สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ วันนี้เฟียร์ซมีอีกเรื่องใกล้ตัวเกี่ยวกับสุขภาพมาแชร์ให้ฟังค่ะ ปกติถ้าเราเจ็บป่วยที่ประเทศไทย เราก็ไปโรงพยาบาล ใช้ประกันสังคม ใช้ประกันสุขภาพ หรือใช้เงินส่วนตัว ในการรักษาพยาบาลใช่ไหมคะ แต่ถ้าเราดันไปป่วยที่ต่างประเทศล่ะ! ทีนี้ทำยังไง!!?
ป่วยต่างแดน - อังกฤษ
เฟียร์ซเองเป็นหนึ่งคนที่เคยไปศึกษาต่อต่างประเทศ ไปแบบงงๆ คือไปแบบจะไปเรียนอย่างเดียว ไม่ได้นึกถึงสิ่งอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวเลย จะเรียกว่าคิดน้อยก็ได้ค่ะ แต่แล้วเรื่องที่ได้เจอกลับไม่น้อยอย่างที่คิด เรื่องนี้เกิดขึ้นกับน้องที่สนิทกันชื่อน้องเอค่ะ น้องเอมาเรียนภาษาแบบคอร์สสัั้นระยะเวลา 6 เดือน และอย่างที่รู้กันค่ะว่าที่อังกฤษ อากาศค่อนข้างงง เรียกง่ายๆว่าอากาศแย่ เปลี่ยนไวยิ่งกว่าอารมณ์อีกค่ะ ตอนเช้าฝนตก ตอนบ่ายแดดออก ตอนเย็นหิมะตก เป็นอะไรที่พบเจอได้ที่อังกฤษนี่ล่ะค่า
นั่นล่ะคะด้วยความที่อากาศแปรปรวนขนาดนี้ เด็กไทยอย่างเราป่วยกันระนาวค่ะ ซึ่งน้องเอเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แรกๆน้องเอมีอาการเหมือนคนเป็นไข้ทั่วไป มีไอ เจ็บคอ พวกเราเองก็มโนกันไปว่าเป็นหวัด ก็เลยกินยาพวกแก้แพ้อากาศเข้าไปกันค่ะ (ยาก็นำมาจากไทยนั่นล่ะค่ะ อย่างที่รู้กันว่าซื้อยาที่นี่ต้องมีใบสั่งยาจากหมอเท่านั้น)
แต่แล้วผ่านมาหลายวัน น้องเอก็ไม่หาย แถมเริ่มกลืนน้ำลายแล้วเจ็บร้าวไปที่หู เลยทำให้ไม่ค่อยอยากกินอาหาร พวกเราเองเห็นท่าไม่ดีละ จึงบอกน้องว่าไปโรงพยาบาลเถอะ แต่การหาหมอที่อังกฤษไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ปกตินักเรียนอังกฤษจะลงทะเบียนกับ National Health Service (NHS) อยู่แล้ว ซึ่งนักเรียนที่เรียนในหลักสูตรที่มากกว่า 6 เดือนเท่านั้นจะได้รับประกัน NHS คุ้มครองเช่นเดียวกับผู้ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษทั่วๆไป แต่น้องเอเรียนหลักสูตร 6 เดือน จะได้รับการคุ้มครองเฉพาะกรณีฉุกเฉิน และจะไม่ครอบคลุมหากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลค่ะ
ซึ่งน้องเอกว่าจะนัดหมอได้ ต้องนัดล่วงหน้า 2 อาทิตย์!! ถ้าไม่ใช่เลือดตกยางออกแบบฉุกเฉินสุดๆยังไงก็ต้องรอค่ะ แต่ความพีคมันอยู่ตรงนี้! มีวันนึงก่อนถึงสัปดาห์ที่จะได้เจอหมอ น้องเอไข้ขึ้นสูงมากกแบบลุกไปไหนไม่ได้เลย และปวดเมื่อยตามตัว เดินก็เดินไม่ไหว ดื่มน้ำก็ไม่ได้ กินอะไรก็อ้วกตลอด และดูหายใจติดๆขัดๆ พวกเราเลยรีบพาน้องส่งโรงพยาบาลทันที
สุดท้ายเช็คร่างกายน้องไปมา ซึ่งเฟียร์ซเองไม่แน่ใจว่าน้องเช็คอะไรไปบ้างนะคะ ผลออกมาคือน้องเป็นต่อมทอนซิลอักเสบรุนแรงชนิดเป็นหนอง ซึ่งทอนซิลบวมสีแดงจัด มีจุดหนองสีขาวๆเหลืองๆติดอยู่บนทอนซิลด้วย ฟังจากหมอๆบอกว่า อาการที่น้องเป็นมาทุกอย่างมันบอกเลยว่าเป็นโรคนี้ ซึ่งติดเชื้อจากแบคทีเรีย เพิ่งรู้วันนี้ว่าทอนซิลอักเสบไม่ใช้เรื่องไกลตัว และเป็นเรื่องน่ากลัวมากๆ (ถ้าติดเชื้อแบคทีเรีย) เพราะเชื้ออาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆได้ เช่น จมูกอักเสบ ปอดอักเสบ กระดูกอักเสบเป็นหนอง ซึ่งบางรายถ้ารักษาไม่ถูกต้องและไม่ทันเวลา มีโอกาสเสี่ยงถึงชีวิตได้เลย!!!
น้องเอต้องนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวัน ซึ่งที่น่าตกใจคือ ค่ารักษาพยาบาลแพงมากกก!! คิดเป็นเงินไทยหลายแสน แพงกว่าค่าคอร์สที่น้องมาเรียนอีกค่ะ!! โอ๊ยย!! เห็นแล้วปวดใจจริงๆค่ะ อย่างน้อยน้องปลอดภัยก็ยังถือว่าเป็นโชคดีเรื่องนึงค่ะ
วิธีเลือก ประกันสุขภาพนักเรียนที่เรียนต่อต่างประเทศที่ดีควรเลือกแบบไหน
และทำไมต้องมี?
หลังจากเจอเคสน้องเอเข้าไป เฟียร์ซเองมองว่าเรื่องสุขภาพไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย โดยเฉพาะเมื่อเราอยู่ต่างแดน สื่อสารภาษาที่ไม่ใช่ภาษาเราเองก็ลำบาก การอธิบายว่าเราเป็นโรคอะไร อาการเป็นอย่างไร หรือฟังหมอต่างชาติพูดถึงอาการเราด้วยศัพท์เฉพาะทาง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ เฟียร์ซเลยลองไปหาข้อมูลดูค่ะ แล้วพบว่าจริงๆแล้ว มีประกันภัยการเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ สำหรับนักเรียน นักศึกษาคนไทย ซึ่งจะคุ้มครองทั้งเรื่อง เจ็บป่วย/อุบัติเหตุ ที่คาดไม่ถึง ทั้งนี้ยังคุ้มครองไปถึงการสูญเสียค่าเล่าเรียนด้วย!! และประกันสุขภาพแบบนี้นักศึกษาที่ไปเรียนคอร์สสั้นๆแค่ 6 เดือนก็สามารถซื้อได้ค่ะ รวมไปถึงเรียนต่อระยะยาวสูงสุด ถึง 2 ปี
สำหรับวิธีการเลือกนั้น เฟียร์ซว่าต้องดูรายละเอียดว่าครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลแค่ไหนค่ะ มีการอพยพฉุกเฉินทางการแพทย์ไหม? มีค่าเดินทางไปเยี่ยมของญาติสนิทในขณะที่คุณนอนป่วยหนักอยู่ไหม? มีศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ที่ให้บริการด้วยภาษาไทย เพื่อความสะดวกในการช่วยอธิบายอาการทางการแพทย์หรือเปล่า? นอกจากนี้ก็ต้องดูอีกว่า บริษัทที่เราซื้อประกันสุขภาพนี้มีความน่าเชื่อถือไหม มีชื่อเสียงในระดับโลกหรือเปล่า!?
เฟียร์ซขอแนะนำด้วยความหวังดีค่ะ ว่าการมีประกันภัยการเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศติดตัวไว้ตลอดเวลาที่อยู่เมืองนอก ดีกว่าแน่นอนค่ะ เพราะทุกคนมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะมาก จะน้อย หรืออาจเจออุบัติเหตุจากกิจวัตรประจำวันได้เสมอค่ะ
ตัวอย่าง ประกันภัยการเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ – AIG Travel Guard
จริงๆแล้วประกันภัยการเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศมีขายไม่กี่แบรนด์ในประเทศไทยนะคะ ที่เฟียร์ซนำมาฝากจะเป็นประกันภัยการเดินทาง Travel Guard ของ AIG ค่ะที่พิจารณาดูแล้วเรื่องการบริการและความคุ้มครองตามที่ยกตัวอย่างให้ข้างต้น ตอบโจทย์ครบทุกข้อ เรียกว่า คุ้มครองครอบคลุมจริงๆค่ะ เช่น ความคุ้มครองอุบัติเหตุและชดเชยค่ารักษาพยาบาล สูงสุดถึง 5,000,000 บาท*!! คุ้มครองการสูญเสียค่าเล่าเรียน สูงสุดถึง 300,000 บาท*!!
นอกจากนี้แล้วที่เฟียร์ซตื่นเต้นมากไปกว่านั้น เวลาที่เราไปเรียนต่อต่างประเทศเนี่ย เราไม่ได้แค่ไปเรียนแล้วกลับใช่ไหมคะ แต่เราจะไปเที่ยวต่างเมือง หรือเที่ยวประเทศรอบๆนั้นด้วย เรียกว่าไปต่างประเทศทั้งทีเอาให้คุ้มค่ะ ประกันภัยการเดินทาง Travel Guard ของ AIG คุ้มครองไปถึงสัมภาระที่สูญหาย รวมถึงความรับผิดส่วนบุคคลในต่างประเทศด้วยนะคะ และถ้าเลือกซื้อแผนความคุ้มครองตั้งแต่ 1ปีขึ้นไป เวลาที่เราบินกลับมาเยี่ยมบ้านก็ยังคุ้มครองไปถึงค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทย ระหว่างปิดภาคเรียน นานถึง 90 วัน ด้วยค่ะ!!!
รู้แบบนี้แล้ว ใครที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ว่าจะเรียนภาษาคอร์สสั้นๆ เรียนแฟชั่น เรียนทำอาหาร เรียนต่อปริญญาหรือไปทำวิจัยระยะยาว ก็ควรพกประกันภัยการเดินทาง Travel Guard ของ AIG ติดตัวไว้เลยนะคะ โทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ ..
Call Center 0 2649 1999 (วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 – 17.00 น)
*รายละเอียดความคุ้มครองเพิ่มเติม www.aig.co.th
เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อนๆ กับเรื่องที่เฟียร์ซนำมาฝากในวันนี้ บอกเลยว่า ใครมีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆจะไปเรียนต่อเร็วๆนี้ละก็ อย่าลืมเช็คกันให้ดีนะคะ ว่ามีประกันภัยการเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศแล้วหรือยัง เฟียร์ซเชื่อค่ะว่า ไม่มีใครอยากเสียเงินจ่ายค่าประกันหรอก เพราะบางทีเราซื้อไปแล้วไม่ได้ใช้ก็เสียดายเงินเนอะ แต่ถ้าได้ใช้ขึ้นมาละก็ บอกเลยว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่ะ!! เริ่มต้นจ่ายแค่หลักพัน คุ้มครองสูงสุดหลักล้าน* เชียวนะคะ
• ข้อความนี้มิใช่สัญญาประกันภัย และไม่ถือเป็นสัญญาประกันภัย
• ความคุ้มครองและผลประโยชน์ที่บุคคลผู้เอาประกันภัยจะได้รับขึ้นอยู่กับข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้น
ที่ระบุไว้ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัย และแผนความคุ้มครองที่ได้เลือกซื้อไว้ (หากมี)
คำแนะนำ: ควรศึกษาและทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อประกันภัยทุกครั้ง