กรุงเทพมหานคร ถือว่าเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากมาย ที่พร้อมจะให้ทุกคนได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ และเยี่ยมชมความสวยงาม โดยเฉพาะพระราชวังต่างๆที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งอดีต แต่ยังคงความงดงาม และทรงคุณค่ามาจนถึงปัจจุบัน และวันนี้เฟียร์ซขอเสนอ 8 พระราชวังที่ควรค่าเป็นอย่างมาก ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปเยี่ยมชม ซึ่งแต่ละพระราชวังจะมีความสวยงาม และเรื่องราวที่แตกต่างกันอย่างไร ไปติดตามพร้อมๆกับเฟียร์ซเลยค่ะ ^^
1. พระตำหนักสวนจิตรลดารโหฐาน
Photo Credit : Youtube
สำหรับสถานที่นี้เฟียร์ซอยากให้คนไทยทุกคนได้เข้ามาสัมผัส และเยี่ยมชมสักครั้ง เพราะที่นี่ไม่เหมือนกับพระราชวังไหนๆ ไม่มีความวิจิตรงดงามใดๆ มีแต่ความรู้ที่พร้อมจะให้คนไทยได้เข้าไปศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ ซึ่งบ้านของพ่อหลวงหลังนี้ เต็มไปด้วยศูนย์วิจัยต่างๆ และเป็นสถานที่ที่เกิดโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริของพระองค์
Photo Credit : Youtube
Photo Credit : Youtube
แปลงข้าวสาธิต
Photo Credit : Youtube
และภายในพระราชวังแห่งนี้ยังมีอีกหลากหลายการทดลอง หลากหลายการวิจัย และหลากหลายโครงการต่างๆที่พ่อหลวงทรงพระราชทานให้กับคนไทย ซึ่งหากใครสนใจเข้าไปศึกษา และเยี่ยมชมพระตำหนักจิตรลดารโหฐานแห่งนี้ จะต้องทำการติดต่อล่วงหน้ามาอย่างน้อย 3 เดือน จากนั้นก็ต้องทำหนังสือขออนุญาตมาที่ นายแก้วขวัญ วัชโรทัย ผู้อำนวยการโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เพื่อมีหนังสือตอบกลับไป และสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ... แล้วมาเที่ยวบ้านของพ่อกันเยอะๆนะคะ
VENUE : ถนน ราชวิถี สวนจิตรลดา เขต ดุสิต กรุงเทพฯ 10303
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2282-8200
2. วังสระปทุม
Photo Credit : Youtube
นับเป็นอีกหนึ่งพระราชวังที่ค่อนข้างคุ้นหูกันเป็นอย่างดี แต่หลายคนก็ยังไม่มีโอกาสที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมความสวยงาม โดยวังสระปทุมแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6โดยแต่เดิมเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี หรือ พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระภรรยาเจ้าในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ห้องบรรทมของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
Photo Credit : Youtube
เฉลียงพระตำหนักใหญ่ชั้นบน มุมทรงโปรดของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
Photo Credit : Youtube
ซึ่งในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดเกล้าฯ พระราชทานวังสระปทุมให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และได้ปรับปรุงพระตำหนักภายในสร้างเป็น "พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสสาอัยยิกาเจ้า"
หอนิทรรศการ จัดแสดงพระราชประวัติสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
Photo Credit : Youtube
ซึ่งปกติจะเปิดให้เข้าชมในวันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.00 - 16.00 น. ช่วงวันที่ 15 ต.ค. - 15 ธ.ค. ของทุกปี ผู้สนใจต้องนัดหมายล่วงหน้าที่เบอร์ 02-252-1965-7 ก่อนเข้าชม ค่าเข้าชม 150 บาท ถ้าเป็นนักเรียน-นักศึกษา 50 บาทค่ะ
VENUE : 195 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
เบอร์โทรศัพท์ : 02-252-1965-7
3. วังพญาไท
Photo Credit : PhyathaiPalace
สำหรับพระราชวังพญาไท จัดเป็นพระราชวังยุคหลังๆที่ได้รับการบูรณะให้กลับมางดงามอีกครั้ง โดยพระราชวังแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น และพระราชทานนามให้ว่า"พระตำหนักพญาไท หรือวังพญาไท" ซึ่งต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้รับการสถาปนาเป็นพระราชวังพญาไท ซึ่งพระองค์ก็ได้ทรงประทับที่พระราชวังนี้ตลอดรัชสมัย
Photo Credit : Youtube
พระที่นั่งเทวราชสภารมย์
Photo Credit : PhyathaiPalace
ศาลท้าวหิรัญพนาสูร
Photo Credit : PhyathaiPalace
ซึ่งภายในพระราชวังพญาไท ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งพระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน, พระที่นั่งพิมานจักรี, พระที่นั่งศรีสุทธาวาส พระที่นั่งอุดมวนาภรณ์ พระตำหนักเมขลารูจี และยังมีสวนโรมัน อีกหนึ่งจุดที่สวยงามไม่แพ้ใคร โดยพระราชวังพญาไทจะเปิดให้เข้าชมวันอังคาร และวันพฤหัสบดี เวลา 13:00 น. วันเสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 09.30 และ 13.30 น. ซึ่งจะไม่เสียค่าเข้าชมใดๆทั้งสิ้นค่ะ
VENUE : ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2354-7660, 0-2354-7600-28 ต่อ 93646, 93694
4. วังบางขุนพรหม
Photo Credit : Youtube
พระราชวังแห่งนี้งดงามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ที่เชื่อว่าใครที่ได้ไปเห็นก็อดที่จะชื่นชมไม่ได้ โดยพระราชวังแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น เพื่อใช้เป็นวังที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ุ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระราชโอรส ซึ่งในปัจจุบันอยู่ในความดูแลของธนาคารแห่งชาติ และได้มีการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์เงินตรา เพื่อจัดแสดงวิวัฒนาการเงินตราของประเทศไทย
ห้องสีชมพู ท้องพระโรงที่งดงามที่สุด
Photo Credit : Youtube
Photo Credit : Youtube
พิพิธภัณฑ์เงินตรา แห่งประเทศไทย
Photo Credit : Youtube
และการเข้าชมวังบางขุนพรหม หรือพิพิธภัณฑ์เงินตราแห่งนี้สามารถเข้าชมได้ในวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. ยกเว้นวันหยุดธนาคาร โดยวันจันทร์-วันอังคาร เปิดให้เข้าชมเป็นรายบุคคล (ไม่ต้องติดต่อล่วงหน้า) ส่วนวันพุธ-วันศุกร์ สำรองไว้สำหรับการขอเข้าชมเป็นหมู่คณะเท่านั้นค่ะ
VENUE: พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยธนาคารแห่งประเทศไทย 273 ถนนสามเสน เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2283-5286, 0-2283-6723, 0-2283-6152, 0-2356-7702 และ 0-2283-5265
5. วังสวนผักกาด
Photo Credit : Youtube
สำหรับวังที่มีชื่อแปลกหูแบบนี้ จัดเป็นอีกหนึ่งวังแห่งประวัติศาสตร์ที่ควรมาเยี่ยมชมดูสักครั้ง โดยแต่เดิมเป็นที่ประทับของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฎพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิต และ ม.ร.ว.หญิง พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ซึ่งชื่อวังนั้น ตั้งตามพื้นที่เดิมที่แต่ก่อนเคยเป็นสวนผักกาดของชาวสวน โดยปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของสะสมส่วนตัวของราชกุลบริพัตร ภายในหมู่เรือนไทยโบราณ 8 หลัง ซึ่งแต่ละเรือนมีอายุกว่าร้อยปี
Photo Credit : Youtube
Photo Credit : Youtube
Photo Credit : Youtube
โดยวังสวนผักกาดจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00 - 16.00 น. ซึ่งงจะคิดค่าบริการดังนี้ คนไทย 50 บาท นักเรียน/นักศึกษา 20 บาท และชาวต่างชาติ 100 บาทค่ะ
VENUE : พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด 352-354 วังสวนผักกาด ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
เบอร์โทรศัพท์ : 02-246-1775 , 02-2454934
6. วังวรดิศ
Photo Credit : Youtube
วังวรดิศแห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ที่ยูเนสโกให้การยกย่อง และนับเป็นวังที่มีความร่มรื่นมากๆเลยล่ะค่ะ ... ซึ่งแต่เดิมนั้นเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์และโบราณคดี และพระบิดาแห่งกระทรวงมหาดไทย โดยวังแห่งนี้อยู่คู่กับคนไทยมาถึง 5 แผ่นดินแล้ว จนมาถึงปัจจุบันได้ปรับปรุงมาเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนบุคคล โดยทายาทผู้สืบตระกูล
ห้องพระบรมอัฐิ
Photo Credit : prince-damrong
ห้องจีน
Photo Credit : prince-damrong
ห้อง Study
Photo Credit : prince-damrong
พิพิธภัณฑ์วังวรดิศเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมทุกวัน ภายในเวลาราชการ โดยไม่มีการเก็บค่าชมใดๆ ตามประสงค์ของพล.ต.ม.ร.ว.สังขดิศ ดิศกุล ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ แต่จำเป็นต้องทำหนังสือแจ้งเจ้าของวังทุกครั้ง และควรเข้าชมเป็นหมู่คณะจำนวน 30-40 คน เพื่อความเหมาะสมในการเปิดวังวรดิศให้พร้อมเข้าชมค่ะ
VENUE : 204 ถนน หลานหลวง แขวง คลองมหานาค เขต ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10200
เบอร์โทรศัพท์ : 081-459-8840
7. พระที่นั่งวิมานเมฆ
Photo Credit : Youtube
พระที่นั่งวิมานเมฆแห่งนี้เป็นพระที่นั่งที่สร้างด้วยไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก และก็สวยที่สุดในโลกด้วยค่ะ ... พระที่นั่งแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเป็นพระที่นั่งถาวรองค์แรกในพระราชวังดุสิต ซึ่งภายในพระที่นั่งแห่งนี้มีห้องน้อยใหญ่ถึง 81 ห้อง แต่ละห้องก็จะจัดแสดงศิลปะแตกต่างกันไป และในปัจจุบันพระที่นั่งวิมาณเมฆก็ได้ถูกบูรณะ เพื่อสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
Photo Credit : Youtube
Photo Credit : Youtube
Photo Credit : Youtube
แต่เป็นที่น่าเสียดายมากๆ เพราะตอนนี้ทางพระที่นั่งวิมานเมฆได้ปิดการเข้าชม เพื่อดำเนินการซ่อมแซม และยังไม่มีกำหนดการในการเปิดเข้าชมค่ะ
VENUE : 16 ถนน ราชวิถี เขต ดุสิต
เบอร์โทรศัพท์ : 02-281-5454
8. วังลดาวัลย์
Photo Credit : crownproperty
ปิดท้ายด้วยพระราชวังที่งดงามไม่แพ้ที่ไหนๆ และเป็นพระราชวังที่มีอายุยาวนานกว่าร้อยปี ซึ่งวังลดาวัลย์แห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น เพื่อเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศร์ (ต้นราชสกุลยุคล) โดยพระราชทานนาม “วังลดาวัลย์” ตามพระนามเดิมของกรมหมื่นภูมินทรภักดี (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลดาวัลย์) ผู้เป็นเสด็จตาของสมเด็จ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพรฯ
Photo Credit : wikipedia
ในปัจจุบันอยู่ในความดูแลสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ได้ติดต่อซื้อจากพระทายาท เพื่อเป็นมรดกของชาติไทยสืบไป ส่วนการเข้าชมวังลดาวัลย์นั้นแนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเค้าจะจัดเจ้าหน้าที่มาเป็นไกด์คอยบอกเล่าเรื่องราว และทางวังจะไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่สามารถถ่ายรูปภายนอกวังได้ค่ะ
VENUE : 173 ถนนนครราชสีมา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2787-7000
และทั้งหมดนี้ก็คือ 8 พระราชวังอันทรงคุณค่าที่ลูกหลานคนไทยอย่างเราทุกควรอย่างยิ่งที่ครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้เข้าไปศึกษา และซึมซับประวัติศาสตร์อันสวยงามเช่นนี้ ซึ่งแต่ละพระราชวังก็อยู่ในกรุงเทพฯนี่เอง เพราะงั้นเฟียร์ซว่าลองเปลี่ยนจากเดินห้าง ช้อปปิ้ง มาเป็นเที่ยวชมประวัติศาสตร์ ย้อนอดีตไปกับพระราชวังต่างๆ บ้างก็ดูน่าสนุกไม่แพ้กันเลย ว่ามั้ยคะ ^^