อันยองฮาเซโยค่ะเพื่อนๆ วันนี้ขอมาตามติดกระแสฟีเวอร์ เอาใจคนรักเกาหลีค่ะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดค่า ไม่ได้จะชวนเพื่อนๆไปแกะรอยซีรีย์เกาหลีเรื่องดังแต่อย่างใด แต่จะชวนไปสัมผัส อิ่มเอม กับร้านอาหารเกาหลีน้องใหม่แกะกล่อง ที่เพิ่งเปิดตัวได้2เดือนกว่า แต่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า ร้านนี้เด็ด โดนใจ เป็นอาหารเกาหลีแท้ๆ ที่การันตีความอร่อยว่าเหมือนยกครัวจากเกาหลีมาทำให้กินเลยค่ะ! ว่าแล้วเฟียร์ซก็ไม่พลาด ขอพาเพื่อนๆ ไปชิมร้านอาหารเกาหลี "JJANG" ว่าจะจริงสมชื่อไหม!? ไม่รอช้า ไปกันเลยค่า
พร้อมแล้วออกเดินทางกันค่ะ พูดเหมือนอยู่ไกลมาก จริงๆก็ไม่ใช่ที่หายากอะไรหรอกค่า อยู่ใจกลางสยามสแควร์นี่เองนั่นไง! เห็นป้ายมาแต่ไกล พิกัดง่ายๆ อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับศูนย์หนังสือจุฬาค่ะ
บริเวณหน้าร้าน
ทางเข้าดูอลังการมาก เดินขึ้นบันไดไปอย่างมาดมั่นได้เลยค่ะ เพราะร้านอยู่ชั้น 2 ร้าน “JJANG” อ่านว่า “จัง” นะคะ เป็นศัพท์วัยรุ่นของคนเกาหลี แปลว่า
“สุดยอด” ค่า (ชักอยากจะรู้แล้วว่า สุดยอดขนาดไหนกันนะ)
มาถึงชั้น 2 ร้านน่ารักมากๆ ตกแต่งด้วยผนังปูนดิบโล่งกว้าง เพ้นท์ลวดลายฟรีแฮนด์เก๋ไก๋ สไตล์ลอฟท์ (Loft) บรรยากาศดูเท่ห์ๆ โปร่งๆ สบายๆ ไม่เกร็งค่ะ!
บรรยากาศภายในร้าน
มิสเตอร์คิงเจ้าของร้านออกมาต้อนรับ ดูแลลูกค้าเองด้วย! ยิ้ม ทักทาย สุภาพ สูง มีซิ๊กแพค ชวนเคลิ้มคิดถึงโอปป้า! ไม่ใช่ละ นอกเรื่องเฉยเลยค่ะ! แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว เฟียร์ซก็ขอยกให้ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่ “เจ้าของร้านแซ่บ” ด้วยเลยละกันนะคะ (นี่สรุปมารีวิวร้านอาหาร หรือรีวิวอะไรกันแน่!!?) เอาเป็นว่า แค่เดินเข้าร้านก็ได้สัมผัสบรรยากาศเกาหลีแบบแท้จริงค่ะ!
มิสเตอร์คิง เชฟและเจ้าของร้าน
บรรยากาศภายในร้าน
ภาพเพนท์ Mural Art น่ารักๆ
เป็นงานเป็นการกันนิ๊ดนึงค่า! (บอกตัวเอง) จริงๆแตกต่างจากที่คิดไว้ เพราะปกติชอบคิดว่าร้านเกาหลีส่วนใหญ่ต้องเป็นร้านสีแดงๆ มีวัสดุจากไม้เยอะๆ อารมณ์แบบแดจังกึม แต่นี่บรรยากาศดูชิคๆ อาร์ตๆ นั่งสบายดีค่ะ
นั่งที่โต๊ะกันก่อน สำรวจเมนูเรียบร้อย สั่งอาหารเลยละกันค่า หิวม๊ากกก! แต่ขออุบไว้ก่อนว่าสั่งอะไรมาบ้าง ให้เพื่อนๆลุ้นไปพร้อมกันค่ะ! บนโต๊ะก็จะมีเตาไฟฟ้า ผ้ากันเปื้อน ชาม ตะเกียบและช้อนเป็นอาวุธประจำตัว!
ระหว่างรออาหาร แอบถาม มิสเตอร์คิงว่า ทำไมตะเกียบต้องแบนๆ ด้วย! ได้คำตอบสุดเซอร์ไพรส์ว่า ที่แบนเพราะว่า คนเกาหลีเวลากินข้าว เครื่องเคียงเยอะ และอาหารส่วนใหญ่จะเป็นชามเล็ก ชามน้อยสับๆซอยๆเป็นชิ้นเล็กๆ เค้าจึงต้องการอาวุธที่แม่นยำ ไว แบบว่า “ล็อคเป้าหมายไม่ให้เคลื่อนที่” ฉึบฉับ คีบชิ้นไหนได้ชิ้นนั้น ไม่เกะกะคนอื่นผู้ร่วมโต๊ะค่ะ
อาหารมาแล้วค่าาา จากแรกขอประเดิมด้วย Signature ของร้าน จิมดัก (Jjim Dak) ค่ะ ซึ่งทางร้านมี 2 รสชาติให้เลือกคือ "กันจัง" และ "โกชูจัง" และมี 2 ไซส์นะคะ แนะนำว่ามา 2 คนทานไซส์ S กำลังน่ารัก ส่วน 4 คนขึ้นไปก็จัดซัดโฮกไซส์ L เลยค่ะ แล้วยังสามารถเลือกความเผ็ดได้ 3 ระดับอีกด้วย
เมนู 1 : จิมดัก (Jjim Dak) รสกันจัง
ไซส์ S ราคา 549 บาท / ไซส์ L ราคา 949 บาท
จิมดัก รส 'กันจัง' เป็นไก่ตุ๋นเคี่ยวซอสซีอิ้วกับวุ้นเส้นเกาหลีค่ะ มิสเตอร์คิงเข้ามาช่วยคลุกให้เข้ากัน (ใส่ใจจัง) และอธิบายว่า เมนูนี้เวลากินให้กินวุ้นเส้นก่อนค่ะ เพราะถ้านานๆไปแล้ว เดี๋ยววุ้นเส้นจะนิ่มและขาด ไม่อร่อยเหมือนเดิม
ให้ไก่เยอะมากกกกก เมนูนี้รสชาติจะคล้ายๆไก่พะโล้นะคะ ออกจะเค็มๆเผ็ดๆ แต่แอบมีรสหอมหวานของซีอิ้ว ทำให้กลมกล่อมลื่นคอดีค่ะ เนื้อไก่ก็นุ่ม ซอสเข้าเนื้อดีค่ะ ทีเด็ดอยู่ที่วุ้นเส้น เป็นวุ้นเส้นแบบเส้นแบนนำเข้าจากเกาหลี เหนียวหนึบหนับกำลังดี คือมันใช่อ่ะ!!!
เมนูนี้ให้ 8.5/10 เพราะอร่อยมากกก!
เมนู 2 : จิมดัก (Jjim Dak) รสโกชูจัง
จิมดัก รสโกชูจังค่ะ เป็นไก่เคี่ยวซอสพริกโกชูจังกับวุ้นเส้นเกาหลี ทางร้านทำมาเอาใจคนชอบความเผ็ดร้อนแบบฮอทแอนด์สไปซี่ค่ะ
ไซส์ S ราคา 549 บาท / ไซส์ L ราคา 949 บาท
รสชาติออกเผ็ด ร้อนค่ะ เผ็ดแบบเกาหลีจะเผ็ดแบบร้อน ไม่ได้เผ็ดซี๊ดแบบส้มตำบ้านเราค่ะ โดยรวมรสชาติ อร่อย กลมกล่อมดีนะคะ ความหวานของไก่ และเส้นเหนียวหนึบหนับ เจอกับซุปเผ็ดร้อน เข้ากันได้ดีค่ะ (อันนี้สั่งความเผ็ด LV.1) ใครชอบเผ็ด ขอเชิญท้าประลองค่ะ!
ให้ 8.5/10 เช่นกันค่ะ
*ที่ชอบมากของจิมดักทั้ง 2 รสชาติคือ นางมาเป็นหม้อและเปิดไฟวอร์มไว้ตลอด! หมดปัญหาเรื่องซอสหนืดเหนียวติดจานค่ะ แล้วที่สำคัญ!!! ซุปกับซอสขอเติมได้เรื่อยๆ เติมฟรีนะคะ :)
ถ้าสั่งพวกหม้อๆ จะได้สลัดแถมเป็น side dish ด้วยค่ะ มา 2 คนได้สลัด 1 จาน มา 4 คนได้ สลัด 2 จานค่ะ
เมนู 3 : ซุปกิมจิ (Kimchi-Jjigae)
ไปกันต่อค่ะ มาแล้วซุปกิมจิ (Kimchi-Jjigae) ที่รอคอย ว่ากันว่าซุปกิมจิ เป็นเมนูประจำชาติเปรียบเสมือนต้มยำกุ้งของคนเกาหลีเลยล่ะค่ะ
ราคา 170 บาท
แบบว่ารสชาติเข้มข้น ถึงเครื่องสุดๆ!!! มิสเตอร์คิงบอกว่า กิมจิทำเองสดๆใหม่ๆทุกวันนะคะ ไม่ได้มีการซื้อพวกแช่แข็งมาแต่อย่างใดค่ะ เพราะงั้น Healthy แน่นอนค่า
ซุปกิมจิ อร่อยมาก แซ่บเว่อร์!!! ให้ 8/10 ค่ะ
เจอพูดเข้าไปแบบนี้ เลยสั่งกิมจิโฮมเมดเพิ่มมาลองซะหน่อย
อร่อยสมชื่อจริงค่ะ สมแล้วที่เป็นโฮมเมด ผักกรอบฉ่ำ รสเปรี้ยวเค็มเผ็ดถึงเครื่องมากเลยค่ะ ให้ใจเลย 8.5/10
สตูว์เนื้อ (Yukgaejang) ราคา 170 บาท
ซุปเต้าหู้ (Sundubu-Jijigae) ราคา 180 บาท
นอกจากนั้นยังมี สตูว์เนื้อ (Yukgaejang) กับ ซุปเต้าหู้ (Sundubu-Jijigae) ด้วยค่ะ 2 ชามนี้ไม่ได้ทานค่ะ เพราะเก๊าไม่ทานเนื้อ เพื่อนที่สั่งแอบกระซิบมาว่าอร่อยแซ่บถึงเครื่องเช่นกันค่ะ เต้าหู้ น้ำซุป เนื้อ โดนใจพวกนางค่ะ ใครทานเนื้อได้ก็ลองสั่งดูนะคะ
เมนู 4 : คิมบับ (Kimbab)
คิมบับ (Kimbab) ข้าวห่อสาหร่ายเกาหลี สารภาพตามตรงว่ารู้จักเมนูนี้จากซีรีย์เกาหลีค่ะ ว่ากันว่าเป็นเหมือนเบอร์เกอร์ของฝรั่งค่ะ กินเวลารีบๆ พกพาสะดวก ประเด็นสำคัญคือ นางเอกชอบสั่งกิน เลยขอสั่งบ้างแบบว่า เผื่อได้เจอโอปป้ากับเค้าบ้างค่า (ยังคงวนอยู่ประเด็นเดิม 5555)
ราคา 160 บาท
สารภาพว่าเห็นเมนูนี้แล้วแอบนึกว่ารสชาติจะคุ้นเคยเหมือนที่เคยกินที่อื่นมา ก็แหม หน้าตาละม้ายคล้ายซูชิซะขนาดนี้ แต่พอได้ชิมแล้ว บอกได้เลยค่ะว่าอร่อยมากกกก แบบไม่ต้องถามหาโชยุนะคะ เพราะตัวข้าวคิมบับเค้าหมักปรุงรสมาแล้วค่ะ เพราะงั้นจะมีความหวานหอมของข้าวหมักและปูอัด เค็มๆมันๆได้รสงา สาหร่ายรสชาติแบบสาหร่ายเกาหลี และอมเปรี้ยวจากผักดองนิดๆ เรียกได้ว่าลงตัวค่ะ เวลากินๆเข้าไปทั้งคำเลยค่ะ อาจจะเต็มปากหน่อย แต่ได้อารมณ์กว่าค่ะ! ไม่ต้องกลัวว่ามันจะจืด ตัวนี้บอกเลยว่าต้องลอง แล้วจะรู้ว่าเราไม่ได้พูดเกินจริง!
ให้ 8.5/10 ค่ะ อร่อยค่ะเพลินมากไม่เลี่ยนเลย
เมนู 5 : จูม๊อกบับ (Jumeokbab)
ต่อด้วย จูม๊อกบับ (Jumeokbab) ข้าวปั้นนั่นเองค่ะ มาแบบกลมๆ พอดีคำ กำลังน่ารัก
ราคา 150 บาท
เพราะว่าด้วยหน้าตาแบบนี้ ตอนแรกเดาไม่ออกเลยว่า รสชาติจะเป็นไง ดูเหมือนมีอะไรผสมอยู่ในก้อนกลมๆนั้นเยอะแยะค่ะ (พนักงานบอกมีส่วนผสม 12 อย่าง) กินเข้าไปจะบอกว่าเซอร์ไพรส์นะ เพราะมันเย็นๆ หนืดๆ เคี้ยวเข้าไปเหมือนส่วนผสมดูงงๆ แต่กลับอร่อยอ่ะ บอกไม่ถูก อยากงงแต่อร่อย ต้องลองค่า 555
ให้ 8.5/10 ส่วนตัวว่าอร่อยนะคะ
เมนู 6 : ต๊อกปกกี่ (Topokki)
มาถึงเมนูสุดท้ายแล้วค่า มากินร้านเกาหลีจะไม่สั่งได้ยังไงคะ จุดนี้แล้วพุงจะแตก! จะออกจมูกอยู่แล้วคร่าา แต่ก็พลาดไม่ได้จริงๆ ต๊อกปกกี่ (Topokki) ต้องมาค่ะ ต๊อกปกกี่เป็น Signature ของร้านเหมือนกันค่ะ มี 2 ขนาดให้เลือก คือ S และ L สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ 3 ระดับเช่นกันค่ะ
ไซส์ S ราคา 345 บาท / ไซส์ L ราคา 675 บาท
ต๊อกปกกิน้ำสีแดงในหม้อร้อนมีท้อปปิ้งเป็นหมูสไลด์ แป้งต็อกต้นตำรับ แป้งต็อกชีส เส้นราเมียนเกาหลี (Ramyon) โจลเมียนเส้นเหนียวนุ่ม ไข่ต้ม โอเด้งซีฟู้ด ผักต่างๆ และเนื้อ ท็อปปิ้งสามารถสั่งเพิ่มได้ค่ะ แล้วแต่ความชอบๆเลย จัดไปรัวๆ
พนักงานจะนำมาวางบนเตาไฟฟ้าค่ะ รอจนร้อน จากนั้นจะทำการคลุกซอสให้เข้ากับเครื่องจนทั้งจานสีแดงฉานค่ะ
แล้วที่ชอบมากคือ ต๊อกชีส ค่ะ แบบแป้งนุ่มๆชีสเน้นๆ กลมกล่อมมาก อร่อยลืมอ้วนเลยค่ะ (รีบตักใส่จานแทบไม่ทัน) ไม่อยากจะเว่อร์ว่า เก็บมานอนฝันเลยค่ะ ถึงชีสหอมมัน ยืดๆๆ กับต๊อกในซอสเผ็ดๆหวานๆ
ซุปเปรี้ยวเค็มเผ็ดเข้มข้น แป้งต๊อกเค้าเหนียวนุ่ม หนึบหนับค่ะ เนื้อหมูก็นุ่มมาก โอเด้งก็เด้งสมชื่อค่ะ แนะนำว่าให้กินเส้นก่อนนะคะ เดี๋ยวมันจะนิ่มเละค่ะ แต่ถ้าชอบนิ่มๆก็ไม่ว่ากันค่า เมนูนี้เพลินมาก เรียกได้ว่าเป็นเมนูรวมมิตร เพราะท๊อปปิ้งจัดหนัก ตักทีเจอสี่ห้าอย่าง บันเทิงจริงๆ 555 ถ้าหิวๆมานี่สั่งเลยค่ะ รับรองฟินอิ่มสะใจแน่นอน!
เมนูนี้ให้ 8.5/10 ค่ะ
โดยรวมแล้วอาหารถือว่าอร่อยมาก ติดใจค่ะ บ้าพลัง กินไม่ลืมหูลืมตาเลยค่ะ ก่อนกลับเลยแอบถามมิสเตอร์คิงว่า อะไรคือเคล็ดลับความอร่อย!? มิสเตอร์คิงบอกว่า ความอร่อยเกิดจาก การใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน ที่เน้นให้ลูกค้านั่งได้สบายกับการกิน การเลือกวัตถุดิบ ขั้นตอนการทำอาหาร เค้าบอกเลยว่า "ทำด้วยใจ" (เท่ห์เว่อร์) ที่อยากให้ทุกคนได้กินอาหารเกาหลีแท้ๆ คุณภาพดีค่ะ และเค้าไม่ได้เป็นเชฟทำหน้าที่ปรุงอาหารอย่างเดียว แต่เค้าไปเลือกผักที่ตลาดด้วยตัวเองทุกวัน เพื่อให้มั่นใจว่าได้ผักที่ได้มาสดจริงๆ และปลอดสารพิษ! เนื้อไก่ หมูก็เป็นเนื้อปลอดสาร (ของ Betagro เท่านั้นค่ะ) ใส่ใจมากกก ใครที่กลัวว่ามากินอาหารเกาหลีแล้วจะเจอพวกอาหารจังค์ บอกได้เลยว่าไม่ใช่ที่นี่แน่นอนค่ะ!
แม้แต่เครื่องปรุงก็นำเข้าจากเกาหลีทั้งหมด เอาออกมาโชว์ให้ดูด้วยค่ะ มิสเตอร์คิงบอกว่า ถึงมันจะแพง แต่การที่ใช้เครื่องปรุงไทยทดแทน ก็จะไม่ได้สัมผัสเกาหลีที่แท้จริงค่ะ
โชว์ห้องครัวให้ดูด้วยค่ะ ห้องกลัวก็สะอาดมาก! เรียกได้ว่า "สุดยอด" สมชื่อจริงๆค่ะ
เป็นไงกันบ้างคะเพื่อนๆ ถึงร้านที่เฟียร์ซเอามาฝากในวันนี้ ร้านอาหารเกาหลีเล็กๆ บรรยากาศอบอุ่น เจ้าของร้านและพนักงานบริการดีเยี่ยม บริการด้วยรอยยิ้ม กันเอง เหมือนคนคุ้นเคยกันมานาน ให้ความรู้สึกเหมือนไปทานอาหารบ้านเพื่อนชาวเกาหลีเลยล่ะค่า! ที่สำคัญรสชาติยังเป็นแบบดั้งเดิม เกาหลีแท้ๆ สูตรเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ปรุงโดยมิสเตอร์คิง ชาวเกาหลี 100% ที่บ้านมิสเตอร์คิงทานยังไง เราได้ทานกันแบบเดียวกันเป๊ะๆเลยค่ะ!!! สุดท้ายขอบอกเพื่อนๆว่า "มากินกันเลยคุ้มมาก!!!" ใครไปกินแล้วหลังไมค์มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ สวัสดีค่า ~
PROMOTION!
- โปรโมชั่นลด 10% (ฉลองเปิดร้านใหม่)
Location:
JJANG
สยามสแควร์ ซอย 10
ชั้น 2 อยู่ฝั่งตรงข้าม เยื้องกับศูนย์หนังสือจุฬา
เวลาเปิด : 10 โมง - 4 ทุ่ม
ติดตามรายละเอียดได้ที่
Instagram : @jjang_thailand
Facebook : jjang
Line id : jjangthailand
Tel No. : 087-9138996, 095-0024603