เทรนด์ออยล์บำรุงผิวกำลังมาแรง จริงๆ แล้วเราใช้ออยล์บำรุงกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ว่าจะกรีก อียิปต์ หรือไทยเองก็มีน้ำมันบำรุงผิว แต่แล้วเราก็เลิกฮิตไปเพราะความหนักและเหนียวของน้ำมัน แต่โชคดีที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยสกัดน้ำมันบำรุงผิวให้ดีขึ้น มีความบางเบา ซึมเร็ว และได้คุณประโยชน์จากพืชแบบเต็มๆ จะมีน้ำมันอะไรบ้างที่ถูกใช้เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ไปดูกันเลยค่า~
1. โจโจ้บาออยล์ (Jojoba Oil)
โจโจ้บาออยล์เป็นส่วนผสมที่ใช้กันเยอะมากในสกินแคร์ สกัดจากเมล็ดของโจโจ้บา มีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น บำรุงผิวหน้า ผิวกาย และเส้นผม ฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาสวยเปล่งปลั่งได้อีกครั้ง ในโจโจบาออยล์มีวิตามินซี วิตามินบีรวม วิตามินอี และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อผิวมากมาย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการสมานรอยแผลต่างๆ บนผิว ทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิมอีกครั้งค่ะ
Photo credit : Bigstockphoto.com
2. อาร์แกนออยล์ (Argan Oil)
อาร์แกนออยล์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าโมร็อกแคนออยล์ (Moroccan Oil) อุดมไปด้วยวิตามินอีที่มีประโยชน์ต่อผิวหน้า ผิวกาย และเส้นผม อาร์แกนออยล์ถูกสกัดมาจากผลอาร์แกนที่เจริญเติบโตอยู่ในโมร็อกโก ซึ่งไม่ได้มีเยอะนะคะ มีความหายากอยู่ในระดับหนึ่ง นอกจากวิตามินอีแล้วยังมีกรดไขมันดีมากมาย เหมาะกับผิวแพ้ง่าย อาร์แกนออยล์มีคุณสมบัติในการรักษาความอักเสบบนผิว เติมความชุ่มชื้นให้ผิว และซึมลงสู่ผิวได้ง่าย บำรุงให้ผิวแข็งแรงจากภายในค่ะ
Photo credit : Bigstockphoto.com
3. อัลมอนด์ออยล์ (Almond Oil)
อัลมอนด์ออยล์เป็นน้ำมันสกัดจากต้นอัลมอนด์ มีวิตามินบำรุงผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี6 วิตามินดี และวิตามินอีสูงมาก มีคุณสมบัติในการสมานแผล รักษาผิวหนังให้กลับมาเนียนเรียบสวยงามเหมือนเดิม ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างล้ำลึก ป้องกันผิวสูญเสียน้ำ นอกจากนี้ยังลดอาการอักเสบของผิว มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบนผิวได้อีกด้วยค่ะ
Photo credit : Bigstockphoto.com
4. โคโคนัทออยล์ (Coconut Oil)
โคโคนัทออยล์ หรือน้ำมันมะพร้าวบ้านเรานี่แหละค่ะ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ทั่วเรือนร่าง รวมทั้งเส้นผม ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ทำให้แผลที่ผิวสมานเร็ว มีวิตามินอีสูง และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระทำให้ผิวสวยอ่อนเยาว์ เอามาหมักผมแล้วผมสวยเงางามมากๆ คืนความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึกค่ะ
Photo credit : Bigstockphoto.com
5. แฟลกซ์ซีดออยล์ (Flaxseed Oil)
แฟลกซ์ซีดออยล์ หรือน้ำมันจากเมล็ดลิน (Linseed) ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เนียนเรียบ และอ่อนนุ่ม มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวสวยอ่อนเยาว์อยู่เสมอ นอกจากนี้แฟลกซ์ซีดออยล์ยังนิยมนำมารับประทานเพื่อสุขภาพ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ทำให้อ่อนเยาว์จากภายในสู่ภายนอกค่ะ
Photo credit : Bigstockphoto.com
6. ทรีทีออยล์ (Tea Tree Oil)
บอกก่อนว่าทรีทีออยล์ไม่ใช่ชาเขียว แต่เป็นต้นไม้ที่มีชื่อว่า “ทรีที” มีต้นกำเนิดอยู่ที่ออสเตรเลีย ซึ่งชนเผ่าพื้นเมืองใช้เป็นยารักษาโรคและสมานแผลต่างๆ น้ำมันสกัดจากต้นทรีทีมีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของผิว ฆ่าเชื้อสิว และลดไขมันที่อุดตันรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุของสิว พร้อมทั้งสมานผิวที่เป็นแผลจากสิว ทำให้ผิวสวยเรียบเนียน หน้ากลับมาสวยในเหมือนเดิมเป๊ะเลยค่ะ
Photo credit : Bigstockphoto.com
7. โรสฮิปออยล์ (Rosehip Oil)
น้ำมันสกัดจากเมล็ดโรสฮิปมีวิตามินเอ วิตามินซีสูง รวมทั้งกรดไขมันโอเมก้า3 โอเมก้า6 และโอเมก้า9 ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและล้ำลึก กระตุ้นการเซลล์ผิวใหม่ เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้สุดๆ พร้อมทั้งลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ เพิ่มความกระจ่างใส และกระตุ้นการเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวสวยแซ่บ โดยที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ โรสฮิปออยล์จึงนิยมนำมาบำรุงผิวมากๆ ค่ะ
Photo credit : Bigstockphoto.com
8. อโวคาโดออยล์ (Avocado Oil)
อโวคาโดนอกจากจะนำมาทำอาหารอร่อยแล้ว ยังสามารถสกัดเป็นน้ำมันเพื่อนำมาบำรุงผิวได้อีกด้วย ในอโวคาโดออยล์มีวิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี5 วิตามินดี วิตามินอี และกรดไขมันจำเป็นต่างๆ ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง ฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียน ลดอาการคัน และแตกลายบนผิว นอกจากนี้ยังช่วยรักษาคอลลาเจนในชั้นผิวได้อีกด้วยค่ะ
Photo credit : Bigstockphoto.com
9. มารูล่าออยล์ (Marula Oil)
มารูล่าออยล์สกัดจากผลมารูล่ามีลักษณะคล้ายๆ กับอาร์แกนออยล์ แต่จะเข้มข้นกว่าเหมาะสำหรับคนผิวแห้ง-แห้งมาก เนื้อออยล์ซึมเร็วและซึมลึกถึงชั้นผิว มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินอีสูง ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ดี รวมทั้งลดรอยแผลเป็นบนผิว เช่น พวกรอยสิว รอยดำ รอยแดงต่างๆ ทำให้ผิวเรียบเนียน อ่อนนุ่ม และปรับสมดุลความชุ่มชื้นในผิว ใช้ได้กับทั้งผิวหน้า ผิวกาย และเส้นผมค่ะ
Photo credit : Bigstockphoto.com
10. ซีบัคธอร์นออยล์ (Sea Buckthorn Oil)
น้ำมันจากผลซีบัคธอร์นมีจุดเด่นอยู่ที่การต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินบำรุงผิวหลากหลายชนิด มีกรดไขมันโอเมก้า3 โอเมก้า6 โอเมก้า9 โอเมก้า7 ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ลดการอักเสบบนผิว ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และสามารถรักษาสิวได้ ทำให้ผิวสวยสดใส มีสุขภาพดี นอกจากนี้ยังบำรุงหนังศีรษะได้อีกด้วยค่ะ
Photo credit : Bigstockphoto.com
เดี๋ยวนี้ออยล์บำรุงผิวไม่น่ากลัวอย่างแต่ก่อนแล้วนะคะ ใช้แล้วผิวดี หน้าฉ่ำมาจากภายใน ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งเสียให้กลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้ง ออยล์จะซึมได้ดีกว่าเพราะว่าผิวคนเราประกอบไปด้วยน้ำมันค่ะ เมื่อได้รับออยล์ที่มีโมเลกุลใกล้เคียงกับผิวก็จะยิ่งซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เมื่อผิวชุ่มชื้นก็จะช่วยต่อต้านริ้วรอยได้ อากาศแห้งแค่ไหนก็ไม่หวั่นแล้วค่าาา