หากไม่คิดยอมแพ้ ยังไงก็ชนะ (บทเรียนเริ่ดๆจาก 4 สาว 4 สายอาชีพ)

ความสำเร็จในชีวิตใครๆ ก็อยากมี แต่ส่วนใหญ่ไปกันไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะดันมาเจอสารพันอุปสรรค ทำให้หมดกำลังใจสู้ต่อ กลัวล้มเหลวเลยยอมแพ้ เลิกล้มความตั้งใจไปเสียก่อน วันนี้เฟียร์ซมีกรณีตัวอย่างดีๆจากหญิงแกร่ง 4 สายอาชีพมาเป็นข้อพิสูจน์ว่า ความสำเร็จนั้นสร้างได้หากไม่คิดยอมแพ้

“ความล้มเหลว คือบันไดสู่ความสำเร็จ”

1. สายธุรกิจ/การตลาด

Sara Blakely -- สาวน้อยเจ้าของแบรนด์ Spanx ชุดกระชับสัดส่วนแนวใหม่ไร้ขอบ ที่ปัจจุบันเป็นสินค้าขายดีติดสุดฮอทในอเมริกาและทั่วโลก เป็นที่นิยมในหมู่ดาราฮอลลีวู้ดทั้งชาย-หญิง

Photo Credit: edition.cnn.com

คุณรู้มั้ยว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ เธอมีเรื่องเฟลๆมากมายตั้งแต่สอบ LSAT ไม่ผ่านถึง 2 ครั้งทำให้ฝันที่จะเป็นอัยการสลาย พอมาทำงานเป็นเซลขายเครื่องแฟ็กซ์ก็ไม่มีใครสน โดนลูกค้าปฏิเสธอยู่ตลอดเป็นระยะเวลาเกือบ 7 ปี แต่ด้วยความเป็นคนมองความล้มเหลวในแง่บวก ชีวิต Blakely เลยไม่จมแช่อยู่แค่นั้น นางพยายามหาโน่นนี่นั่นทำไปเรื่อย

Photo Credit: fundable.com

จนมาถึงวันที่เธอเจอเข้ากับไอเดีย Pantyhost สุดบรรเจิดที่ไม่มีใครเห็นด้วย เธอยังต้องทนฟังคำหัวเราะ คำดูแคลนและคำปฏิเสธของเจ้าของโรงเย็บผ้าที่เธอไปขอให้ทำ Prototype ให้เป็นจริง เป็นระยะเวลาหลายเดือนที่เธอต้องทั้งโทร ทั้งขับรถไปหา คุยจีบทุกโรงตามประสาเซลเก่า นั่งรอคุยจนเย็น บางรายก็ได้คุย บางรายก็ไม่ได้คุย จนสุดท้ายหนึ่งในโรงงานที่เธอคุยด้วยก็ติดต่อกลับมา ยอมทำ prototype ให้ และจากวันนั้นธุรกิจพันล้านของเธอก็เริ่มต้นขึ้น

Photo Credit: businessinsider.com

ปัจจุบัน Blakely กลายเป็นผู้หญิงร่ำรวยที่สุดที่สร้างฐานะด้วยตัวเอง ติดอันดับ Forbe's Amerca's Richest Self-Made Women อันดับที่ 17 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 1.1 พันล้าน US$ (แปลงเป็นไทยก็เกือบ 4 พันล้าน) (Forbe2016)

กุญแจความสำเร็จของ Sara ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล มันมาจากคำถามที่พ่อเธอมักเล่นถามเธอทุกมื้ออาหารค่ำ ว่า… "วันนี้ลูกทำอะไรล้มเหลวบ้างหรือยัง" และถ้าเธอตอบว่า “ยัง” พ่อนางก็จะทำหน้าผิดหวังใส่เธอเล็กน้อย เพราะ…

"นั่นหมายความว่าลูกยังไม่ได้ลองทำอะไรสำคัญให้ชีวิตเลยสินะ"

“วันนี้คุณทำอะไรล้มเหลวบ้างยัง”

2. สายแฟชั่น/แม็กกาซีน

Anna Wintour -- บรรณาธิการบริหาร Vogue ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่นระดับโลก ติดชาร์จ Forbes’ Most 100 Powerful Women อันดับที่ 28

Photo Credit: style.over.net

กว่าจะมาถึงจุดสุดยอดแห่งความสำเร็จในวงการสื่อแฟชั่น ชีวิตการงานของนางเริ่มต้นแบบลุ่มๆดอนๆ ย้ายงานมาก็หลายที่ เคยถูกไล่ออกจากงานตำแหน่ง Fashion-Editor แม็กกาซีน Harper’s Bazaar ด้วยเหตุผลว่า “ไม่เข้าใจตลาดอเมริกัน” Wintour เล่าว่าตอนนั้นปี 1975 “นางไปถ่ายแฟชั่นเซ็ทที่ฝรั่งเศส เป็นคอลเล็คชั่นกูร์ตูร์ นางจับนางแบบทำผม Deadlock หมด และมันคงมากไปสำหรับพวกเค้า” และนี่คือสิ่งที่ทำให้เธอหลุดจากตำแหน่ง… และด้วยความ Edgy สุดล้ำที่เธอไม่เคยละทิ้งไม่ว่าจะย้ายไปทำงานแม็กกาซีนที่ไหนก็ตาม

Photo Credit: zimbio.com

Photo Credit: laineygossip.com

ปัจจุบัน Wintour กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่นระดับโลก ดำรงตำแหน่งบรรณาธิการบริหาร Vogue มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1988 จนถึงปัจจุบัน กว่า 28 ปีแล้ว และไม่มีแววที่จะเกษียณตัวเองออกจากวงการ ถึงแม้ว่าปีนี้จะอายุ 66 แล้วก็ตาม

คำพูดเด็ดของนาง: “I recommend that you all get fired once."

3. สายบันเทิง/สื่อทีวี

Oprah Winfrey -- พิธีกรชื่อดังที่มีเรทติ้งคนดูสูงสุดในวงการโทรทัศน์ ติดชาร์จ Forbes’ Most 100 Powerful Women อันดับที่ 21

Photo Credit: enstarz.com

โอปราห์เกิดในครอบครัวยากจน ชีวิตตอนเด็กลำเค็ญมากกๆๆแบบขอข้ามนะคะ ไปงานเลยดีกว่า เริ่มอาชีพผู้ประกาศข่าวตั้งแต่อายุ 19 ตอนอายุ 22 ย้ายมาอ่านข่าวภาคค่ำที่สถานีโทรทัศน์ WJZ-TV ในบัลติมอร์ หลังทำงานได้เพียง 8 เดือน ถูกปลดออกจ้าาา โทษฐาน “อ่านข่าวใส่อารมณ์มากเกินไป”

Photo Credit: oprah.com

หลังจากนั้นภายในไม่ถึง 1 ปี อย่าคิดว่านางจะไปเปลี่ยนตัวเองนะ เปล่าเลย นางกลับคืนสู่จอแก้วอีกครั้งด้วยรายการทีวีของตัวเองเพื่อจะได้ “ใส่อารมณ์” กับเรื่องราวที่ต้องการนำเสนอได้อย่างเต็มที่ แล้วนั่นคือจุดเริ่มต้นของรายการทอล์คโชว์ชื่อดัง The Oprah Winfrey Show รายการที่เรทติ้งการชมสูงสุดในประวัติศาสตร์รายการโทรทัศน์แบบถล่มทลาย จากวันนั้นเธอกลายเป็นผู้หญิงแอฟริกัน อเมริกันที่รวยที่สุดในศตวรรษที่ 20 (มูลค่าทรัพย์สินกว่า 2.9 พันล้าน) และกลายเป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมริกา

Photo Credit: eonline.com

คำพูดเด็ดของนางคือ

“คนที่ไม่เคยล้มเหลว คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย”

4. สายวรรณกรรม

J.K. Rowling – นักเขียนเจ้าของนวนิยายแฟนตาซีชุดขื่อดังที่ไม่มีใครในโลกนี้ไม่รู้จัก “Harry Potter”

Photo Credit: azcentral.com

ชีวิตเริ่มต้นของเธอเรียกได้ว่าเป็นนักเขียนไส้แห้งของแท้ แม่เสีย เลิกกับสามี ไร้บ้านไร้ครอบครัวไร้งาน ต้องย้ายมาเช่าบ้านอยู่ เลี้ยงลูกตัวคนเดียว แบบปากกาก็แกว่ง เปลก็ไกว ประทังชีวิตอยู่ได้ด้วยเงินสวัสดิการสังคม สถานะเข้าข่ายยากจนทีเดียว แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ที่จะเขียนมันจนเสร็จด้วยจินตนาการเปี่ยมล้นไม่มีตก

Photo Credit: terapeak.com

เมื่อถึงคราวที่ต้องเสนอสำนักพิมพ์ นิยายของเธอถูกปฏิเสธจากสำนักพิมพ์ 12 แห่ง จนสุดท้ายมีสำนักพิมพ์หนึ่งตกลงยอมพิมพ์ให้ พร้อมๆกับคำแนะนำว่า อย่าไปหวังอะไรมากนะกับเล่มนี้ ให้หางานทำไปด้วย เพราะหนังสือเด็กทำเงินได้ไม่ดีนักหรอก

Photo Credit: moviepilot.com

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของหนังสือเด็กที่ขายดีที่สุด อ่านกันทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ บ้างก็อ่านตั้งแต่เด็กยันโตเลยทีเดียว เรียกได้ว่าคนทั้งโลกไม่มีใครไม่รู้จัก หนังสือชุดขายไปได้กว่า 400 ล้านเล่มทั่วโลก ได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาต่างๆกว่า 67 ภาษา จากนั้นชีวิตของ Rowling ก็พลิกจากสถานะยากจนไปสู่ความเป็นอภิมหาร่ำรวยภายใน 5 ปี กลายเป็นหญิงที่ร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 12 ของประเทศอังกฤษไปเล้ยยย (Sunday Time Rich List 2008) เย้! พลอยดีใจไปกับนางด้วย ^^

บทสรุป: ทุกเส้นทางความสำเร็จล้วนมีอุปสรรค จะมากจะน้อยก็อย่าได้ยอมแพ้มัน เพราะมันคือความท้าทายในชีวิตที่จะพลิกให้ได้เจอสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเสมอ เหยียบมันขึ้นไปค่ะ!

สำหรับใครที่ต้องการอ่านข้อคิดดีๆ เพื่อจุดประกายไอเดียชีวิต ลองเข้าไปหาอ่านต่อได้ที่ krungsri.com/bank/th/KrungsriGuru นะคะ

คลิป: เคล็ดลับสู่เงินล้านกับการเพิ่มรายได้ 10 เท่า