เทรนด์ปัจจุบันของผู้หญิงทั่วโลกตอนนี้ก็คือการแต่งหน้าแบบเฮลท์ตี้ เน้นเผยผิวสวยๆสุขภาพดี แน่นอนค่ะว่าความสวยเปล่งปลั่งก็ต้องมาจากภายใน ขึ้นอยู่กับการดูแลร่างกายและดูแลผิวของแต่ละคน แต่จะแต่งหน้ายังไงไม่ให้กลบความสวยสะพรั่งของผิว เคยเจอไหมคะ คนที่ผิวดีมั๊กมากเวลาที่เปลือยหน้า แต่พอแต่งหน้าแล้วออร่าบนผิวมันหายไป และก็คนที่เวลาเปลือยหน้า โอ้ยยยย โทษนะคะเหมือนซอมบี้ แต่พอแต่งหน้าแล้ว คุณพระ! ผิวดีมั๊กมาก เฟียร์ซเห็นว่าตรงนี้เป็นปัญหาอย่างแรงของสาวๆ และก็ไม่อย่างให้นิ่งนอนใจ เลยอยากจะแชร์เคล็ดลับเล็กๆของการแต่งหน้าเผยผิวกับสาวๆค่ะ
Image source : www.beccacosmetics.com
อันดับแรกถ้าเราจะเผยผิวได้เราก็ต้องมีผิวดีก่อน กฎเหล็กของผิวสวยที่สาวเฟียร์ซจะต้องปฏิบัติ 3 สิ่งนี้ห้ามขาดไม่ว่าจะขี้เกียจขนาดไหนก็ตามค่ะ
1. ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
2. ล้างหน้าให้สะอาด
3. อย่าลืมทาครีมบำรุง
การเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า
ถ้าผิวดีแล้วมาเริ่มแต่งหน้ากันเลยดีกว่า อันดับแรกเตรียมผิว ต้องดูก่อนว่าผิวเรามีข้อบกพร่องตรงไหนบ้าง
1. ถ้าสาวๆมีรอยแดงต้องใช้เบสสีเขียว ลงเฉพาะตรงส่วนที่มีรอยแดงก็พอค่ะ ไม่ต้องลงทั้งหน้า 2. รูขุมขนกว้าง จริงๆแล้วเราไม่ต้องปกปิดรูขุมขนมากนัก อย่าลืมว่าเราจะเผยผิว ซึ่งถ้าลงไพรเมอร์ลงไป หน้าจะกลายเป็นเรียบเนียนแบบตุ๊กตา ดังนั้นไม่แนะนำให้ลงไพรเมอร์ ถ้าอยากให้รูขุมขนเล็ก ไปดูแลผิวหน้าเอาจะดีกว่าค่ะ ดังนั้นขั้นตอนไพรเมอร์ขอข้ามนะคะ |
Image source : www.beccacosmetics.com |
การเลือกรองพื้น
ขั้นตอนต่อมาเป็นลงรองพื้น พ้อยสำคัญของรองพื้นอยู่ที่ “การเลือกฟินิชชิ่ง” ฟินิชชิ่ง ห้ามแมทท์เด็ดขาด! เพราะเราจะเผยผิวสุขภาพดี ก็ต้องมีงานโกลว งานฉ่ำ งานมันบ้าง (ไม่ใช่มันจนเกินไปนะคะ)
สำหรับสาวๆที่หน้าแห้งเป็นกิจวัตร ควรจัดรองพื้นที่มีฟินิชชิ่งเป็น Dewy finish เพราะหน้าคนสุขภาพดีจะต้องฉ่ำตลอดทั้งวัน
ส่วนสาวๆผิวผสมและผิวมันก็ควรใช้ Satin finish สาวผิวมันถ้ามีน้ำมันออกมาจากหน้ามากก็ใช้กระดาษซับมันเอาค่ะ ยังไงก็ใช้ Matte finish ไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติควบคุมความมันในตัว เดี๋ยวหน้าเราไม่ฉ่ำ และเนื้อรองพื้นก็จะหนาเกินไปทำให้ไม่เห็นผิว
การเผยผิวกำลังดี coverage จะอยู่ที่ Sheer - Medium ค่ะ อย่า Full coverage เด็ดขาด มิเช่นนั้นก็ไม่ได้ลุคเผยผิวค่ะ
โอเคถ้าสาวๆเลือกรองพื้นได้แล้วมาต่อกันที่อุปกรณ์ในการลงรองพื้น หลังจากลงมอยซ์เจอไรเซอร์แล้ว ลงเบสแล้ว(ถ้ามีรอยแดง) ต่อมาก็ต้องลงรองพื้นค่ะ การลงรองพื้นถ้าใช้ฟองน้ำลงได้จะเริ่ดมาก รู้ไหมคะว่าทำไมสาวๆทั่วโลกถึงหลงรักเจ้าฟองน้ำรูปไข่ ก็เพราะมันสามารถลงรองพื้นได้เนียน และดูเป็นธรรมชาติ จนผิวเราดีเหมือนไม่ได้ลงอะไรเลย ผิวดีเองจริงจริ๊งงงงง ลองไปหามาใช้ดูบ้างนะคะ แล้วจะรู้ว่าหน้าเนียนจริงๆ |
Image soure : www.thisnext.com |
การลงคอนซีลเลอร์
Image source : dweam.com
ต่อมาก็ลงคอนซีลเลอร์ใต้ตา เลือกคอนซีลเลอร์ที่สีเดียวกับรองพื้นก็ได้ แต่ถ้าอยากให้หน้าดูผ่องเพิ่มขึ้น ควรจะเลือกสีที่สว่างกว่าครึ่งหรือหนึ่งเฉด ใต้ตาจะได้ดูสว่างแบบเนียนๆ ไม่ดูขาวโบะโป๊ะแตกเป็นค่างแว่นนะคะ
จุดที่ควรจะลงคอนซีลเลอร์อยู่ที่รอยต่อระหว่างรอยคล้ำของถุงใต้ตากับผิว แล้วก็เบลนให้กลมกลืน เบลนขึ้นไปตรงใต้ขอบตา และเบลนลงมาที่ผิวข้างล่างถุงใต้ตาให้เนียนกริบ ไม่ใช่โบกเฉพาะตรงถุงใต้ตาอย่างเดียว ธรรมชาติของคนเรายังไงใต้ตาก็ต้องคล้ำอยู่แล้วค่ะ ดังนั้นอย่าพยายามให้ใต้ตาขาวจนเกินไป เดี๋ยวหน้าจะไม่ใสนะคะ
และต่อมาที่ขาดไม่ได้ก็ต้องลงคอนซีลเลอร์กลบรอยสิว ควรเลือกคอนซีลเลอร์ที่สีเดียวกันกับรองพื้น เอาแบบที่ทาแล้วเนียนไปกับรองพื้น อย่าให้ใครดูรู้ว่าใช้คอนซีลเลอร์ ตรงนี้อนุญาตให้จัดเต็ม สามารถลงคอนซีลเลอร์ได้ไม่อั้น เอาให้ปิดรอยจนมิดกันไปเลยค่ะ แต่พ้อยที่ต้องระวังก็คือ อย่าลงคอนซีลเลอร์กว้างกว่ารอยจริง ลงให้พอดีและเบลนให้เนียน รอยเล็กๆก็ใช้แปรงเล็กๆลง รอยใหญ่ก็ใช้นิ้วตบได้เอาให้กลมกลืนกับผิวค่ะ
การลงบรอนเซอร์และไฮไลท์ แม้จะเผยผิวใส แต่ก็ไม่ลืมเรื่องบรอนเซอร์กับไฮไลท์ ถามว่าลงได้ไหม? ลงได้ค่ะ แต่ถ้าลงแบบฝุ่นจะดูไม่เนียน คือเดี๋ยวนี้คนเขาดูรู้หมดแล้วว่าเราแต่งหน้าด้วยอะไรบ้าง เพื่อความเนียนเป๊ะเว่อร์ ต้องใช้บรอนเซอร์และไฮไลท์แบบครีม (หรือไฮไลท์แบบน้ำ) แทนการใช้แบบฝุ่น ลงตรงที่ปกติที่เราเคยลงนั่นแหละค่ะ แต่ต้องลงบางๆ และเบลนให้เนียนเอาให้ใครก็จับไม่ได้ว่าหน้าเรียวเพราะบรอนเซอร์นะคะคู้นนนน |
Original image source : www.beccacosmetics.com |
การลงแป้ง
Image source : www.grazia.fr || www.oceanic.com.br
และสุดท้ายของขั้นตอนการเตรียมผิวคือการลงแป้งฝุ่นโปร่งแสง ย้ำอีกครั้งว่า “ต้องใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสง” หรือจะเป็นแป้งโปร่งแสงอัดแข็งก็ได้ค่ะ ห้ามใช้แป้งผสมรองพื้น เพราะที่เราเตรียมผิวไปทั้งหมดเพื่อเผยผิว แต่แป้งผสมรองพื้นมันเกิดมาเพื่อปกปิดให้ผิวเนียนเรียบ ซึ่งขัดกับลุคที่ต้องการจะแต่งวันนี้ ท่องไว้ว่า เผยผิวๆๆๆ ท่องไว้ให้ขึ้นใจเลยค่ะ
วิธีใช้ก็ควรใช้กับพัฟสำหรับแป้งฝุ่นมากกว่า แตะในปริมาณที่พอดี ไม่ใช่เหมือนพัฟตกถังแปรง แล้วเอาพัฟมากดแท็ปลงที่หน้า อย่าถู! เพราะคอนซีลเลอร์ที่ทำไว้อย่างเนียนจะเลื่อน จนเห็นร่องรอยสิวได้ค่ะ ตบแป้งจนทั่วหน้าแล้วก็เป็นอันเสร็จ เผยผิวใสๆได้โดยไม่ต้องอายใคร
การปัดแก้ม แต่งหน้าเผยผิวสวยใสแล้ว ต่อไปก็ต้องปัดแก้มให้ดูระเรื่อมีสุขภาพดีค่ะ ถ้าไม่ปัดจะดูหน้าซีดได้ ต้องปัดเบาๆ ให้เหมือนสีมันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ประมาณว่าฉันดื่มน้ำมะเขือเทศเป็นประจำ (คริๆ) ตำแหน่งที่ต้องปัดก็คือตำแหน่งที่หน้าเราจะแดงเองเวลาเหนื่อยหรือเวลาอาย นั่นคือตรงที่เราเรียกว่า Apple cheeks ค่ะ |
Original image : www.beccacosmetics.com |
ต่อไปสาวๆก็อาจจะเขียนคิ้ว แต่งตา ทาปากอะไรก็ว่าไป แล้วความชอบของแต่ละคนได้เลยค่ะ แต่สำหรับดิฉันขอลงแค่ลิปบาล์ม เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย ลุคสวยใสสไตล์สาวเฟียร์ซ แต่ลุคเผยผิวไม่จำเป็นจะต้องแต่งใสๆอย่างเดียวเท่านั้น อันนี้คือแค่ขั้นตอนการลงผิวแบบสวยใส วันที่ต้องการแต่งหน้าเต็มออกงานก็สามารถลงผิวแบบนี้ได้ แล้วก็อาจจะแต่งตาเพิ่ม และทาปากสีสดๆเพิ่มเติม ก็ออกงานได้แล้วค่ะ การโชว์ผิวสวยๆออกงานบอกเลยว่าจะทำให้ดูหน้าเด็กกว่าคนที่แต่งหน้าเนียนแบบผิวตุ๊กตาอีกคร่าาาาา อันนี้คอนเฟิร์ม!!
เป็นไงคะ ยากไหมกับการแต่งหน้าใสๆ ไอ้แต่งใสๆเนี่ยแหละที่ยากที่สุด เพราะจะแต่งยังไงให้ดูเหมือนไม่แต่ง แต่งยังไงให้ดูผิวดีเป็นเรื่องยาก ต้องอาศัยทักษะและการฝึกฝนไม่ใช่น้อย แค่เลือกรองพื้นที่ฟินิชชิ่งพอดีกับผิวเรา ไม่ให้ดูมันจนเกินไป และไม่ให้ปกปิดจนเกินไป แค่นี้ก็ยากแล้วค่ะ บอกเลย! แต่ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของสาวเฟียร์ซใช่ไหมคะ
Cover image source : www.beccacosmetics.com