หลายๆคนยังประสบปัญหาไม่รู้ว่า เบส (base) กับ ไพรเมอร์ (primer) ต่างกันยังไง ใช้ยังไง และใช้เพื่ออะไร ต้องบอกก่อนว่า ไพรเมอร์ และ เบส ทั้งคู่ใช้ลงก่อนรองพื้น โดยทั่วไปหลังล้างหน้าแล้วมีขั้นตอนการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าง่ายๆ ดังนี้
Photo credit : KitiyaKamdee/fiercebook.com
หลังล้างหน้าแล้วให้ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อน ตามด้วยครีมกันแดด จากนั้นตามด้วยเบส หรือ ไพรเมอร์ เป็นสิ่งสุดท้ายก่อนลงรองพื้น เทคนิคในการจำง่ายๆก็คือ ไพรเมอร์ต้องลงก่อนรองพื้นเสมอ
ไพรเมอร์ (primer)
คือเจลที่ผสมระหว่างซิลิโคนกับน้ำ ใช้สำหรับเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าอันเกิดจากความร่วงโรยของวัย และเติมเต็มรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าลื่น เรียบเนียน ลงรองพื้นได้เนียนยิ่งขึ้น ทำให้เมคอัพติดทนนานกว่าผิวหน้าที่ไม่ได้ลงไพรเมอร์
เบส (base)
หรือบางแบรนด์เรียกว่า Color Correcting Primer คือไพรเมอร์ชนิดหนึ่งที่มีสี ซึ่งทำหน้าที่ในการปรับสีของผิวให้พอดี หรือปรับให้เป็นอย่างที่ต้องการ เช่น ต้องการมีหน้าอมชมพู ต้องการให้หน้าดูเปล่งประกาย ซึ่งแต่ละสีจะให้เอฟเฟ็คต่างกันตามทฤษฎีสี นอกจากนี้ เบสสามารถใช้ได้เฉพาะจุดที่มีปัญหา ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหน้า
1. สีเขียว จะช่วยลดรอยสีแดงบนใบหน้า เช่น รอยสิว รอยผื่นแดง และเส้นเลือดฝอย สำหรับคนที่ผิวขาวเท่านั้น เพราะถ้าคนผิวคล้ำใช้จะทำให้หน้าเทา
2. สีฟ้า ช่วยลดรอยหมองคล้ำให้ดูจางลงได้ อย่างเช่นพวกรอยกระ รอยฟ้า และรอยสิว นอกจากนี้ยังช่วยทำให้สีผิวดูสม่ำเสมออีกด้วย
3. สีม่วง จะช่วยให้หน้าสว่างกระจ่างใสขึ้น ทำให้หน้าที่หมองคล้ำจากการพักผ่อนน้อยดูไบรท์ และช่วยในเรื่องสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
4. สีเหลือง สำหรับคนผิวเหลืองค่อนไปทางผิวแทน จะช่วยให้ผิวดูเนียนสม่ำเสมอ สว่างขึ้น และลดรอยแดงบนใบหน้าสำหรับคนที่มีผิวเหลือง
5. สีพีช จะช่วยเรื่องรอยคล้ำบนใบหน้า ส่วนใหญ่แล้วใช้กับรอยคล้ำใต้ตาสำหรับคนที่มีเส้นเลือดใต้ฝอยสีฟ้า ก็จะทำให้สีฟ้าดูจางลงได้
6. สีขาว ทำหน้าที่คล้ายๆไฮไลท์เหมาะสำหรับใช้เฉพาะจุดที่ต้องการเน้นให้สว่างเท่านั้น เหมาะสำหรับการแต่งหน้าไปงานกลางคืน
7. สีน้ำตาลบรอนซ์ ทำหน้าที่เป็นเหมือนบรอนเซอร์ จะช่วยให้หน้าดูมีมิติยิ่งขึ้น
8. สีชมพู และสีแดง เหมาะสำหรับคนที่ผิวขาวซีด เพราะจะช่วยให้หน้าดูมีเลือดฝาด มีสีชมพูระเรื่อ และแลดูผิวมีสุขภาพดี