ISSEY MIYAKE เปิดตัวคอลเลกชันประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2023/24

ISSEY MIYAKE เปิดตัวคอลเลกชันประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2023/24 ซึ่งเผยโฉมไปเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ณ Théâtre du Châtelet ในกรุงปารีส ในชื่อ The Square and Beyond นำเราย้อนกลับไปสัมผัสกับขนบของวิชาชีพด้านการสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นบนรูปทรงสี่เหลี่ยม อาทิ ผ้าใบวาดภาพ โน้ตเพลง หรือผืนผ้า โดยคอลเลกชันนี้เกี่ยวพันกับรูปทรงที่ผ่านการคิดวิเคราะห์และทำการศึกษาให้ลึกลงไปถึงแนวคิดดั้งเดิมและเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายให้มีรูปทรงที่น่าสนใจ และได้นำเสนอสุนทรียะที่แหวกแนวออกไป โดยมีที่มาจากการสร้างเอกลักษณ์รูปแบบใหม่ของ ‘ma’ (พื้นที่ที่ไม่ถูกเติมเต็ม) ระหว่างสิ่งที่ใส่และผู้ที่สวมใส่

โชว์ของคอลเลกชันนี้เกิดขึ้นบนเวทีภายในโรงละคร โดยเริ่มต้นด้วยการแสดงเครื่องตีกระทบมาริมบาโดยวงทริโอ SR9 โดยบรรยากาศที่ค่อนข้างตึงเครียดบนเวทีค่อย ๆ จางหายไปเมื่อการแสดงเริ่มต้นขึ้น เหล่านางแบบในลุคต่าง ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากสี่เหลี่ยมซึ่งถูกนำมาตีความในหลายรูปแบบเดินไปบนรันเวย์ที่ถูกกำหนดด้วยแสงสว่าง และจบลงด้วยฟินาเลท่ามกลางพื้นหลังของโรงละครโอเปราที่ว่างเปล่า

ซีรีส์นี้มีจุดเด่นที่รูปทรงกระโจมที่คลุมทับเรือนร่าง โดยโครงร่างแบบสามมิติของ CANOPY ที่ปรากฎเหลี่ยมมุมทั้งสองด้าน จะถูกทำขึ้นจากเนื้อผ้าที่นุ่มและยืดหยุ่น พร้อมงานเย็บตะเข็บที่ดูมินิมัล ทำให้ได้โครงสร้างที่แปลกตาและดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

จากแนวคิดของสี่เหลี่ยมที่เคลื่อนที่และแปรเปลี่ยน SQUARE SCHEME มีจุดเด่นที่รูปทรงที่พบได้จากเทคนิคงานถักนิต โดยทรงสี่เหลี่ยมที่ได้จากงานถักนั้นได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากโครงสร้างงานถักนิตในแนวตั้งและแนวนอน เมื่อโครงสร้างงานถักนิตถูกเย็บเข้ากับผ้าทอทรงสี่เหลี่ยม โครงร่างที่แปลกตาจึงเกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากนั้น ลวดลายสี่เหลี่ยมจะถูกพิมพ์ลงบนผ้าทอเพื่อทำให้การเปลี่ยนแปลงของรูปทรงดังกล่าวดูเด่นชัดยิ่งขึ้น

RHYTHM CHECK ได้แรงบันดาลใจจากลายตารางสี่เหลี่ยมที่เคลื่อนที่ไปมาเป็นจังหวะ โดยรูปแบบสามมิติและความนุ่มของเนื้อผ้าเกิดจากการหดตัวในกระบวนการอันประณีต โดยเส้นด้ายที่หดตัวลงจะถูกทอเข้ากับเนื้อผ้าในรูปแบบของลายตาราง ก่อนจะนำไปผ่านกระบวนการในน้ำที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งในขณะนั้นเนื้อผ้าจะมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่า ขั้นตอนนี้จะส่งผลให้เสื้อผ้าที่เกิดขึ้นมีผิวสัมผัสจากการหดตัวที่ดูมีเอกลักษณ์

COUNTERPOINT เป็นซีรีส์นิตแบบไร้ตะเข็บที่มีจุดเด่นอยู่ที่รูปทรงอันแปลกตาซึ่งเกิดจากความแตกต่างของโครงสร้างนิต การถักนิตด้านหน้าและด้านหลังไปคนละทิศทาง จะทำให้เส้นด้ายเกิดการดึงและดันกันและกันจนเกิดเป็นรูปทรงที่บิดไปมา ซึ่งลายทางยังช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงทิศทางของนิต และยังช่วยเสริมให้การบิดที่โอบรอบตัวนั้นเด่นชัดยิ่งขึ้นอีกด้วย

SHAPED CANVAS ได้แรงบันดาลใจจากผืนผ้าใบของศิลปินที่มีรูปทรงอันแปลกตา ซีรีส์นิตแบบไร้ตะเข็บนี้ใช้เทคนิคงานถักแบบดับเบิล (double knitting technique) ซึ่งเป็นการนำผ้าสองผืนมาเชื่อมต่อกัน โดยมีการถักนิตบริเวณช่วงคอและตัวที่แยกจากกัน รูปทรงที่มากไปด้วยเหลี่ยมมุมบนชุดผ้านิตทำให้ได้โครงร่างที่มีเอกลักษณ์และแตกต่างออกไป โดดเด่นด้วยการเลือกใช้สีที่ตัดกัน และเปิดโอกาสให้สามารถใส่ชุดนี้ได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

RECTILINEAR มีจุดเด่นที่องค์ประกอบของสี่เหลี่ยมในสีสันที่ตัดกัน โดยถักนิตในแนวนอนจนเกิดเป็นลวดลายในแนวยาว ส่วนโครงสร้างของลวดลายที่ดูมีเหลี่ยมมุมจะเด้งขึ้นลงในขณะที่ผู้สวมใส่เคลื่อนไหว ช่วยให้ผ้านิตดูนุ่มยิ่งขึ้น

RECTILINEAR: MILLED เป็นซีรีส์เสื้อโค้ตที่มาพร้อมลวดลายเดียวกัน แต่ถักลงบนเครื่องทอผ้าแจ็คการ์ด โดยงานดีไซน์ของเสื้อโค้ตช่วยดึงเอาคุณสมบัติของลายพิมพ์ให้ออกมาเด่นชัดยิ่งขึ้น และแม้จะมีวอลลูม แต่เสื้อโค้ตในซีรีส์นี้กลับมีน้ำหนักเบาและใส่สบาย

SQUARE ONE คือจุดเริ่มต้นของกระบวนการในการสร้างสรรค์คอลเลกชันนี้ โดยวิธีการในการพิมพ์สี่เหลี่ยมลงบนเนื้อผ้าถือเป็นที่มาของแรงบันดาลใจในขั้นตอนแรก ๆ ของงาน ซีรีส์นี้มีจุดเด่นที่รูปทรงในแนวนอนและเสริมด้วยองค์ประกอบที่ดูหนักแน่น ซึ่งเกิดจากการนำบางส่วนของกระดาษญี่ปุ่นเข้ามาตกแต่งเพิ่มเติม และที่สำคัญ เครื่องแต่งกายจากซีรีส์นี้จะได้รับการออกแบบและทำขึ้นด้วยวิธีการที่จะไม่ทำเกิดเนื้อผ้าเหลือระหว่างการผลิต

SQUARE เป็นซีรีส์กระเป๋าซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้ดูเหมือนว่าถูกคลุมทับด้วยผืนผ้าโดยไม่ตั้งใจ เกิดเป็นงานจับเดรปที่ดูพลิ้วไหวในขณะที่ผู้ถือเคลื่อนไหว