Piaget เปิดตัวนาฬิกาสไตล์จิวเวลลี่คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดในชื่อ Sixtie ที่ถ่ายทอดแนวคิดแสนขบถของเมซงในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ที่มุ่งมั่นในการทลายขีดจำกัดขนบการผลิตนาฬิกาแบบเดิมๆ สู่นิยามใหม่ของเรือนเวลาที่ไม่มีใครเทียบได้ คอลเลคชั่นนี้จะสวยงามขนาดไหนและมีความพิเศษอย่างไร มารับชมภาพสวยๆไปพร้อมกันได้เลยค่าาา
เพียเจต์เดินหน้าฉลองมรดกทางความคิดสร้างสรรค์ที่สะท้อนถึงความเรืองรองช่วงยุค 1960s อีกครั้ง ด้วยการหยิบหัตถศิลป์อันเชี่ยวชาญทุกแง่มุมที่โลดแล่นอยู่ในตัวช่างฝีมือในอเตลิเยร์ มาผนวกไว้ในเรือนเวลา จากคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง Sixtie - การนำเสนอรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูอันเป็นรูปทรงที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องของศิลปะและความกล้าที่จะแตกต่างครั้งนี้ เป็นการข้ามผ่านหลายทศวรรษ ที่แม้องค์ประกอบจะถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดรับกับบริบทยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่เสน่ห์และรากฐานสำคัญเกี่ยวกับการเล่นกับรูปทรงของเมซงยังคงสานต่อขนบเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นาฬิกาสไตล์จิวเวลรี่จากคอลเลคชั่น Sixtie นี้ โดดเด่นด้วยดีไซน์ตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมคางหมู - หนึ่งในรูปทรงสะดุดตาที่ปรากฏบน Jewellery watch ของเมซงมาหลายทศวรรษ สำหรับคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ รูปทรงดังกล่าวได้รับการปรับแต่งให้มีความนุ่มนวลและสง่างามยิ่งขึ้นตามยุคสมัย เสริมความหรูหราด้วยการใช้วัสดุทองคำสอดแทรกลงบนดีเทลแต่ละชิ้นส่วน สายนาฬิกาได้รับการออกแบบให้ข้อสายมีข้อต่อเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูเช่นเดียวกับตัวเรือน มาพร้อมคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่น โค้งรับกับข้อมือได้อย่างไร้ที่ติ
ขณะที่ซิกเนเจอร์ดีไซน์สำคัญที่ปรากฏในช่วงต้นยุค 1970s อย่าง โมทีฟ gadroon ถูกหยิบมานำเสนออย่างประณีตบนขอบตัวเรือน สะท้อนถึงจิตวิญญาณของนาฬิกา Andy Warhol ทั้งยังสื่อถึง Piaget Society ที่หลงใหลในความทันสมัยของเมซงได้อย่างเต็มภาคภูมิ หน้าปัดขัดแต่งแบบซาติน มาพร้อมเครื่องหมายบอกชั่วโมงและเข็มนาทีทรงบาตอง ที่ผสานเข้ากับเส้นสายที่สะอาดตาของตัวเลขโรมันได้อย่างลงตัว
Sixtie จึงเป็นมากกว่านาฬิกา เพราะ Sixtie คือนาฬิกาในสไตล์จิวเวลรี่ ที่สะท้อนถึงนิยามใหม่แห่งความสง่างาม เปี่ยมด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังก้าวข้ามข้อจำกัดของขนบเดิมเกี่ยวกับการออกแบบรูปทรงตัวเรือนได้อย่างแท้จริง และไม่ว่าจะสวมใส่ Sixtie เพียงชิ้นเดียวในชีวิตประจำวัน หรือสไตลิ่งกับจิวเวลรี่ชิ้นอื่น Sixtie ยังคงส่งมอบเวลาด้วยจิตวิญญาณที่ทันสมัย อีกทั้งสะท้อนถึงอิสระของเหล่าสุภาพสตรีในการเลือกนิยามความสง่างามให้กับตนเอง เช่นเดียวกับเส้นสายโค้งมนและรูปทรงอสมมาตรของสี่เหลี่ยมคางหมู ที่สื่อถึงความไร้กาลเวลาและความร่วมสมัยไม่ตามใคร ผสานด้วยจังหวะอันเป็นเอกลักษณ์ของกลไกควอตซ์ที่ชวนให้เซอร์ไพรส์ในทุกวินาที
โดยผลงานคอลเลคชั่น Sixtie ล่าสุดนี้ เมซงสร้างสรรค์มาให้เลือกอย่างหลากหลายทั้งในแง่ดีไซน์และวัสดุ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นอย่าง ตัวเรือนสตีลประดับเพชร, ตัวเรือนสตีลผสมทองคำสีพิงค์โกลด์ ไปจนถึงรุ่นตัวเรือนทองคำสีพิงค์โกลด์ที่มีให้เลือกทั้งแบบประดับเพชรเพิ่มความระยิบระยับ และรุ่นไม่ประดับเพชรในดีไซน์เรียบหรู ทั้งหมดนี้คือชิ้นงานในคอลเลคชั่น Sixtie ที่เปรียบได้ดั่งตัวแทนวิสัยทัศน์ของผู้หญิงที่สวมใส่ มิติที่หลากหลายของความเป็นผู้หญิง การเป็นตัวเองอย่างไร้ขีดจำกัด ที่พร้อมทำให้ทุกช่วงเวลาเป็นที่น่าจดจำ