความต่างๆอีกด้วย
Photo Credit : policemuseum
ใครที่ชอบแนวสืบสวนสอบสวน หรืออยากจะมารู้ประวัติศาสตร์ของคดีต่างๆในอดีต เฟียร์ซว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลย แถมมาที่นี่นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังได้ชมสถาปัตยกรรมสวยของวังปารุสกวันอีกด้วย ซึ่งการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ตำรวจแห่งนี้สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ วันพุธ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.00 น.
ที่ตั้ง : ถ.ราชดำเนินนอก แขวงดุสิต เขตดุสิต กทม.10300
โทรศัพท์ : 02-282-5057
5. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี
Photo Credit : National Museum of Royal Barges
Photo Credit : National Museum of Royal Barges
ใครที่ชื่นชอบและประทับใจในความวิจิตรงดงามของเรือพระราชพิธีต่างๆ เฟียร์ซขอแนะนำว่าให้มาที่ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธีเลยค่ะ เพราะสถานที่แห่งนี้คือ อู่เก็บเรือที่ใช้ในพระราชพิธีต่างๆ ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีเรื่อยมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งความพิเศษของเรือพระราชพิธีทั้งหมดนี้ คือทั้งหมดเป็นเรือขุด ที่ทำจากต้นไม่ทั้งต้น นำมาขุดจนได้เป็นเรือพระราชพิธีทรงคุณค่าเหล่านี้
Photo Credit : National Museum of Royal Barges
โดยเรือพระราชพิธีเก็บอยู่ในตอนนี้ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงษ์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ และเรือพระที่นั่งอื่น ๆ อีกหลายลำ ที่รับรองว่าใครได้เข้ามาเยี่ยมชม ก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สวยงามเกินคำบรรยายจริงๆ และนอกจากนั้นยังจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ประกอบต่างๆ ใน พระราชพิธีทางชลมารค เช่น บัลลังก์บุษบก บัลลังก์กัญญา พายชนิดต่างๆ และเครื่องแต่งกายของเหล่าฝีพาย
Photo Credit : National Museum of Royal Barges
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธีแห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. โดยจะปิดช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่และวันหยุดสงกรานต์ และอัตราค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท ค่าธรรมเนียมถ่ายภาพ 100 บาท วีดีโอ 200 บาทค่ะ
ที่ตั้ง : ปากคลองบางกอกน้อย ตรงข้ามสถานีรถไฟบางกอกน้อย
โทรศัพท์ : 02-424-0004
6. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
Photo Credit : nationalmuseumbangkok
Photo Credit : nationalmuseumbangkok
สำหรับพิพิธภัณฑ์อันล้ำค่าแห่งนี้ เค้าว่ากันว่าเป็นแลนมาร์คของกรุงเทพมหานครเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่เก็บสมบัติสำคัญของชาติไว้มากมาย โดยจะใช้หน้าวังเดิมนำมาปรับปรุงจนเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครที่เต็มไปด้วยความรู้ทางประวัติศาสตร์มากมาย ที่พร้อมให้คนรุ่นใหม่อย่างเราๆเข้าไปศึกษา และเรียนรู้
Photo Credit : nationalmuseumbangkok
โดยนิทรรศการที่จัดแสดงแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ ประวัติศาสตร์แห่งแผ่นดินไทย ประณีตศิลป์สืบสมัย และ ประวัติศาสตร์ศิลป์ไทยสืบสาน นอกจากที่ได้ชมโบราณวัตถุทรงคุณค่า นับหลายร้อยปีแล้ว ยังจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของหน้าวังในอดีตอีกด้วย เหมือนกับได้นั่งไทม์แมชชีนกลับไปในประวัติศาสตร์ยังไงยังงั้นเลยล่ะค่ะ
Photo Credit : nationalmuseumbangkok
จัดเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ช่วยสร้างภาพจำลองของประวัติศาสตร์ได้อย่างชัดเจน เฟียร์ซว่าใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ของชาติ ห้ามพลาดที่นี่เลย โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครเปิดให้เข้าชมในวันพุธ - วันอาทิตย์ หยุดวันนักขัตฤกษ์ และยกเว้นเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. อัตรค่าบริการ นักท่องเที่ยวชาวไทย เข้าชมฟรี! ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 200 บาท และมีบริการนำชมฟรี โดยอาสาสมัครพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ทุกวันอาทิตย์ 2 รอบ รอบเช้า 10.00-12.00 น. รอบบ่าย 13.30 - 15.30 ค่ะ
ที่ตั้ง : ซอย หน้าพระธาตุ แขวง พระบรมมหาราชวัง เขต พระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
โทรศัพท์ : 02-224-1333
7. หออัครศิลปิน
Photo Credit : thesupremeartisthal
Photo Credit : thesupremeartisthal
เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ ที่ทรงเป็นเลิศในศิลปะทั้งมวล และทรงได้รับการยกย่องสดุดีพระเกียรติคุณ และได้รับการทูลเกล้าพระราชสมัญญาว่า "อัครศิลปิน" ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เกิดหออัครศิลปินแห่งนี้ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อเป็นสถานที่เก็บรักษาสมบัติิอันทรงคุณค่าไว้ต่อไป
Photo Credit : thesupremeartisthal
โดยภายในหออัครศิลปินแห่งนี้ได้ัแสดงพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในด้านศิลปะและวัฒนธรรม ทั้งภาพวาดฝีพระหัตถ์ และสำเนาภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ รวมถึงเป็นที่จัดแสดงผลงานต่างๆของศิลปินแห่งชาติอีกด้วย
Photo Credit : thesupremeartisthal
สำหรับใครที่อยากจะเดินมาเข้าชมพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมไปถึงเข้าชมผลงานของศิลปินแห่งชาติ หออัครศิลปินได้เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.30 - 16.00 น.ค่ะ
ที่ตั้ง : ถนนเลียบคลองห้า ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120
โทรศัพท์ : 02-986-5020 - 4
8. พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก
Photo Credit : bangkok
Photo Credit : BkkMuseum
สำหรับพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกแห่งนี้ เหมาะมากกับคนที่อยากรู้ถึงวิถีชีวิตของคนบางกอกในสมัยก่อน ซึ่งย้อนกลับไปในช่วงก่อน และหลังสงครามโลกเลยล่ะค่ะ ภายในพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกแห่งนี้อัดแน่่นไปด้วยกลิ่นไอของประวัติศาสตร์มากมาย ทำให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้รู้ถึงความเป็นอยู่ที่ดูแล้วช่างเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยคุณค่าที่คนรุ่นหลังอย่างเราไม่สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบนี้ได้ แต่ที่นี่ ที่พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกแห่งนี้ได้จำลองมาให้แล้ว
Photo Credit : BkkMuseum
ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ และที่พิเศษสุดๆก็ตรงข้างของเครื่องใช้ที่จัดแสดงอยู่ในพิพธภัณฑ์นี่แหละค่ะ เพราะทุกชิ้นล้วนแล้วแต่เคยเป็นของที่เป็นของเจ้าของบ้านตัวจริง ผ่านการใช้งานจริง และเก็บรักษามาเป็นหลายสิบปีกันเลย
Photo Credit : BkkMuseum
เฟียร์ซรับรองว่า มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะไม่มีคำว่าผิดหวังกลับไปแน่นอน แถมยังได้ความรู้ดีๆกลับไปเล่าให้เพื่อนๆฟังต่ออีกด้วย เอาเป็น่าใครสนใจอยากมาเยี่ยมชม ทางพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกจะเปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.ค่ะ
ที่ตั้ง : 273 ซอยเจริญกรุง 43 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทรศัพท์ : 02-233-7027
9. พิพิธภัณฑ์ปืนใหญ่โบราณ
Photo Credit : PRops
Photo Credit : museumdatabase
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เฟียร์ซเชื่อว่าเป็นคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่างแน่นอน เพราะตั้งอยู่ใกล้ใจกลางกรุงเทพมหานคร อย่างสนามหลวง เพราะงั้นใครได้ไปที่นั่นคงจะได้เห็นภาพปืนใหญ่หลายกระบอก ตั้งตระหง่านอยู้หน้ากระทรวงกลาโหมอย่างแน่นอน แต่ก็น้อยคนนักนะคะที่จะรู้ว่าตรงนี้คือ พิพิธภัณฑ์ปืนใหญ่โบราณ ซึ่งที่นี่ใครที่อยากศึกษาเรื่องปืนใหญ่โบราณล่ะก็ มาแล้วไม่มีผิดหวังเลยค่ะ
Photo Credit : พิพิธภัณฑ์ปืนใหญ่
โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงปืนใหญ่โบราณไว้มากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เคยผ่านสงครามมาแล้วในอดีต ซึ่งเค้าจะเรียงลำดับหมวดหมู่ตามอายุและยุคสมัยของปืน เริ่มจากปลายกรุงศรีอยุธยา ธนบุรี จนถึงรัตนโกสินทร์ และถ้าใครคิดว่าปืนใหญ่อายุกว่าร้อยปีมาแล้ว จะมีความสมบูณ์มากแค่ไหน เฟียร์ซขอบอกเลยว่า พิพิธภัณฑ์ปืนใหญ่โบราณแห่งนี้ เค้าดูแลรักษาสมบัติล้ำค่าเหล่านี้เป็นอย่างดีค่ะ
Photo Credit : พิพิธภัณฑ์ปืนใหญ่
และนอกจากจะตื่นตาตื่นใจกับปืนใหญ่ยุคสงครามกันแล้ว ยังจะได้ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมยุโรป ด้านหน้ากระทรวงกลาโหม ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น และแน่นอนว่า มันยังคงสวยงามมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ซึ่งพิพิธภัณฑ์ปืนใหญ่โบราณจะเปิดให้เข้าชมฟรีในวันจันทร์ - วันศุกร์ โดยแบ่งรอบการเข้าชมเป็น 2 รอบ รอบแรกเวลา 12.00 น. ลงทะเบียนเข้าชม 11.30 น. และรอบที่ 2 เวลา 19.00 น. ลงทะเบียนเข้าชม 18.30 น.ค่ะ
ที่ตั้ง : ศาลาว่าการกลาโหม ถนนสนามไชย เขตพระนคร 10200
โทรศัพท์ : 02-225-8262
10. พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ หรือ มิวเซียมสยาม
Photo Credit : museumsiamfan
Photo Credit : museumsiamfan
มิวเซียมสยามแห่งนี้ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เเนวใหม่ที่มีความน่าสนใจเเละฉีกเเนว โดยนำเอาอาคารเก่ามาปรับปรุงให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง และด้วยการจัดเเสดงที่เป็นเอกลักษณ์เเละมีการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการจัดเเสดง เลยทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นเเหล่งการเรียนรู้ที่มีความสำคัญอย่างมากอีกเเห่งเลยทีเดียว
Photo Credit : museumsiamfan
โดยมิวเซียมสยามถูกสร้างขึ้นภายในเเนวคิดที่ว่า อยากให้ทุกการเรียนรู้ สนุกกว่าที่คิด ซึ่งทำให้มันกลายเป็นสถานที่สำหรับการเรียนรู้ทางด้านของวิชาการเเละมีการเรียนรู้องค์ความรู้ที่น่าสนใจ อีกทั้งมันยังเป็นสถานที่พักผ่อนในกรุงเทพที่ไม่ว่าแขกไปใครมาก็ต้องมาที่นี่กันทุกคน
Photo Credit : museumsiamfan
ซึ่งนิทรรศบางส่วนของที่นี่จะเป็น นิทรรศการถาวร ที่จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของดินเเดนเเห่งนี้ตั้งเเต่อดีต ซึ่งสามารถย้อนกลับไปได้ถึง 3,000 ปีเลยทีเดียว ซึ่งมีอารยธรรมต่างๆ มากมายทั้ง อินเดีย จีน จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมไทยในปัจจุบันนั่นเองค่ะ โดยมิวเซียมสยามแห่งนี้จะเปิดให้เข้าชมในวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 10.00 - 18.00 น. โดยมีอัตราค่าเข้าชมในเรทสำหรับชาวไทย 100 บาท สำหรับชาวต่างชาติ 200 บาท โดยมีไกด์รองรับสำหรับการเข้าชมเป็นหมู่คณะอีกด้วยค่ะ
ที่ตั้ง : 4 ถนน สนามไชย เขต พระนคร แขวง พระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทรศัพท์ : 02-225-2777
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 พิพิธภัณฑ์ที่เฟียร์ซเอามาฝากกันในวันนี้ น่าไปทุกที่เลยว่ามั้ยล่ะคะ ก็อย่างที่เฟียร์ซบอกแหละค่ะว่า ประวัติศาสตร์หรือเรื่องราวในอดีตนั้นมีคุณค่า และควรค่าแก่ไปการไปเรียนรู้เสมอ และพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ก็มีหน้าที่ให้มอบความรู้เหล่านั้นให้กับพวกเรา ฉะนั้นคนรุ่นใหม่อย่างเราควรจะไปศึกษา และอนุรักษ์ประวัติศาสตร์อันล้ำค่าเหล่านี้ด้วยกันนะคะ