นี่คือการร่วมงานกันครั้งล่าสุดระหว่าง H&M และนักออกแบบแฟชั่นจากนิวยอร์ก Ev Bravado และ Téla D’Amore ที่พาไปสำรวจผลงานระดับตำนานของฌอง-มิเชล บาสเกีย (Jean-Michel Basquiat) ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงที่เขาได้สร้างไว้ให้กับกลุ่มคนสร้างสรรค์ผิวดำรุ่นหลัง คอลเลคชันเสื้อผ้ากว่า 30 ชิ้นที่ผสมผสานเข้ากับภาพวาดที่เป็นตำนานของบาสเกีย ผลงานศิลปะที่แทบจะหาชมได้ยาก แสดงในรูปแบบสีสันสดใสด้วยงานดีไซน์ของ Bravado และ D'Amore พร้อมจัดจำหน่ายที่เว็บไซต์ th.hm.com และร้านค้าสาขาเซ็นทรัลเวิลด์และสยามพารากอนในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
Ev Bravado และ Téla D’Amore คือนักออกแบบได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารอบรองชนะเลิศสำหรับรางวัล LVMH Prize ปี 2024 และเป็นผู้เข้ารอบสุดท้ายในเวทีสำหรับนักออกแบบหน้าใหม่อย่าง CFDA/Vogue Fashion Fund ปี 2023 โดย Ev Bravado และ Téla D’Amore เป็นที่รู้จักจากผลงานที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน การตัดเย็บเสื้อผ้าโดยช่างมากฝีมือ และการเลือกใช้วัสดุผ้าเดนิมรีไซเคิล ความร่วมมือกันกับ H&M ในครั้งนี้ พวกเขายังคงเลือกวิธีการเบลอเส้นแบ่งระหว่างโลกของแฟชั่น ศิลปะ และวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน มากไปกว่านั้นคือความตั้งใจในการขยายรายละเอียดผลงานศิลปะของฌอง-มิเชล บาสเกียผ่านงานพิมพ์ งานปัก และงานปะปักแผ่นแพชท์บนงานศิลปะซิลลูเอตต์ที่เป็นลายเซนต์ของเขา
บาสเกียได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในศิลปินที่สำคัญที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 แรงบันดาลใจจากเส้นทางชีวิตของเขาที่เริ่มจากการเป็นศิลปินสตรีทจนถึงการเป็นที่รู้จักจากผลงานศิลปะชื่อดังหลายต่อหลายชิ้น ทั้ง Ev Bravado และ Téla D’Amore มีความเชื่อว่าผลงานของบาสเกียที่ถูกส่งต่อมานั้นทำหน้าเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจในชีวิตประจำวันถึงความสามารถในการลงมือทำอย่างไม่มีขีดจำกัด
“สำหรับพวกเรา บาสเกียมีอิทธิพลและมีความยิ่งใหญ่มากกว่าการเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง การได้สำรวจไปยังผลงานสำคัญของเขาและเลือกงานศิลปะที่อาจไม่ค่อยถูกพูดถึงนั้นถือเป็นสิ่งที่มีความหมาย สิ่งที่ตกทอดมาจากการสร้างสรรค์ของบาสเกียนั้นเป็นแรงสนับสนุนสำคัญต่อวิสัยทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเรา ผลักดันให้คอลเลคชันนี้ไปไกลในระดับโลกโดยมี H&M ช่วยสร้างความพิเศษให้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพราะทำให้คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้” Ev Bravado และ Téla D’Amore กล่าว
“สำหรับ Ev และ Téla พวกเขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่นอย่างรวดเร็ว และเรารู้ว่าพวกเขาจะยกย่องต่อวิสัยทัศน์ของบาสเกียไปพร้อมกับการเพิ่มสไตล์ที่โดดเด่นให้กับงานศิลปะของเขา ใจความสำคัญสำหรับผลงานระดับตำนานคือการส่งเสริมและเน้นย้ำถึงพลังการสร้างสรรค์ของคนผิวดำ และด้วยการนำเสนอบนแพลทฟอร์มระดับโลกโดย H&M พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปะรุ่นใหม่ในการที่จะส่งต่อจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์ของเขา” กล่าวโดย ลิแซน บาสเกีย (Lisane Basquiat) และ ฌานีน เฮอริโวซ์ (Jeanine Heriveaux) น้องสาวของฌอง-มิเชล บาสเกีย
เสื้อผ้าจากคอลเลคชันนี้มีทั้งหมด 30 ชิ้น ประกอบด้วยเสื้อตัดเย็บพิเศษ แจ็คเก็ต เสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงยีนส์ เสื้อฮู้ด เสื้อยืด เดรส กระโปรง เสื้อทรงคอร์เซต รวมถึงชุดเครื่องประดับ เริ่มที่เสื้อแจ็คเก็ตบอมเบอร์ประดับด้วยงานศิลปะสีสด Ass Killer ที่วาดขึ้นในปี 1984 มาพร้อมการปักลายบนรูปทรงหน้าต่างโค้งของดีไซเนอร์ เสื้อเบลเซอร์สีดำที่มีลายมือของบาสเกียที่ว่าด้วยนักดนตรีแจ๊สผู้ยิ่งใหญ่ ชาร์ลี ปาร์คเกอร์ (Charlie Parker) และไมลส์ เดวิด (Miles Davis) (รายชื่อผลงาน 1, 1984) และกางเกงหนังสีดำแบบหรูที่อ้างอิงถึงผลงานศิลปะ Untitled (Ideal) จากปี 1988 และ Untitled (World Famous) จากปี 1983 ไอเทมอื่น ๆ ที่พลาดไม่ได้ ได้แก่ แจ็กเก็ต
เดนิมสไตล์ดิสเทรตแบบยูนิเซ็กซ์และกางเกงยีนส์ที่เข้าชุดกันกับงานศิลปะของบาสเกียที่จัดวางไว้อย่างพิเศษ
“Ev และ Téla ได้แปลผลงานศิลปะชิ้นที่เป็นตำนานของบาสเกียและนำมาเล่าใหม่ผ่านมุมมองร่วมสมัย ส่งผลให้คอลเลคชันนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ มีความหมาย และน่าตื่นเต้น พวกเขายังมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและรู้ถึงความเชื่อมโยงต่อชีวิต ค่านิยม และศิลปะของบาสเกีย โดยเข้าใจว่าทั้งหมดนี้นั้นสอดคล้องกับแนวโน้มทางวัฒนธรรมในปัจจุบันอย่างไร คอลเลคชันนี้เป็นไปตามแนวคิดแบบแม็กซิมอลิสต์ของพวกเขา นั่นคือการออกแบบภายใต้โจทย์ 'more is more' ที่ซึ่งแนวทางด้านศิลปะนั้นเชื่อมโยงกับบาสเกีย ทำให้การทำงานร่วมกันนี้มีความโดดเด่น” แอนา เฮอนานเดซ (Ana Hernandez) นักออกแบบเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายของ H&M กล่าว