ใกล้ปลายปีแล้ว เฟียร์ซเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนมีแพลนไปเที่ยว รับลมหนาวแน่นอน!! ก็แหม!! ช่วงปลายปีมีทั้งคริสต์มาส ปีใหม่ เทศกาลแห่งความอบอุ่น ความสุขทั้งที จริงไหมคะ!? วันนี้เฟียร์ซเลยจัดรีวิวเปรียบเทียบประกันภัยการเดินทางมาให้ค่ะ ไว้ให้เป็นไอเดีย เป็นข้อมูล เผื่อเพื่อนๆที่สนใจจะได้สะดวกในการเลือกซื้อประกันภัยการเดินทางมากขึ้นค่ะ  

Cr. pic: www.bigstockphoto.com

ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ จำเป็นไหม?

มีคนถามมาค่อนข้างบ่อยเลยค่ะ ว่าเวลาไปต่างประเทศจำเป็นต้องซื้อประกันภัยการเดินทางไหม? บอกตามตรงเมื่อปีก่อนเฟียร์ซก็ไม่ได้สนใจซื้อเลยค่ะ คิดว่าไม่เห็นจำเป็นเลย แต่ด้วยประสบการณ์จาก คนใกล้ตัว คนรู้จักไปประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย ที่ต่างประเทศ เจอค่าใช้จ่ายแพงมากๆๆๆ อีกทั้งเพื่อนบางคนยังเจอกระเป๋าหาย เครื่องบินดีเลย์ ทำให้เกิดความเสียหายในทรัพย์สิน อารมณ์แบบเที่ยวก็ไม่ได้เที่ยว เสียทั้งเงิน ทั้งเวลา แถมยังเจ็บใจอีก!! ตั้งแต่นั้นมา เฟียร์ซเลยซื้อประกันภัยการเดินทางมาตลอดเลยค่ะ เพราะคิดเสมอว่า  "มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าเวลาจะใช้แล้วไม่มี"

Cr. pic: www.bigstockphoto.com

รีวิวประกันเดินทางต่างประเทศแต่ละบริษัท

บริษัทที่เลือกมารีวิวในครั้งนี้ มีทั้งหมด 4 บริษัทค่ะ โดยเลือกจาก

1. บริษัทที่ชื่อคุ้นเคย มีคนใช้จริง

2. สามารถซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ได้

3. เลือกราคาปานกลาง ของแต่ละบริษัท (300 - 1,000 บาท)

รายละเอียดข้อมูลประกันภัยการเดินทางแต่ละบริษัท

1. เลือกเส้นทางประเทศญี่ปุ่น โดยเลือกเป็น 2 ช่วงเวลา แบบ 5 วัน และ 10 วัน (จำนวนวันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เบี้ยประกันจะเปลี่ยนตามค่ะ)

2. ราคาเป็นราคาต่อ 1 คน แบบรายเที่ยว

3. หัวข้อความคุ้มครองเลือกมาเปรียบเทียบเพียงบางส่วน (ดูจากเคสที่มักจะเจอบ่อย) 

 **เงื่อนไขและราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนนะคะ ประกันถึงแม้จะมีหัวข้อเดียวกันแต่รายละเอียดอาจต่างกัน กรุณาศึกษารายละเอียดในกรมธรรม์ก่อนอีกครั้งค่ะ เพราะบางที่เป็นประกันที่ผู้ซื้อต้องจ่ายเบื้องต้น 1,000-3,000 บาทต่อรายการเคลม ส่วนที่เกินถึงจะเคลมได้ หรือบางอันเป็นประกันแบบให้เราสำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อนแล้วเอามาเคลมทีหลัง หรือเรื่องเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกัน เช่นเรื่องกระเป๋าหาย หรือเครื่องบินดีเลย์ แต่ละที่จะนับชม.ไม่เท่ากัน บางที่ 6 ชม.ก็เคลมได้ บางที่ต้อง 8 ชม.ถึงจะเคลมได้ค่ะ

Cr. pic: www.bigstockphoto.com

Table 1 : เบี้ยประกัน 300 ขึ้นไป (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2559)

Table 2 : เบี้ยประกัน 500 ขึ้นไป (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2559)

เป็นไงคะ ดูตารางแล้วแอบงงไหมคะ!? ตอนแรกเฟียร์ซก็งงเหมือนกันค่ะ ที่สำคัญคือเราสำรวจตัวเราเองก่อนนะคะ ว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวประเภทไหน การไปเที่ยวของเรามีทำอะไรที่เสี่ยงไหม เราถึงจะได้รู้ว่าเราควรซื้อประกันตัวไหน และของบริษัทไหนค่ะ ส่วนตัวเฟียร์ซแนะนำว่าเพื่อนๆที่ชอบเที่ยวแนว Backpack กระเป๋าใบเดียว ลุยได้ทุกที่ แนะนำ Axa-Silver และ Cigna ค่ะ เนื่องจากราคามิตรภาพ เหมาะกับคนที่ไม่ได้ห่วงเรื่องกระเป๋าเดินทางมากนัก แต่ห่วงเรื่องอุบัติเหตุมากกว่า อาจจะคุ้มครองไม่ครอบคลุมเท่าไหร่แต่ราคาถูกตอบโจทย์ค่ะ

Cr. pic: www.bigstockphoto.com

ส่วนถ้าเพื่อนๆคนไหน ไปเที่ยวกันหลายคน เป็นครอบครัว เป็นทัวร์ และต้องการความคุ้มครองแบบครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเคลื่อนย้ายฉุกเฉิน ส่งตัวกลับไทย เลื่อนไฟล์ท กระเป๋าหาย / มาช้าหรือเสียหาย เอกสารการเดินทางสูญหาย เฟียร์ซแนะนำ AIG Travel Guard Plan B, MSIG Easy 2 และ Cigna + Option B&C ค่ะ 

Cr. pic: www.bigstockphoto.com

และถ้าใครอยากได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมแบบครบทุกอย่าง (เพื่อความสบายใจ) เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย แนะนำ AIG Travel Guard ค่ะ  ซึ่งปกติแล้ว เงินที่จ่ายสำหรับค่าประกัน ยังไม่ถึง 5% ของค่าเที่ยวทั้งทริปเลยค่ะ ล่าสุดเฟียร์ซแจ๊คพอตมีโอกาสได้เคลม AIG Travel Guard (ก็ดีใจนะคะที่ได้เคลม แต่เลือกได้ขอไปเที่ยวแบบไม่มีอะไรดีกว่า) ตอนนั้นไปเที่ยวปารีส ประเทศฝรั่งเศส แล้วดันกินหอยทาก escargot เข้าไป แล้วท้องเสีย ~~ ปวดท้องหนักมาก ต้องแอดมิดเข้าโรงพยาบาล 1 คืน เพราะความอยากลองกินอาหารบ้านเค้า ก็แหมมม!!! ไปถึงที่แล้ว ถ้าไม่ได้กินเดี๋ยวจะหาว่าไปไม่ถึง โดนค่าเสียหายไปหลายหมื่นบาท แต่เคลมได้เลยโชคดีไปค่ะ ซึ่งการเคลมไม่ได้ยากหรือซับซ้อนอย่างที่คิดเลยนะคะ เราสามารถเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอะไรก็ได้ อันนี้สะดวกมากๆนะคะ ตอนป่วยอยู่เนี่ย เราก็อยากเข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุดถูกไหมคะ? จากนั้นก็ออกเงินไปก่อน เก็บเอกสารการรักษามาให้ครบ แล้วนำกลับมาเบิกเคลมภายหลัง เอกสารที่ใช้ก็มีแค่บิลค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ ใบรับรองจากแพทย์ แล้วส่งเอกสารตัวจริงทางไปรษณีย์ให้บริษัทค่ะ ซึ่งพนักงานก็โทรมาสอบถาม ช่วยจัดการให้จนจบเรื่อง ก็ได้ใจกันไปค่ะ 

Cr. pic: www.bigstockphoto.com

อีกส่วนที่เฟียร์ซพิจารณาก่อนซื้อประกันภัยการเดินทาง นอกเหนือจากเรื่องอุบัติเหตุเกี่ยวกับตัวเราแล้ว คือเรื่องความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก ซึ่งหมายความว่า ถ้าเราเกิดไปพลาด ซุ่มซ่าม ทำอะไรเสียหายโดยไม่ตั้งใจ หรือเราเป็นต้นเหตุของการทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือต้นเหตุทำให้คนอื่นเกิดความเสียหาย เช่น ถ้าเฟียร์ซไปเดินเล่นแถวๆ Champs Elysees ที่ปารีส  แล้วกำลังเลือกๆกระเป๋าอยู่ ดันทำกระเป๋าราคาแพงหล่นเป็นรอย เสียหาย ประกันภัยการเดินทางก็จะคุ้มครองเราในส่วนนี้ด้วยนะคะ ซึ่งตรงนี้เป็นอะไรที่ Amazing มากค่ะ เรื่องแบบนี้ก็คุ้มครองด้วย!! จากทั้งหมดที่เล่ามานี้ ยิ่งรู้สึกว่าประกันภัยการเดินทางไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยค่ะ มีโอกาสเกิดขึ้นกับใครก็ได้เลยนะคะ เพราะแค่เราไปหยิบ จับ หรือกินอาหารต่างๆที่ไม่คุ้นเคย อยู่ในสถานที่ๆเราไม่คุ้นเคย มีประกันภัยการเดินทางไว้อุ่นใจกว่าแน่นอนค่ะ ซึ่งตัวที่แนะนำ คือ AIG Travel Guard เพราะจะคุ้มครองทุกเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดข้างต้นเลยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นประกันภัยการเดินทางที่ไม่ได้คุ้มครองแค่เรื่องอุบัติเหตุ เจ็บป่วย เสียชีวิต นะคะ แต่ยังคุ้มครองครอบคลุมไปถึงเรื่อง LIFESTYLE ที่เหมาะมากๆกับนักท่องเที่ยวแบบเราๆ ที่เป็นทั้ง นักชิม นักช็อป ด้วยค่ะ ราคาอาจจะแพงขึ้นนิดหน่อยค่ะ แต่คุ้มครองแบบครบจริงๆ
  

Cr. pic: www.bigstockphoto.com

สุดท้ายนี้เพื่อนๆคนไหนจะไปเที่ยวต่างประเทศ อย่าลืมซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศนะคะ จะได้ผ่อนหนักเป็นเบา ทั้งเรื่องรักษาพยาบาล และเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญอย่าลืมอ่านรายละเอียดความคุ้มครองก่อนซื้อประกันให้ดีก่อนทุกครั้ง ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจให้โทรไปปรึกษากับทางบริษัทประกันก่อนเลยค่ะ และอย่าลืมปริ้นเอกสารประกันและเบอร์ติดต่อประกันติดตัวไปด้วยเผื่อในกรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้นนะคะ สุดท้ายนี้เฟียร์ซขอให้เพื่อนๆเที่ยวสนุก หมดกังวล สบายหายห่วง เดินทางปลอดภัยนะคะ  ~ ~ Happy Holiday ค่าาา 

Cr. pic: www.bigstockphoto.com

**ความคุ้มครองและผลประโยชน์ที่บุคคลผู้เอาประกันภัยจะได้รับขึ้นอยู่กับคำจำกัดความ เงื่อนไข และข้อยกเว้นที่ระบุไว้ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยและแผนความคุ้มครองที่ได้เลือกซื้อไว้
- คำแนะนำ : ควรศึกษาและทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไข ก่อนการตัดสินใจซื้อประกันภัยทุกครั้ง