AMI นำเสนอคอลเลคชั่น FALL/WINTER 24 ท่ามกลางบรรยากาศความเงียบสงบ ณ กรุงปารีส ในเวลารุ่งเช้า ผสมผสานการใช้ชีวิตและความเป็นตัวตนที่ต่างกันของชาวปารีเซียง ออกมาเป็นเสื้อผ้าที่มาความหลากหลาย โดยใช้ลวดลาย วัสดุ และรูปทรงที่แตกต่างมาผสานกันได้อย่างลงตัว คอลเลคชั่นนี้จะเป็นยังไงบ้างไปดูกันเลยค่าาา
« Il est cinq heures, Paris s’éveille… »
ยาม 5 นาฬิกา กรุงปารีสค่อยๆ ตื่นขึ้นจากความหลับใหล ดั่งในบทเพลงอันโด่งดังของฌาคส์ ดูทรองค์
ท่ามกลางบรรยากาศความสงบของกรุงปารีสในเวลาย่ำรุ่งในฤดูหนาว ในขณะที่รถไฟเมโทรขบวนแรกเคลื่อนเข้าสู่ชานชาลา นับว่าเป็นช่วงเวลาที่โลกของชาวปารีเซียงผู้คลั่งไคล้ในชีวิตยามค่ำคืนได้มาบรรจบกับโลกของชาวปารีเซียงอีกกลุ่มที่เตรียมพร้อมจะใช้ชีวิตในยามรุ่งอรุณ ความสัมพันธ์ของช่วงเวลานี้คือแนวคิดสำคัญของคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 ซึ่งผสมผสานการใช้ชีวิตและความเป็นตัวตน รวมไปถึงวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของชาวปารีส ผ่านการใช้ลวดลาย วัสดุ และรูปทรงของเครื่องแต่งกายที่มีความหลากหลายได้อย่างลงตัว
คอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 นำเสนอเครื่องแต่งกายสำหรับกลางวันและกลางคืน โดยสื่อถึงจิตวิญญาณความมั่นใจ ความเรียบหรู และสไตล์ความคลาสสิกของชาวปารีเซียง รวมไปถึงการนำเสนอความแตกต่างผ่านเอกลักษณ์เฉพาะตน และเสน่ห์ของการผสมผสานระหว่างความซับซ้อนกับความเรียบง่าย ซึ่งล้วนเป็นแนวคิดหลักที่ได้ถูกเน้นย้ำในดีเอ็นเอของอามีมาโดยตลอด
SILHOUETTES AND SHAPES
คอลเลคชั่นนี้โดดเด่นด้วยการนำเสนอเอกลักษณ์ของชาวปารีเซียงผ่านการเลือกใช้เท็กซ์เจอร์ของวัสดุผ้า อย่างเสื้อผ้ากันหนาวที่ทำจากเส้นใยคุณภาพสูงซึ่งมาพร้อมความสบายในการสวมใส่ ซิลูเอตของเครื่องแต่งกายถูกปรับเปลี่ยนจากฟิตติ้งที่ค่อนข้างโอเวอร์ไซส์มาเป็นสัดส่วนที่เข้ารูปและกระชับ ซึ่งเน้นรูปลักษณ์ของช่วงหัวไหล่และปลายแขนเสื้อที่ตัดเย็บมาอย่างพอดี ลายเส้นของการตัดเย็บเสื้อผ้ามีความชัดเจนมากกว่าคอลเลคชั่นก่อนๆ ทำให้ภาพรวมของคอลเลคชั่นนี้มีความเรียบหรูแบบไม่พยายาม และยังคงไว้ซึ่งความสบายและเรียบง่ายในการสวมใส่
COLORS
โทนสีของคอลเลคชั่นนี้นำเสนอความคลาสสิกและเอกลักษณ์ ผ่านการเลือกใช้พาเลตต์สีที่ไม่ฉูดฉาด โดยมีสีหลักอย่างดำ เทา น้ำเงินเข้มและน้ำตาล ซึ่งคอนทราสต์กับสีโทนหวานละมุนอย่างสีครีมและสีน้ำตาลอ่อน ทั้งหมดล้วนมอบเสน่ห์ กลิ่นอายความขี้เล่นและความเป็นอมตะได้ตามแบบฉบับของอามี
TEXTURES, PRINT, FABRICS
คอลเลคชั่นนี้เลือกใช้เท็กซ์เจอร์และวัสดุของเนื้อผ้าที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน ไม่ว่าจะเป็นผ้าวูล ผ้าสักหลาด และผ้าแคชเมียร์ ซึ่งช่วยเติมเต็มแต่ละลุคได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีเสื้อเทรนช์โค้ทตัวยาวและเสื้อโค้ทกันฝน รวมไปถึงเสื้อแจ็คเก็ตและกางเกงหนังในวัสดุและสีที่แตกต่างกันไป
ลวดลายของแพทเทิร์นที่หลากหลายล้วนสื่อถึงจิตวิญญาณของกลางวันและกลางคืนในคอลเลคชั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นลายทอผ้าแบบฮาวน์สทูทบนผ้าวูล ลายผ้าเจอร์ซีย์แนวเส้นตรงบนเสื้อเบลเซอร์และกางเกงสแล็ก ลายทแยงมุมอาร์ไกล์บนเสื้อแจ็กเก็ตถักและกระเป๋าหนังที่เข้ากัน และลายปักกิงแฮมสีขาวและดำบนเสื้อโค้ทตัวยาว รวมไปถึงชุดมินิเดรสทรงเข้ารูปที่มีดีเทลการปักเลื่อมอย่างประณีต
BAGS
คอลเลคชั่นนี้ได้นำกระเป๋ารุ่นไอคอนิกมาปรับแต่งดีไซน์และเลือกใช้วัสดุใหม่ กระเป๋าที่เป็นไอเท็มหลักของโชว์คือกระเป๋าหนังประดับโลโก้สีทอง รุ่น Paris Paris ซึ่งมีการออกแบบในรูปทรงใหม่อย่างกระเป๋าโบว์ลิ่งและกระเป๋าทรงบัคเก็ต นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอกระเป๋ารุ่น Déjà Vu สุดคลาสสิกและกระเป๋าสะพายข้างรุ่น Paname Paname ในรูปโฉมใหม่ พร้อมทั้งนำเสนอเครื่องหนังขนาดเล็กจากครอบครัว Paris Paris ในสีน้ำตาลเข้มและสีดำ ในดีไซน์ที่สามารถใช้ได้ทุกเพศอีกด้วย
ACCESSORIES
เครื่องประดับในคอลเลคชั่นนี้โดดเด่นด้วยสีทอง ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอและต่างหูสีทอง รวมไปถึงกระดุมสีทองที่ถูกนำเสนอบนเครื่องแต่งกายหลายชิ้นในคอลเลคชั่น ทั้งประดับบนเสื้อผ้า และตกแต่งบนรองเท้าและแอคเซสซอรี่ รองเท้าส้นสูงรุ่นคลาสสิกถูกตกแต่งส้นรองเท้าด้วยการสลับสีในลวดลายเส้นตรง อย่างสีดำและสีน้ำตาลไม้ แอคเซสซอรี่ในคอลเลคชั่นนี้มีทั้งแว่นตากันแดดหลากดีไซน์ ถุงเท้า หมวกและผ้าพันคอล้วนทำจากเส้นใยอังกอราหรือวัสดุที่แมตช์เข้ากับเครื่องแต่งกายในคอลเลคชั่น อีกทั้งยังมีเข็มขัดที่ตกแต่งบัคเคิลด้วยโลโก้อามีอีกด้วย
CONCEPT AND SET
แฟชันโชว์คอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 นี้ จัดขึ้นในคืนวันที่ 18 มกราคม เวลา 20:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ สมาคมกีฬาเทนนิสแห่งกรุงปารีส ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญที่เคยผ่านการจัดงานแฟชั่นหลายครั้งตั้งแต่ปีค.ศ. 1930
ฉากหลังของโชว์ถูกออกแบบคล้ายกับอาคารสไตล์ Haussmann ประกอบด้วยประตูบานใหญ่ที่ตั้งตระหง่านตรงกลางและหน้าต่างเรียงรายด้านข้าง ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของกรุงปารีส โดยมีคอนเซปต์หลักคือการนำเสนอบรรยากาศยามย่ำรุ่งของผู้คนที่มีชีวิตประจำวันที่แตกต่างกัน ทั้งผู้ที่ใช้ชีวิตในยามค่ำคืน และผู้ที่กำลังจะออกไปเริ่มต้นชีวิตในวันใหม่
โชว์เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟสลัวที่ส่องทางเดินบนรันเวย์ให้นายแบบและนางแบบเดินออกมาจากประตูบานใหญ่เท่านั้น หลังจากนั้นแสงจึงค่อยๆ สว่างขึ้น ดั่งพระอาทิตย์ที่กำลังเคลื่อนที่ขึ้นมาจากขอบฟ้าในยามเช้า ราวกับจะบอกเวลาว่ามิใช่ยามค่ำคืนอีกต่อไปแล้ว
CASTING
นายแบบและนางแบบที่มาร่วมเดินแบบในโชว์ครั้งนี้มีความพิเศษและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นแฟชันไอคอนอย่าง Lou Doillon และ Laetitia Casta รวมถึงนักแสดงและนางแบบชาวเยอรมันอย่าง Diane Kruger ที่ร่วมเดินแบบพร้อมกับนายแบบและนางแบบหลากหลายสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็น Liu Wen, Selena Forrest, Audrey Marnay, Andres Velencoso, Imaan Hamman, Ugbad Abdi และ Mona Tougaard อีกทั้งยังมีนายแบบและนางแบบหน้าใหม่ดาวรุ่งอย่าง Taemin Park, Sascha Rajasalu และ Neo Gregori
Wooshik Choi, แบรนด์แอมบาสเดอร์
Wooshik Choi และ Juliette Binoche
Dominique Fishback และ Jihyo จากวง Twice
Narah Baptista และ Vincent Cassel
AMI’S FRIENDS
แขกผู้มีเกียรติคนพิเศษของแบรนด์และของอเล็กซองด์ มาตีอุสซี ได้ร่วมรับชมโชว์ในครั้งนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง Wooshik Choi รวมไปถึง Fran Drescher, Ed McVey, Juliette Binoche, Ross Lynch, Jihyo จากวง Twice, Steven Zhang, Dominique Fishback, Isabelle Adjani และ Vincent Cassel
สามารถชมคอลเลคชั่นล่าสุดได้ที่ อามี บูทีค ชั้น M สาขา ดิ เอ็มโพเรียม FALL/WINTER 24 เป็นคอลเลคชั่นที่สวยเท่ และมีกลิ่นอายของชาวปารีเซียง ที่สำคัญแต่ละไอเทมมีความเรียบง่ายใส่ได้บ่อยๆ มิกซ์แอนด์แมทช์ได้เยอะ ไม่มีเบื่อแน่นอนค่าาา