3.1 Phillip Lim เปิดตัวคอลเลคชั่น Pre-Fall 2023

แรงบันดาลใจสำหรับคอลเลคชั่น Pre Fall 2023 คือบ้านของเรานั่นคือมหานครนิวยอร์ก การเดินทางตลอดระยะเวลา 18 ปีต่างหล่อหลอมขึ้นจากความหวัง ดวงใจ และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ต่อเนื่องมาจากภายใน เมืองแห่งตึกระฟ้า รถไฟใต้ดินและเหล่าคนขับรถผู้ไม่ประนีประนอมต่างบีบแตรให้เสียงดังกึกก้องไปในม่านหมอกแห่งความลึกลับที่รายล้อมอยู่โดยรอบ ในขณะที่เราไล่ล่าความฝัน ประตูแห่งการปฏิวัติที่เปิดไปสู่การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ประกอบกับคลื่นแห่งความโกลาหลที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างไม่รู้จบรวมถึงการประท้วงเพื่อแสวงหาความยุติธรรมในช่วงที่เกิดโรคระบาด เมืองแห่งนี้ยังคงสร้างแรงบันดาลใจและความหวังยังคงจุดประกายขึ้นมาได้ในเมืองแห่งความฝันแห่งนี้

ความจริงในเมืองใหญ่เปรียบเสมือนละครเพลงบรอดเวย์ (Broadway) ที่ยังคงขับขาน บทละครเวสต์ ไซด์ สตอรี่ (West Side Story) อันได้อิทธิพลมาจากเรื่องราวความรักที่ต่อต้านความไม่ลงรอยต่าง ๆ ตลอดจนการอพยพพลัดถิ่นเข้ามา ในที่ที่ไร้ความปราณีและเต็มไปด้วยความจริงที่ดิบเถื่อนและไร้การกลั่นกรองใด ๆ สิ่งนี้ปลุกชีวิตให้กับถนนหนทางในนิวยอร์ก

งานออกแบบคอลเลคชั่น Pre Fall ‘23 ซึ่งแฝงกลิ่นอายวัฒนธรรมกรันจ์ (Grunge) ในนิวยอร์กยุค 90’s กับเสื้อผ้าสไตล์ยุควิคตอเรียน (Victorian era) และเสื้อผ้าแนวสตีทแวร์แบบนิวยอร์กนั้นมีทั้งความอ่อนหวานและไม่ยี่หระ ดอกไม้ริมทางที่ตกแต่งอย่างสวยงามและเสื้อยืดลายกราฟิกจะเป็นความทรงจำที่คุณจะนำกลับบ้าน

บริเวณขอบของลายพิมพ์ดอกไม้สไตล์แอ็บสแตรกต์ (abstract) สำหรับคอลเลคชั่นฤดูหนาวปรากฏให้เห็นเป็นเท็กซ์เจอร์ดูคล้ายกับแสงไฟสลัวในเมืองที่ยังคงพร่างพราว อีกทั้งมีความแน่นิ่งในความโกลาหลอันคุ้นเคยซึ่งเป็นนิยามของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลแห่งนี้ เฉกเช่นการปะทะกันของเท็กซ์เจอร์ผ้า แสงไฟ และเสียงอึกทึกที่กลมกลืนกันได้ เนื้อผ้าต่างๆ ถูกนำมาใช้ร่วมกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

คอลเลคชั่นนี้มีทั้งเดรสจับจีบที่มีโครงชัด กระโปรง เสื้อที่มีวอลุ่มและเดรสสำหรับใส่กลางวันที่ตัดจากผ้าคอตตอนแคนวาสและผ้าชีฟองเย็บย่นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เน้นในเรื่องประโยชน์ใช้สอยและความโรแมนติคถูกถ่ายทอดออกมาในสไตล์ที่นุ่มนวลขึ้นซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเดรสยาวที่สร้างสรรค์จากผ้าทอสไตล์วิคตอเรียนนอกจากนี้กลิ่นอายของชุดคอร์เซ็ทถูกแทนที่ด้วยการเย็บสม็อคที่ยืดได้ ใส่สบายและทันสมัย แขนเสื้อจับจีบจากผ้าคอตตอนน้ำหนักเบามาพร้อมกับการเย็บแบบสม็อคให้กลายเป็นเสื้อแขนกุดและกระโปรงทรงพองอันแฝงกลิ่นอายของละครเพลงบรอดเวย์

ยังคงมีการทดลองใช้วัสดุผ้าเดนิม สำหรับครั้งนี้ได้นำงานศิลปะและงานฝีมือในรูปแบบแพ็ตช์เวิร์ค (patchwork) สไตล์อเมริกันมาใช้และมีการตกแต่งด้วยดวงดาว หมุดตอก และมงกุฏอันเป็นการสดุดีต่อเทพีเสรีภาพ ทว่าเชื้อเชิญให้สร้างสรรค์ในแบบฉบับของตนเอง เสื้อผ้าสไตล์เวิร์คแวร์สำหรับใส่ทำงานมาในรูปแบบบอมเบอร์แจ็คเก็ตสามารถสวมใส่กลับด้านได้ กระโปรงสั้นจากผ้าเดนิม สลิปเดรสและกางเกงยีนส์สองสีในทรงบอยเฟรนด์ (boyfriend) เฉดสีครามและฟ้าอ่อนที่ดูไม่สม่ำเสมอกันถูกตกแต่งด้วยชิ้นโลหะที่เน้นย้ำรูปแบบงานสไตล์ DIY เชิงทดลอง

งานนิทแวร์ถูกเน้นย้ำในคอลเลคชั่นนี้ มีทั้งความแฟมินีนและสวมใส่สำหรับช่วงเปลี่ยนฤดูกาล เกาะอกจากผ้าแจ็คการ์ดที่เผยเท็กซ์เจอร์และเดรสยาวถักที่ดูขัดแย้งกับรายละเอียดบริเวณคอและขอบนั้นนำเสนอรูปแบบใหม่ผ่านลวดลายข้าวหลามตัด (argyle) สไตล์แอ็บสแตรกต์ การผสมผสานระหว่างผ้าวูลจากแกะเมอริโน (Merino) และผ้าชีฟองถูกนำเสนอในรูปแบบที่คลี่คลายขึ้นแอ็คเซสเซอรีส์ที่ต่อยอดมาจาก “Pashli” กระเป๋าไอคอนของแบรนด์ยังคงต่อยอดในฤดูกาลนี้ “Pashli Moto” ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากการนำกระเป๋าจักรยานมาประยุกต์และนำเสนอใหม่พร้อมกับรายละเอียดของมอเตอร์ไซค์ ส่วนกระเป๋าโท้ต รุ่น “Market” กลับมาอีกครั้งพร้อมกับการผสมผสานลายพิมพ์โลโก้ NYC งานเดนิมแพ็ตช์เวิร์คฟอกสองสีและดอกไม้แอ็บสแตรกต์ตอกหมุด

ส่วนรองเท้านั้นตอบโจทย์วันสบายๆ ของผู้หญิงที่มีไลฟ์สไตล์ในเมือง รองเท้าบู๊ทที่เหมาะกับมหานครนิวยอร์กถูกสวมใส่ราวกับว่าเป็นเกราะป้องกันสำหรับเดินขึ้นลงรถไฟใต้ดินและในโอกาสต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ รองเท้าบู๊ท “Lalisa Bubble” สร้างสรรค์ขึ้นมาพร้อมกับซิปหน้าเพื่อเป็นรองเท้าบู๊ทสำหรับใส่ในเมือง

ส่วนรองเท้า “Naomi Mule” ขนาดกระทัดรัดมาพร้อมกับห่วงขนาดใหญ่ที่เป็นซิกเนเจอร์ซึ่งจะทำให้ค่ำคืนแห่งความโรแมนติคกลายเป็นความเท่ กล่าวได้ว่าประโยชน์ใช้สอยและสไตล์ถูกผสมผสานไว้บนรองเท้าสำหรับสวมใส่ในเมืองที่ทันสมัยคอลเลคชั่น Pre-fall คือปฐมบทแห่งเรื่องราวในนิวยอร์กของเรา เรื่องราวของความหวัง ความรัก การยืนหยัดและการทำตามความฝันแบบอเมริกันในเมืองที่มิเคยหลับใหลแห่งนี้