สกินแคร์บำรุงผิวเดี๋ยวนี้มีให้เลือกเยอะ แต่ละแบรนด์ก็จะเฟ้นหาส่วนผสมที่แตกต่างออกไปไม่ให้เหมือนแบรนด์อื่น ยิ่งส่วนผสมหายากเท่าไรก็ยิ่งมีความเลอค่าน่าเป็นเจ้าของมากเท่านั้น สารสกัดที่ถูกนำมาใส่ในสกินแคร์ส่วนใหญ่ก็จะมากจากพืชที่หายาก มีน้อย และพิถีพิถันในการเก็บเกี่ยว กว่าจะมาเป็นสกินแคร์ให้สาวๆ ได้ใช้แต่ละหยด บอกเลยว่าใช้เวลาหลายปี จะมีสกินแคร์ตัวไหนใช้คุณค่าจากพืชหายากบ้างไปดูกันเลยค่ะ
1. Chanel - Vanilla Planifolia
Vanilla Planifolia กล้วยไม้ป่าสกุลวานิลลาที่ Chanel ค้นพบ และนำมาปลูกอย่างพิถีพิถันแบบออร์แกนิค ต้องเก็บด้วยมือและส่งถึงปารีสภายใน 24 ชม. เป็นส่วนผสมหลักในไลน์ Sublimage ที่ช่วยให้ผิวผลัดเซลล์ใหม่ เร่งฟื้นฟูผิวให้กลับมาสวยสดใส และทนทานต่อความเครียดจากสภาพแวดล้อม เป็นส่วนผสมล้ำค่ามากค่ะ
Chanel Sublimage L'Extrait De Creme (ราคา 19,500 บาท, www.central.co.th)
2. Armani - Roseroot
Roseroot หรือ Rhodiola rosea ถูกใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคมาตั้งแต่สมัยโบราณ ขึ้นอยู่ตามผาหินบนเกาะและบนภูเขาสูง มีคุณสมบัติในการสร้างสมดุลผิว ให้ผิวชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึก แก้ปัญหาผิวที่ดูเหนื่อยล้าให้กลับมาสดใสและมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง รวมทั้งต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยค่ะ
Image source : ru.wikipedia.org
Giorgio Armani Prima Lotion (ราคา 2,450 บาท, www.central.co.th)
3. L’Occitane - Immortelle
Immortelle ดอกไม้สีเหลืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอ่อนเยาว์ เป็นดอกไม้ที่ทาง L’Occitane ตั้งใจเพาะปลูกแบบออร์แกนิค เพื่อนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหย และบรรจุอยู่ในไลน์ Immortelle Precious มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นให้ผิวสร้างเซลล์ใหม่ตามธรรมชาติ ทำให้ผิวสวยเปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอค่ะ
L’Occitane Immortelle Precious Enriched Water (ราคา 1,300 บาท, th.loccitane.com)
L’Occitane Immortelle Precious Serum (ราคา 2,850 บาท, th.loccitane.com)
L’Occitane Immortelle Precious Cream (ราคา 2,750 บาท, th.loccitane.com)
4. Neal's Yard Remedies - Frankincense
Frankincense คือยางไม้มหัศจรรย์ที่ไหลออกมาจากต้นไม้สกุล Boswellia แล้วแข็งตัวเป็นก้อน ในสมัยโบราณ Frankincense เป็นยารักษาโรคมากมาย และใช้จุดเพื่อให้กลิ่นที่ผ่อนคลาย เป็นการบำบัดด้วยกลิ่น ปัจจุบัน Frankincense ถูกนำมาใช้ทั้งในสกินแคร์และน้ำหอม ช่วยในการลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียน อ่อนเยาว์ และยกกระชับ ผิวที่แห้งขาดน้ำก็กลับมาสดใสฉ่ำน้ำได้ กลิ่นยังดีงาม ให้ความผ่อนคลายแก่จิตใจอีกด้วยค่ะ
Neal's Yard Remedies Rejuvenating Frankincense Facial Serum (ราคา 3,350 บาท, www.nealsyardremedies.co.th)
5. Sulwhasoo - Ginseng
Ginseng หรือโสมคือจุดเริ่มต้นของ Sulwhasoo โสมเป็นพืชสมุนไพรล้ำค่าที่มีชื่อเสียงของเกาหลี ขึ้นชื่อในเรื่องการบำรุงให้ผิวสดใสเปล่งปลั่ง ผิวโกลวฉ่ำน้ำจากภายใน พร้อมทั้งต่อต้านริ้วรอย ฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้งเสียให้กลับมาชุ่มชื้น มีสมดุลน้ำในผิวพอเหมาะ เป็นเคล็ดลับความงามของสาวเกาหลีที่โด่งดังไปทั่วโลกค่ะ
Sulwhasoo Concentrated Ginseng Renewing Cream Ex (สอบถามราคาได้ที่เคาน์เตอร์ Sulwhasoo, www.central.co.th)
6. Pañpuri - Bakuchiol
Bakuchiol ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอย บูสต์คอลลาเจน และกระตุ้นการสร้างอิลาสติน มีความอ่อนโยนต่อผิวบอบบางแพ้ง่าย Bakuchiol ยังเป็นพืชหายากที่ยังไม่มีแบรนด์ไทยทำ นอกจากปัญญ์ปุริ! ใครยังไม่เคยใช้ Bakuchiol ต้องจัดแล้วค่ะ เทรนด์กำลังมาค่าาา
Image source : www.myskinrecipes.com
Pañpuri Revive Arunayouthtm Complex Probiotic Age Delay SOS Serum (ราคา 3,700 บาท, shop.panpuri.com)
7. Sisley - Black Rose
คุณค่าสกัดจาก Black Rose ของ Sisley ช่วยให้ผิวเอิบอิ่มฉ่ำน้ำ แลดูกระจ่างใส คืนความสดใสให้ผิวดูมีชีวิตชีวา เรียบเนียน นุ่มนวลเหมือนกลีบกุหลาบ และต่อต้านริ้วรอยให้ผิวอ่อนเยาว์เปล่งปลั่ง พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกุหลาบให้ความผ่อนคลายทุกครั้งที่ใช้ผลิตภัณฑ์ค่ะ
Sisley Black Rose Precious Face Oil (ราคา 7,300 บาท, www.central.co.th)
Sisley Black Rose Cream Mask (ราคา 4,590 บาท, www.central.co.th)
8. Dior - The Rose de Granville
Dior ได้ค้นพบกุหลาบป่าสายพันธุ์พิเศษบนหน้าผาในนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส เป็นสายพันธุ์ที่แข็งแกร่งทนต่อน้ำทะเลที่มีคลื่นลมแรงได้ดี และได้นำมาเพาะปลูกปรับแต่งสายพันธุ์จนเกิดเป็น The Rose de Granville จากนั้นสกัดออกมาใส่ในสกินแคร์ ซึ่ง Dior เป็นแบรนด์แรกที่ใช้กุหลาบสายพันธุ์นี้ สารสกัดนี้ช่วยให้ผิวสวยอ่อนเยาว์ ต่อต้านอนุมูลอิสระ เติมอาหารให้ผิวแข็งแรงมาจากภายใน ผิวดูเรียบเนียน นุ่มนวล ฟูเอิบอิ่ม และมีชีวิตชีวาค่ะ
DIOR Prestige La Micro-Huile De Rose (ราคา 12,000 บาท, www.central.co.th)
9. LA MER - Giant Sea Kale
ส่วนผสมหลักของ LA MER ก็คือ Miracle Broth ที่สกัดมาจากสาหร่ายซีเคลป์ (Giant Sea Kale) ถูกเก็บเกี่ยวด้วยกรรมวิธีแบบยั่งยืน จากท้องทะเลเกาะแวนคูเวอร์ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้งกร้านให้ชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึก ผิวนุ่มเนียน กระชับ และช่วยต่อต้านริ้วรอย คืนผิวสวยเปล่งประกาย คงความอ่อนเยาว์ให้สาวๆ ได้อย่างง่ายดายค่ะ
Crème de la Mer (ราคา 13,700 บาท, www.lamer.co.th)
10. Estée Lauder - Black Diamond Truffle
สาวๆ อาจจะคุ้นเคยกับ Truffle ส่วนผสมเลอค่าในอาหารระดับห้าดาว แต่ Estée Lauder ได้นำส่วนผสมที่เลอค่ากว่านั้น นั่นก็คือ Black Diamond Truffle เกรด Extra Class มาสกัดแบบเข้มข้นแล้วใส่ในสกินแคร์ ช่วยต่อต้านริ้วรอยให้ผิวอ่อนเยาว์ เสริมสร้างการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติในชั้นผิว พร้อมทั้งให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และนุ่มทุกครั้งที่สัมผัสค่ะ
Estée Lauder Ultimate Diamond Transformative Energy Dual Infusion (ราคา $405, www.esteelauder.com)
แต่ละแบรนด์ช่างค้นหาพืชพรรณหายากมาทำการวิจัยกันซะเหลือเกิน บางอย่างก็หายากแทบพลิกแผ่นดิน บางอย่างกำลังจะสูญพันธุ์ก็ต้องหาวิธีปลูกให้ได้ ถ้าไม่ได้เหล่านักวิทยาศาสตร์-นักวิจัย เราก็ไม่มีทางรู้เลยว่าพืชชนิดใดนำมาใช้ประโยชน์ในการบำรุงผิวได้บ้าง แต่ไม่ใช่จะไปเก็บมาแล้วเอามาบดทาหน้าเลยนะคะ มันต้องผ่านกระบวนการก่อนที่จะมาเป็นสกินแคร์อีกเยอะ ใช้เวลาลองผิดลองถูกหลายปี เห็นอย่างนี้แล้วจะแพงกี่บาทก็ยอมจ่ายค่ะ จริงมั้ยคะสาวเฟียร์ซ~