สาวๆหลายคนมีปัญหาข้อศอกดำด้านไม่สวยงาม นั่นเป็นเพราะข้อศอกถูกเสียดสีมากเกินไป ทำให้หนังกำพร้าแห้ง ดำ และสาก คล้ายกับกระดาษทราย เพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยงจนไม่มีความชุ่มชื่น หากปล่อยไว้นานอาจะทำให้ข้อศอกดำถาวรแบบกู่ไม่กลับ เพราะฉะนั้นควรจะรีบรักษาก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ ด้วย 10 วิธีที่เฟียร์ซนำมาเสนอวันนี้ รับรองว่าถูกใจสาวๆแน่นอน จะมีวิธีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
1. สครับด้วยมะนาวควบคู่กับมะขามเปียก
(Photo credit : Shutterstock.com)
หันเข้าครัวแล้วลองหยิบมะนาวมาสักครึ่งลูก ผสมกับน้ำมะขามให้พอเนื้อข้นๆนำมาถูบริเวณผิวข้อศอกอย่างเบามือ จากนั้นปล่อยทิ้งไว้สัก 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า สองตัวนี้จะมี AHA ที่ช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และจะเผยผิวที่ขาวเนียนกระจ่างใสมากขึ้น สาวๆสามารถทำได้มากเท่าที่ต้องการเลยนะคะ นอกจากนั้นยังช่วยลดความหยาบกร้านของผิวหนังตรงข้อศอกได้ค่ะ
2. ใช้เกลือขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
(Photo credit : Bigstock.com)
ของใช้ใกล้ตัวอย่างเกลือก็สามารถนำมาผสมเข้ากับเบบี้ออยล์ คนให้เข้ากันและนำมาขัดเบาๆบริเวณข้อศอก หลังจากนั้นเราก็ต้องพักทิ้งไว้สัก 10-15 นาที แล้วตามด้วยการล้างน้ำสะอาด พร้อมกับบำรุงด้วยการทาโลชั่นอีกที วิธีนี้สาวๆสามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการเพราะว่าเกลือจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสียไป และเบบบี้ออยล์จะบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นขึ้นอีกด้วย
3. ขัดด้วยน้ำตาลทรายแดง
(Photo credit : Bigstock.com)
นำน้ำผึ้งมาผสมกับน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย คนให้เข้ากันแบบพอดีๆ แต่ไม่ต้องให้น้ำตาลละลายมากนะคะ แล้วนำมาขัดเบาๆบริเวณผิวหนังที่ด้าน ไม่ว่าจะเป็นข้อศอกหรือหัวเข่าก็ได้หมด ทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วล่างออกจนสะอาด สามารถทำได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แล้วจะทำให้ผิวเรากลับมาเนียนนุ่มกระจ่างใสอีกครั้ง
4. ถูด้วยน้ำส้มสายชู
(Photo credit : Bigstock.com)
หรือสาวๆคนไหนที่กังวลเรื่องการขัดจะทำให้แสบผิวหนัง ก็มีวิธีอื่นอีกค่ะ นำน้ำส้มสายชูผสมกับโยเกิร์ตให้เท่าๆกัน จากนั้นนำมาขัดเบาที่บริเวณข้อศอกแล้วทิ้งไว้สัก 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ตามด้วยโลชั่นบำรุงผิว กรดของน้ำส้มสายชูจะช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และโยเกิร์ตจะทำหน้าที่บำรุงข้อศอกให้ขาวใสมากยิ่งขึ้นค่ะ
5. บำรุงด้วยน้ำมันมะพร้าว
(Photo credit : Bigstock.com)
ใครที่มองหาครีมหรืออะไรที่มีส่วนผสมของวิตามินอีเพื่อช่วยลดความดำของผิวหนังบริเวณนั้นๆ และทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นมาได้บ้าง ขอแนะนำนี่เลยค่ะ น้ำมันมะพร้าวนำมานวดบริเวณข้อศอกเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ป้องกันไม่ให้ข้อศอกดำ และที่สำคัญน้ำมันมะพร้าวยังราคาไม่สูงอีกด้วย ประหยัดสุดๆ ของไม่แพงไม่ต้องลงทุน
6. ทาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื่น
(Photo credit : Bigstock.com)
อย่างไรก็ตาม กิจวัตรประจำวันของสาวๆที่ไม่ควรละเลยนั้นก็คือทาโลชั่นบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ ทุกวันตอนเช้า และตอนเย็น หลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ก็จะช่วยให้ผิวหนังของเราทุกส่วน รวมทั้งบริเวณที่แห้ง และด่างดำชุ่มชื่นขึ้นอีกด้วย ลืมไม่ได้เลย ก่อนที่เราจะออกไปข้างนอกพบเจอแสงแดด ก็ควรทาครีมกันแดด เพราะผิวตรงส่วนข้อศอกจะไวต่อแสงแดดเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นระวังกันด้วยนะคะสาวๆ
7. พยายามไม่ให้เกิดการเสียดสี
(Photo credit : www.pinterest.com)
ถึงแม้ว่าจะบำรุงดีเท่าไหร่ แต่ถ้าเรายังกดทับข้อศอกแรงๆ หรือนำไปเสียดสีบ่อยๆ ก็จะทำให้ข้อศอกดำได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งเท้าข้อศอกหรือท่าอะไรก็ตามที่ลงน้ำหนักไปที่ข้อศอกก็จะเกิดอาการดำได้อีก เพราะฉะนั้นทางแก้ง่ายๆเลยนะคะ ควรหาอะไรนุ่มๆ เช่นหมอนหรือเบาะบางๆ มารองเอาไว้ก็จะช่วยได้อีกทางค่ะ
8. ใช้เปลือกมะนาวถู
(Photo credit : Bigstock.com)
เปลือกมะนาวใครว่าไม่มีประโยชน์ หลังจากที่เราใช้น้ำมะนาวไปจนหมดแล้ว ให้นำเอาเปลือกมาถูวนเบาๆแถวบริเวณข้อศอก แล้วตามด้วยการขัดด้วยเกลือ หรือน้ำตาล หลังจากนั้นก็ล้างน้ำให้สะอาด ผิวของเราก็จะดูสว่างขึ้น แถมยังเป็นการใช้มะนาวได้อย่างคุ้มค่า และประหยัดสุดๆ สาวๆคนไหนสนใจก็อย่าลืมนำไปทำตามนะคะ
9. ใช้ Bio-oil
(Photo credit : www.watsons.co.th)
ชื่อเสียงเขามาดีจริงๆ แต่ตัวนี้ไม่ได้ดีแค่ชื่อนะคะ เพียงใช้ทาเบาๆที่ผิวหนังจากแห้งกร้านเป็นขุย รอยแผลเป็น หรือบางคนถึงกับนำมาทาที่รอยแผลเป็นจากสิว ก็ช่วยลดรอยดำออกไปได้ค่ะ แล้วยังทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นอีกต่างหาก กลิ่นหอมอ่อนๆก็ยังช่วยให้สาวๆผ่อนคลายด้วยค่ะ
10. ป้องกันด้วยวาสลีน
สำหรับบางคนที่ชอบเผลอตัวบ่อยๆ ชอบนำข้อศอกไปเสียดสีกับอะไรอยู่เรื่อยๆ หรือว่ามีเหตุจำเป็นจริงๆแล้วหาอะไรมารองไม่ได้ ก็มีทางป้องกันด้วยการทาวาสลีนเคลือบผิวเราไว้ก่อนเลยค่ะ ทาบ่อยๆได้ตามต้องการแล้วจะทำให้ผิวตรงส่วนนั้นเนียนนุ่มสุดๆไปเลยค่า
รู้เคล็ดลับดีๆแบบนี้แล้วก็ถึงเวลาเอาไปใช้กับข้อศอกให้กลับมาขาวเนียนอีกครั้งนะคะ ผู้หญิงคิดจะสวยก็ต้องสวยทั้งตัว ถึงบางคนอาจคิดว่าจุดเล็กๆอย่างศอกใครจะสนใจ แต่จุดเล็กพวกนี้แหละค่ะที่แสดงถึงความใส่ใจของตัวเอง จะสวยทั้งทีก็ต้องสวยตั้งแต่ตัวจรดเท้า เพราะฉะนั้นลุยกันเลยค่า