Follow us on

LIFESTYLE

FIERCE STORY

7 คำพูดต้องห้ามถ้าไม่อยากให้เพื่อนเงิบ!!

Written by madamej
Created: Jul 01, 2014 19:44 | Published date: Jul 02, 2014 04:51


Funny Truth Lifestyle Mouth เม้าท์ ขำขัน


23437 0 0

สวัสดีค่ะสาวๆชาวเฟียร์ซ!! เคยเป็นกันไหมคะที่เวลาเราเจอกับคนรู้จัก หรือ เพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน แล้วเวลาจะทักทายไม่รู้จะพูดอะไร หวยเลยออกมาเป็นคำพูดงงๆ เงิบๆเพราะปากไปไวกว่าความคิด! ให้เราต้องกลับไปร้อนรุ่มหรือ guilty ภายหลังว่า “กรี๊ดดดด ชั้นพูดอะไรออกไปเนี่ย!”

 

วันนี้เฟียร์ซจึงขอรวบรวมคำพูดต้องห้ามในการเริ่มบทสนทนา หากคู่สนทนาไม่สนิทกันแบบตายแทนได้จริงๆ!! ให้สาวๆได้สวยเริ่ดในสายตาทุกคนทั้งต่อหน้าและลับหลังค่ะ!

 

 

มาดูกันเลยค่าาา! 

 

 

 

1. “อ้วนขึ้นรึเปล่า!!”  

 

แม่เจ้า!! คำๆนี้ช่างทำร้ายจิตใจของผู้ฟังได้ดั่งแก้วบาง เค้าทุบทิ้งแตก ใจฉันแหลกเพราะน้ำมือเธอ มากค่ะ อ๊ะอ๊ะ! อย่าเข้าใจผิดว่าต้องระวังคำพูดนี้เฉพาะกับสาวเจ้าเนื้อนะคะ เพราะถึงคุณจะไปพูดกับนางแบบระดับเคท มอส ก็เสี่ยงโดนเค้าดีลีทออกจากลิสต์คนรู้จักได้อย่างไม่ปรานี พร้อมสะบัดบ๊อบใส่สวยๆประกบคำทิ้งท้ายว่า “ขอโทษค่ะ! คุณ ไม่ ได้ ไป ต่อ!” 

 


ภาพจำลองสถานการณ์ 

 

 

 

 

2. “ไปทำอะไรมา โทรมมากเลย” หรือ “หน้าหมองเชียว ไปทำอะไรมา” 

 

เชื่อแน่ค่ะ ว่าร้อยทั้งร้อย คงจะไม่มีผู้ใดยิ้มรับคำทักนี้พร้อมตอบออกไปเบาๆว่า “ไม่ได้ไม่สบาย แค่ไม่ได้แต่งหน้ามาหน่ะ” หรือ “วันนี้ลองแต่งหน้าลุคคนป่วยมา” หรือ “พอดีไม่ได้ไปฉีดกลูต้ามานานแล้ว” ในโลกนี้คงไม่มีใครหรอกค่ะที่ตั้งใจทำอะไรให้ตัวเองดูหมอง! และความเป็นจริงการที่คนดูโทรมลงหรือโรยรามันอาจจะเศร้าและโหดร้ายกว่านั้นเช่น “ทะเลาะกับแฟนมานอนไม่หลับทั้งคืนเลย” หรือ “ไม่สบายอ่ะ เพิ่งฟื้นไข้” หรือ “เครียดนอนไม่หลับเลยเจ้าหนี้ตามทุกวันต้องรีบหาตังค์” แต่ละคำตอบที่คุณอาจจะได้รับ นอกจากจะไปสะกิดโดนต่อมอะไรบางอย่างของผู้ฟังแล้ว คุณเองก็จะต้องฉลาดและเร็วพอที่จะปลอบประโลมและดึงพวกเขาออกมาอารมณ์เหล่านั้น ฉะนั้น อะไรที่มันเนกาทีฟ อย่าเริ่มเป็นดีที่สุดค่ะ!

 

ภาพจำลองสถานการณ์ 

 

 

 

3. “อ้าว ทำไมวันนี้มาคนเดียว แล้วแฟนหล่ะ” 

 

ล่ะ ล่ะ ล่ะ ล่ะ เป็นคำถามที่อาจทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องสตั้นกันไปคนละห้าวิ แล้วตามด้วย dead air แบบผีเดินผ่านก็ไม่ปาน ถ้าไม่อยากเงิบด้วยคำตอบที่ว่า “เค้าเพิ่งเลิกกัน”,  “ห่างกันสักพัก”, "เอ่อนี่ แฟนใหม่เราเอง" คุณก็อาจโดนมองเป็นคนที่สนใจแฟนเค้ามากเกินไปก็เป็นได้ เพราะถ้าคุณไม่ได้เป็นคนสนิทวงในที่รู้ความเคลื่อนไหวเรื่องชีวิตคู่ของเขาขนาดนั้น นิ่งเอาไว้แล้วพูดถึงลม ฟ้า อากาศจะแลดูสร้างสรรค์กว่าหลายเท่านะคะ เฟียร์ซขอ :) 

 

 

 

 

 

ภาพจำลองสถานการณ์ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

4. “อ้าว มาทำอะไรที่นี่??” 

 

คำๆนี้ได้ยินบ่อยมากเวลาคนเจอกันโดยบังเอิญตามที่สาธารณะ ห้าง คอมมูนิตี้มอลล์ งานอีเวนต์ ร้านอาหารต่างๆที่ขอย้ำอีกทีว่าเป็นที่สาธารณะ จริงๆแล้วเค้าจะมาทำอะไรมันก็ล้วนแล้วแต่เป็นธุระของเค้าที่คุณไม่ควรละลาบละล้วง ตราบใดที่คนๆนั้นมิได้มายืนกดออดรัวๆอยู่หน้าบ้านคุณ แถมผู้ถูกถามยังต้องจำใจเฟ้นหาคำตอบที่โอเคในการตอบเพื่อเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์ดูแป้ก หรือกวนด้วย เช่น “อ๋อมาซักผ้ามั้ง” (ขณะที่อยู่ในห้าง) “มาประชุมมั้ง”(ขณะที่อยู่ในผับ) “มาจับแฟนกับกิ๊ก” (ขณะที่อยู่ในร้านอาหาร) หรือ “มานั่งสมาธิ”(ขณะที่อยู่ในโรงหนัง)

ในเมื่อคุณเองก็สามารถไปในสถานที่ต่่างๆได้โดยอิสระ ขอให้เข้าใจผู้อื่นว่าเขาก็มาทำธุระต่างๆของเขาได้เช่นกันค่ะ! 

 

 

 

 

 

ภาพจำลองสถานการณ์ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

5. “บ้านอยู่แถวนี้เหรอ” 

 

ฟังดูเหมือนจะเป็นคำทักทายปกตินะคะ แต่จริงๆแล้วมันเป็นคำทักที่ฟังดูด่วนสรุปและคล้ายกับเป็นการชี้ชวนให้ผู้ฟังเริ่มสำรวจตัวเองเบาๆว่า “เอ๊ะ ชั้นแต่งตัวบ้านขนาดนั้นเลยเหรอ” หรือ “ชั้นยังเป๊ะไม่พอหรืออย่างไร”​ หรือ “บ้านไม่ได้อยู่แถวนี้แล้วมาไม่ได้เหรอ?” มันเป็นการทำให้คู่สนทนาเกิดอาการงงๆเบลอๆโดยไม่จำเป็น ถึงแม้บางทีจะจริง แต่ลองทักอย่างอื่นดูน่าจะปลอดภัยกว่าค่ะ 

 

 

 

 

 

ภาพจำลองสถานการณ์ 

 

 

 

 

 

 

 

 

6. “อ้าววันนั้นที่เจอกัน ใช่คนนี้ป่ะ” หรือ “อ้าว คนละคนกับวันนั้นหนิ” 

 

คำอันตรายสุดขั้วที่คุณควรเลี่ยง ถ้าไม่อยากให้แบคกราวด์มิวสิคขึ้นเพลง ต่อจากนี้ขออย่าได้เจอกัน  ขอให้มันจงเป็นวันสุดท้ายยย”  เมื่อคุณเห็นว่าเพื่อนของคุณควงใครที่คุณไม่แน่ใจมาด้วย ขนาดคุณเองยังไม่ชัวร์ว่าใช่ไม่ใช่ แล้วยังถามเจ้าตัวเพื่อเป็นการยืนยัน อาจได้ของแถมเป็นการโดนยันกลับมาด้วย เพราะถึงแม้ว่าจะใช่คนที่คุณเคยเจอหรือไม่ แต่คุณได้สร้างบรรยากาศความเงิบให้เกิดขึ้นแล้ว!! ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์นำพาอันใดแม้แต่น้อย

 

ถ้าใช่ อีกฝ่ายจะเสียเซลฟ์ว่าคุณจำไม่ได้ และถ้าไม่ใช่ขึ้นมา บอกได้คำเดียวค่ะ "บอกมาคืนนี้ ตึ๊งตึ๊ง! อยากได้กี่ครั้ง? ตึ๊ง ตึ๊ง!"

 

 

 

 

ภาพจำลองสถานการณ์ 

 

 

 

 

 

 

 

 

7. สารพัดคำทักย้อนอดีต เช่น “แกยังกินยาลดความอ้วนอยู่ป่ะ” “ยังชอบของฟรีอยู่ป่ะ” หรือ “แหมมมม เดี๋ยวนี้ดูรวยนะไปทำอะไรมา” 

 

เฮลโหลล คือ แน่ใจจริงหรือว่าต้องการคำตอบจริงๆเวลาที่พูดประโยคเหล่านี้ออกมา หรือเพียงแค่พยายามเค้นความทรงจำเท่าที่จำได้เพียงน้อยนิดออกมาเพื่อแสดงความสนิทสนม หรือทำลายความเงียบเพราะไม่รู้จะทักอะไร!! ขอบอกเลยค่ะ ว่าถ้าใครที่เผลอหลุดถามแบบนี้บ่อยๆ ให้รีบแก้ซะโดยด่วน ไม่มีใครหรอกค่ะ ที่จะยินดีนักหนากับการได้ยินคนอื่นทักเรื่องอดีตของตนเอง โดยเฉพาะคนไม่สนิท ของแบบนี้อย่ารอให้เจอกับตัวแล้วค่อยรู้สึกเลยค่ะ 

 

 

 

 

 

ภาพจำลองสถานการณ์ 

 

 

 

 

คำพูดเป็นสิ่งสำคัญ หากดวงตาสามารถสื่อความรู้สึกภายในเราได้ฉันใด

“ปาก” หรือวาจาก็สามารถสื่อสิ่งที่อยู่ในใจเราได้ฉันนั้น อย่างที่มาดมัวเเซล โกโก้ ชาแนล เคยกล่าวเอาไว้สวยๆว่า 

“ความประทับใจเป็นสิ่งสำคัญ​ เมื่อมันพังลงแล้ว ยากนักที่จะได้คืน” 

 

 

 

 

 

ภาพประกอบโดย: all.e.forr

 

 

 

 

 

 


Tags : Funny Truth Lifestyle Mouth เม้าท์ ขำขัน ประโยคเกี่ยวกับเพื่อน คำพูดที่ทำเพื่อเงิบได้ Tips Girls things นิสัย

บทความที่คุณอาจสนใจ

14 เมนูอาหารต้องห้าม!! ไม่ควรสั่งในเดทแรก

มาเรียกชื่อแบรนด์เครื่องสำอางให้ถูกต้องกันเถอะ!

มาเรียกชื่อแบรนด์แฟชั่นให้ถูกต้องกันเถอะ!!

จับสัญญาณอ้วน!: 5 ข้ออ้างในการกิน!!

7 ประโยคสุดฮิตติดปากผู้หญิง (จริงไม่จริงอีกเรื่องนึง)

ADVERTISEMENT
Top