Siwilai City Club เปิดตัวเชฟพาร์เนอร์ เชฟหวาย - สาละ ศักดาเดช จาก Rasik Local Kitchen กับเมนูคอมฟอร์ทที่ผสมผสานความเป็นไทยไว้อย่างลงตัว แต่ละเมนูจะน่าทานขนาดไหน และจะมีเมนูอะไรบ้าง ไปชมพร้อมกันเลยค่าาา~
Siwilai City Club (S.S-C) คลับใจกลางเมืองของทุกคนที่รักวัฒนธรรม เปิดตัวเชฟพาร์ทเนอร์อย่าง เชฟหวาย - สาละ ศักดาเดช จาก Rasik Local Kitchen จังหวัดเชียงใหม่ ที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับหัวหน้าพ่อครัวอย่างเชฟพีท เพื่อออกแบบเมนู All Day Dining เมนูใหม่ที่อยู่ภายใต้แนวคิด ‘Comfort Food with a Twist’ โดยให้ความสำคัญกับวัตถุดิบจากทั่วทั้งประเทศไทย ในการังสรรค์ทั้งเมนูอาหารไทยและนานาชาติ
Siwilai City Club ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2560 บนดาดฟ้าที่รายล้อมไปด้วยตึกระฟ้าตัดกับเส้นขอบฟ้าใจกลางเมือง ที่นี่ไม่ใช่แค่บาร์หรือร้านอาหาร แต่ก่อตั้งขึ้นภายใต้ความคิดที่ผสมผสานอาหาร ศิลปะ และวัฒนธรรมไว้ในที่เดียว ที่นี่จึงเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของทุกคนที่รักในวัฒนธรรมคล้ายๆ กัน ซึ่งภายใต้บรรยากาศนี้เชฟหวายและเชฟพีทจึงร่วมกันออกแบบเมนูอาหารที่ตอบโจทย์ทุกคนทั้งเมนูไทย และ นานาชาติ ที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นผสานความคิดสร้างสรรค์ในการปรุงอาหาร
Kub Lao (กับเหล้า) จากบรรยากาศของคลับที่เหมาะสำหรับการกินดื่ม กับเหล้า คือเมนูอาหารรสจัดจ้านที่เหมาะสำหรับแกล้มเครื่องดื่มยามค่ำคืน ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือ แหนมป้าย่นทอดกับซอสผักชี เมนูนี้เลือกใช้แหนมจากเชียงใหม่ นำมาทอดและเคียงกับน้ำจิ้มสไตล์ซอสเพสโต้ที่ทำจากผักชี
Kub Kao (กับข้าว) เมนูอาหารจานหลักสำหรับแชร์กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง อย่าง แกงฮังเลแกะผักดองยูนาน จานนี้เลือกใช้เนื้อแกะส่วนหัวไหล่ทานกับแกงฮังเลของภาคเหนือแกล้มกับผักดองสไตล์ยูนานที่ทางร้านทำเอง สำหรับคนรักเนื้อห้ามพลาดเมนู สเต็กเนื้อกับแจ่วมะเขือเทศ และ ลิ้นวัวย่างดอกเกลือกับไทยชิมิชูรี
Kub Wan (กับหวาน) ปิดท้ายมื้อด้วยของหวานแบบไทยๆ ที่ทางทีมเชฟได้หยิบเอาขนมไทยดั้งเดิมมาสร้างสรรค์ให้มีลูกเล่นกว่าเคย อย่าง กล้วยไข่เชื่อม ไอศครีมข้าวเม่ากะทิ และกระยาสารทกรอบ จานนี้เป็นการรวมกันของกล้วยเชื่อมไทยๆ ทานคู่กับข้าวเม่าที่ทำเป็นไอศกรีม และเพิ่มความกรุบกรอบด้วยกระยาสารทน้ำอ้อย
นอกจากนี้ วัตถุดิบจากท้องถิ่นไทยยังถูกนำไปใช้ในการสร้างสรรค์เมนูนานาชาติเพื่อเป็นทางเลือกอีกด้วย ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดได้แก่ แก้มวัวตุ๋นรีเจนซี่ ที่เชฟผสมผสานความเป็นไทยด้วยการใช้บรั่นดีไทย Regency เป็นหนึ่งในส่วนผสมสำหรับตุ๋นแก้มวัว จากนี้เสิร์ฟเคียงกับโพเลนต้าเนื้อนุ่มกลิ่นทรัฟเฟิล อีกจานที่ต้องลองคือ ไก่เบบี้หมักสมุนไพรย่าง ที่เชฟเลือกใช้ไก่จากฟาร์มคลองไผ่ นำมาหมักด้วยสมุนไพรไทย ย่างให้สุกช้าๆ เสิร์ฟเคียงกับผัดผักโขม และอย่าลืมชิมอาหารเคล้าไปกับเครื่องดื่มซักแก้ว เมนูเครื่องดื่มที่นี่ถูกคัดสรรค์มาอย่างดีโดยสองมิกโซโลจิสท์ชั้นนำอย่าง Benny และ Danny Sorum
เมนู All Day Dining ของ Siwilai City Club จะพร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 กันยายนเป็นต้นไป หากคุณเป็นคนที่รักในวัฒนธรรมการกินดื่ม ศิลปะ และเสียงดนตรี Siwilai City Club พร้อมต้อนรับทุกคน ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึงเที่ยงคืน
DINING เติมเต็มความสุขทุกมื้ออาหาร รับ Central Embassy Dining Voucher และสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต Central The 1 รับ Cash Back รวมสูงสุด 11,800 บาท (จำกัด 2,770 รางวัลตลอดรายการ)
- เมื่อรับประทานครบ 2,000 บาท รับ Central Embassy Dining Voucher มูลค่า 200 บาท และ Cash Back มูลค่า 200 บาท รวมรับสูงสุด 400 บาท
- เมื่อรับประทานครบ 5,000 บาท รับ Central Embassy Dining Voucher มูลค่า 800 บาท และ Cash Back มูลค่า 200 บาท รวมรับสูงสุด 1,000 บาท
- พิเศษสำหรับ Weekend Deal (เสาร์–อาทิตย์) เมื่อรับประทานครบ 3,000 บาท รับ Central Embassy Dining Voucher มูลค่า 700 บาท และ Cash Back มูลค่า 200 บาท รวมรับสูงสุด 900 บาท
- พิเศษรับของพรีเมียมสุดพิเศษจาก Sticky Monster Lab
- พิเศษ! ผู้ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เพียงช้อปครบ 6,000 บาท รับของรางวัลมูลค่า 500 บาท สำหรับลูกค้าทั่วไป เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท รับของรางวัลมูลค่า 500 บาท
นอกจากนี้ ยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล LUCKY DRAW สำหรับสมาชิก The 1 เมื่อช้อป หรือ รับประทานอาหารครบทุก 3,000 บาท รับ 1 สิทธิ์ เพื่อลุ้นรับของรางวัล รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท จำนวน 37 รางวัล ได้แก่ Voucher ที่พัก ร้านอาหาร สปาแอนด์เวลเนส และร้านเสริมสวย เติมความคึกคักเศรษฐกิจปลายปี ดึงกำลังซื้อกลุ่ม Mid-to-High กลับมาสู่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เตรียมพบกับโปรโมชั่น “BLACK FRIDAY 2025” ตั้งแต่วันที่ 28 – 30 พฤศจิกายน 2568 พร้อมส่งความพิเศษอย่างต่อเนื่องกับ โปรโมชั่น “BOXING DAY 2025” ตั้งแต่วันที่ 26 - 28 ธันวาคม 2568
