หน้าหนาวนี้ไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยก็คือลิปบาล์ม เพราะริมฝีปากเป็นสิ่งแรกเลยที่จะแตกในหน้าหนาว (แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้หนาวมากก็ตาม) ปีก่อนเฟียร์ซก็เคยเขียนถึงสุดยอดลิปบาล์มไปแล้ว และปีนี้ก็ได้มีโอกาสได้ลองแบรนด์อื่นบ้างอะไรบ้าง เรามาดูกันเลยดีกว่าปี 2015 นี้ จะมีลิปบาล์มอะไรที่เฟียร์ซคิดว่าเป็น The Best บ้างค่ะ
Photo credit : KitiyaKamdee/Fiercebook.com
1. Alverde Lip Balm Calendula
(ราคา 159 บาท, www.ecoeuphoria.com)
ลิปบาล์มที่มีขายเฉพาะดรักสโตร์ยุโรปเท่านั้น (ณ จุดนี้ต้องขอโทษด้วยที่หาในไทยไม่ได้) แต่ใครมีโอกาสควรจัดค่ะ เพราะมันดีมาก ช่วยทำให้ริมฝีปากเรียบลื่น นุ่มชุ่มชื่น และช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้ปากได้ยาวนาน ที่สำคัญเหมาะสำหรับริมฝีปากที่ระคายเคืองแพ้ง่าย และค่อนข้างติดทนไม่ทาปุ๊บหายปั๊บ ใครไปเที่ยวยุโรปอย่าลืมซื้อมาลองนะคะ
2. Gla Nature Rice Bran Oil Nurturing Lip Cream
(ราคา 285 บาท, www.facebook.com/glaskincarethailand)
แบรนด์ไทยชื่ออ่านว่า “กล้า” เป็นลิปบาล์มที่สกัดมาจากธรรมชาติ และสมุนไพรของภาคพื้นเอเชีย คือแบบ...มันดี ใครปากแห้ง ปากแตก ปากลอก โบกไว้ก่อนนอนตื่นเช้ามาริมฝีปากเนียนนุ่มชุ่มชื่น เหมือนไม่เคยแตกมาก่อน ซึ่งทาตอนกลางวันก็ไม่เหนียวเหนอะหนะ สบายริมฝีปากค่ะ
3. Lucas’ Papaw Ointment
(ราคา 350 บาท, ร้าน Eve and Boy @Zpell)
ลิปบาล์มจากออสเตรเลียที่สาวไทยรู้จักเป็นอย่างดี ตัวนี้มีส่วนผสมจากสารสกัดของมะละกอ เป็นเจลอเนกประสงค์สามารถทาได้ทั้งตัว ช่วยให้ริมฝีปากที่แห้งแตก และมีปัญหาหายได้อย่างรวดเร็ว เนื้อเจลไม่เนียวเหนอะหนะ สามารถทาได้ตลอดวัน ช่วยปกป้องริมฝีปากจากอากาศหนาวๆได้ดีค่ะ
4. Carmex Original Lip Balm
(ราคา 120 บาท, www.mycarmex.com)
ลิปบาล์มสูตร original ของ Carmex ช่วยทำให้ริมฝีปากเรียบลื่น เนียนนุ่ม และมีความติดทน ช่วยปกป้องริมฝีปากได้ตลอดทั้งวัน ใครที่มีปัญหาปากแห้ง แตก ลอก เป็นขุย ลองจัดมาใช้ดูค่ะ แพ็คเกจอาจจะใช้งานยากนิดนึง แต่แบบตลับสูตร original จะติดทนกว่าสูตรอื่นๆค่ะ
5. สีผึ้งแม่เลียบ
(ราคา 20 บาท, siphungmaeliab.com)
ไม่ต้องลิปบงลิปบาล์มที่ไหนหรอกค่ะ สีผึ้งไทยบ้านเรานี่แหละเริ่ดมาก แถมยังทำจากส่วนผสมธรรมชาติล้วนๆ ด้วยคุณสมบัติของขี้ผึ้งธรรมชาติ ที่ติดแน่น ทนนาน ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นบนริมฝีปากได้ดี ใครปากแตกโบกไว้ก่อนนอน ตื่นมาหายสนิท คือมันเริ่ดจริงๆ และใครที่ริมฝีปากแพ้ง่ายก็ใช้ได้ค่ะ
6. EOS Smooth Sphere Lip Balm
(ราคา 300 บาท, evolutionofsmooth.com)
ลิปบาล์มแพ็คเกจทรงไข่ หรือที่สาวไทยชอบเรียกว่าลิปไข่ ช่วยทำให้ริมฝีปากชุ่มชื่น เนียนนุ่มน่าสัมผัส ทาตอนกลางวันได้ไม่ทำเหนียวเหนอะหนะ ให้ความสบายริมฝีปาก เนื้อมีความบางเบา แต่ให้ความชุ่มชื่นยาวนาน ที่สำคัญเป็นออแกนิค ใครที่แพ้ง่ายก็ใช้ได้ค่ะ
7. Smith’s Rosebud Salve
(ราคา 270 บาท, www.sephora.com)
ลิปบาล์มที่โด่งดังมากในหมู่สาวๆฮอลลีวูด ช่วยพลิกพื้นริมฝีปากที่แห้งเสียให้กลับมาเนียนนุ่มได้อีกครั้ง นอกจากใช้กับปากแล้ว ยังสามารถใช้ทาหัวเข่า/ข้อศอกที่แห้งในหน้าหนาวได้ด้วยค่ะ ช่วยเก็บกักความชุ่มชื่นได้นานพอสมควรเลยค่า~
8. Kiehl’s Lip Balm #1
(ราคา 390 บาท, www.kiehls.co.th)
ลิปบาล์มสูตรคลาสสิคจาก Kiehl’s ชื่อ Lip Balm #1 คือลิปบาล์มสูตร 1 ที่ครองความนิยมอันดับ 1 ต่อเนื่องมายาวนานตั้งแต่ปี 1969 ช่วยทำให้ริมฝีปากที่แห้งเสียกลับมาเนียนนุ่มได้อีกครั้ง และเก็บความชุ่มชื่นไว้ที่ริมฝีปากได้นาน ตัวนี้นักปีนเขา Everest ใช้ทาตอนพิชิตยอดเขาในปี 1988 นะจ๊ะ แปลว่ามันช่วยรักษาริมฝีปากให้ผ่านอากาศหนาวมากจริงๆค่ะ
หน้าหนาวนี้ใครมีปัญหาปากแห้ง ปากแตก ลอกเป็นขุย ลองไปจัดมาทาดูค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ปากเราไม่ได้แตกเฉพาะหน้าหนาวแล้วเนอะ สาวๆที่ทาลิปสติกบ่อยๆก็สามารถแห้งแตกได้เหมือนกัน และใครที่มีลิปบาล์มในดวงใจแบบว่า...เด็ดมาก เด็ดจริงอะไรจริง อยากให้สาวเฟียร์ซได้ลองบ้างก็คอมเม้นท์มาเลยนะคะ เดี๋ยวจะไปหามาลองบ้างค่า~