เปิดศักราชใหม่! กับ Rouge Dior ดีไซน์ใหม่! โดย ปีเตอร์ ฟิลิปส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ และภาพลักษณ์ประจำแผนก Dior Makeup ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Rouge Dior รุ่นแรกของคริสเตียน ดิออร์ เพิ่มเติมคือปรับสูตรให้ดียิ่งขึ้น ดีไซน์แซ่บมากขึ้น และเปลี่ยนรีฟิลได้ เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วยค่าาา การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้สาวกยิ่งรัก Rouge Dior มากยิ่งขึ้นค่ะ เรื่องราวของลิปสติกแท่งใหม่นี้จะมีที่มาที่ไปอย่างไรบ้างไปดูกันเลย~
บนริมฝีปากกับรอยยิ้มทุกหนแห่งคือ Rouge Dior ซึ่งถือกำเนิดจากความรัก และแรงปรารถนาของคริสเตียน ดิออร์ ที่จะแต่งเติมความงามให้แก่การแต่งกาย และรอยยิ้มของผู้หญิงทั้งหลาย ลิปสติกรุ่นแรกของห้องเสื้อชั้นสูงระดับตำนาน ถูกสรรค์สร้างขึ้นเมื่อปี 1953 ด้วยการถ่ายทอดทุกทักษะ ความชำนาญ และสไตล์อันทรงเอกลักษณ์ของ Dior ผ่านสีสันเจิดจ้า สว่างสดใสในฐานะตัวแทนจากโลกแฟชัน เป็นเวลากว่าหลายปีที่ลิปสติกแฟชันนี้ ได้รับการรังสรรค์ขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่องหลายพันเฉดสี มอบรอยยิ้มนับครั้งไม่ถ้วนให้ผู้หญิงทั่วโลก
ปีเตอร์ ฟิลิปส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ และภาพลักษณ์ประจำแผนก Dior Makeup ได้เผยแง่มุมใหม่ในลิปสติกระดับไอคอนิกเพื่อแสดงออกถึงความเป็น ‘ลิปสติกแฟชัน’ ได้อย่างชัดเจนกว่าที่เคย ในปลอกบรรจุรุ่นใหม่เปลี่ยนรีฟิลล์ได้ ซึ่งมาพร้อมงานออกแบบอันทันสมัยท้าทายทุกสายตา คือสูตรผสมทรงเอกลักษณ์ทางการเน้นความชัดเจนสมจริงแห่งสีสัน อุดมไปด้วยบรรดาส่วนผสมพฤกษาสกัดปฏิบัติการถนอมผิวริมฝีปาก บทบรรจบอันลงตัวระหว่างความหลากหลายทางเฉดสี และเนื้อสัมผัสกับผลลัพธ์ทางการแต่งเติม รองรับทุกสไตล์การแต่งหน้า และแต่งกาย เหนืออื่นใดคือ ช่วยทวีความงดงามให้แก่ทุกโทนผิว
"Rouge Dior คือที่สุดแห่งลิปสติกเจ้าของภาพลักษณ์อันทรงแบบฉบับ มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ปัจจุบัน ลิปสติกนี้ได้กลายเป็นไอคอนที่ตอบรับกับกระแสความนิยมของทุกยุคสมัย ซึ่งไม่เคยหยุดสร้างความอัศจรรย์ใจ” ปีเตอร์ ฟิลิปส์
Rouge Dior บทรังสรรค์ผลงานร่วมสมัยระดับไอคอน
คริสเตียน ดิออร์ ผู้เคยฝันถึงการเป็นสถาปนิก ประสบความสำเร็จในการสรรค์สร้างลิปสติกรุ่นแรกให้เผยโฉมในรูปแบบของศิลปะวัตถุด้วยบรรจุภัณฑ์ทำจากวัสดุสีทอง และแก้วใส จำลองแบบเสาอนุสาวรีย์ในกลางจัตุรัสกองกอร์ดเพื่อยกย่องหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งมหานครปารีส ในขณะที่กาลเวลาผันผ่าน ลิปสติกนี้ก็ได้รังการรังสรรค์ขึ้นใหม่ตามยุคสมัยอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งไม่ต่างอะไรจากการสร้างปรากฏการณ์หักล้างแนวคิดดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นปลอกบรรจุสีทอง หรือสีเบจ จนมาถึงสีน้ำเงินเข้มสดดุจท้องน้ำในมหาสมุทร และมาหยุดอยู่ที่ปี 2005 กับความงามสง่ารูปโฉมใหม่ในปลอกลิปสติกสีน้ำเงินเข้มอมน้ำอย่างที่เรียกว่า “มิดไนท์บลู” รองรับลายขัดสาน (cannage) หนึ่งในสัญลักษณ์ประจำห้องเสื้อ Dior
ล่าสุด Rouge Dior ใหม่สืบสานตำนานที่ยังมีชีวิตด้วยความทันสมัยยิ่งขึ้น และมีแบบฉบับยิ่งกว่า ด้วยการคาดวงแหวนรองรับอักษรย่อ Dior เพื่อเป็นบทสะท้อนความคอดกิ่วของส่วนเอวในเสื้อผ้าแฟชัน ซึ่งครองความโดดเด่นในแต่ละคอลเลคชั่นของแต่ละฤดูกาล ขณะเดียวกัน ปลอกบรรจุรุ่นใหม่ที่ยังประดับงานเดินของสีเงินกับอักษรย่อ CD ตามนามของผู้สร้างสรรค์ และก่อตั้ง ยังหลอมรวมงานออกแบบรูปทรงเพรียวบาง โฉบเฉี่ยว เข้ากับความภูมิฐานในฐานะเครื่องประดับแฟชันซึ่งอยู่เหนืออิทธิลของกระแสความนิยมทางยุคสมัย
นอกจากนั้น Rouge Dior รุ่นใหม่นี้ ยังขานรับนโยบายอนุรักษ์ระบบนิเวศอย่างยั่งยืนของ House of Dior ด้วยการกลับมาใช้บรรจุภัณฑ์ปลอกลิปสติกแบบเปลี่ยนรีฟิลล์ได้อีกครั้ง ตามวิสัยทัศน์ก้าวไกลแต่แรกเริ่มของคริสเตียน ดิออร์ ผู้สรรค์สร้างลิปสติกรุ่นแรกของตนในรูปแบบปลอกบรรจุแบบรีฟิลล์
อานุภาพแห่งสีสัน ได้รับแรงบันดาลใจจากมวลพฤกษาของ Dior
ด้วยการจัดสัดส่วนระหว่างเม็ดสีกับส่วนผสมถนอมผิวริมฝีปากให้ได้สมดุลอย่างลงตัว Rouge Dior ทวีความงดงามแก่รอยยิ้มของผู้หญิงทุกคนภายใต้เนื้อสีชัดเจน สมจริงอย่างหมดจดจากการทาเพียงครั้งเดียว สูตรผสมอันเป็นที่รัก ได้รับการรังสรรค์ใหม่โดยอาศัยพฤกษศาสตร์วิทยาของ Dior เป็นแกนนำ ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา แผนกห้องทดลองค้นคว้าของแบรนด์ ได้รับแรงบันดาลใจจากวิทยาการแขนงนี้ในการนำไปสู่วัตถุดิบอันทรงอานุภาพอย่างที่สุด บรรดาส่วนผสมจากพฤกษาธรรมชาติ หลอมรวมประสิทธิภาพทางการปกป้อง ถนอมผิวริมฝีปากลงสู่ Rouge Dior เพื่อช่วยเร่งความคมชัดของเฉดสี ฟื้นบำรุงความงามของริมฝีปากอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน
- คุณสมบัติทางการปกป้องจาก red peony หนึ่งในดอกไม้ซึ่งคริสเตียน ดิออร์รัก และชื่นชมอย่างที่สุด พฤกษาสกัดนี้ช่วยเก็บกักความชุ่มชื่นตามธรรมชาติของผิวริมฝีปากเพื่อจุดประกายสดใสแห่งสีสัน เร่งระดับความสว่างให้เฉดสีของลิปสติกที่แต่งเติม
- สารสกัดจากดอกทับทิม ปฏิบัติการล้ำลึกในการฟื้นบำรุงความงามผ่านสัมผัสสบายผิว ริมฝีปากนุ่มละมุน แน่นกระชับ บรรดาริ้วรอยเส้นบางราวเลือนจาง ในขณะที่เนื้อสีผนึกแนบไม่ลอกตัว เลือนจาง หรือแตกริ้ว มอบความชัดเจนสมจริงได้นานต่อเนื่องยิ่งกว่าเคย
- เชียบัตเตอร์ เติมเต็มประสิทธิภาพทางการปกป้องของบรรดาพฤกษาสกัด มอบการบำรุงล้ำลึก เพราะผิวริมฝีปากที่เรียบเนียน ย่อมมอบความมั่นใจในการคลี่ตัวอย่างสม่ำเสมอของเนื้อลิปสติก รับประกันผลลัพธ์ความงามจากการแต่งเติม
34 เฉดสีจากห้องเสื้อแฟชันประดับความงามให้ทุกรอยยิ้ม
สีแดงคือสีแห่ง Dior อย่างที่คริสเตียน ดิออร์เคยกล่าวไว้ว่า “สีแดงคือสีแห่งชีวิต”
เมื่อปีค.ศ. 1947 สีแดงในฐานะสัญลักษณ์แห่งความปรารถนา และความเป็นผู้หญิง เติมความงามสง่าให้บรรดาผลงานการออกแบบของคริสเตียน ดิออร์ ตลอดจนจุดประกายสว่างไสวให้แก่การแสดงแบบเสื้อผ้าบนรันเวย์ด้วยชุดอันโด่งดังอย่าง ‘Coups de Trafalgar.’ ‘Zinnia’, ‘Satan’ และ ‘Sourire’ เหล่านี้เป็นตัวอย่างบางส่วน ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจอย่างต่อเนื่องให้แก่เหล่านักออกแบบรุ่นต่อมาของห้องเสื้อ ในขณะเดียวกัน ก็ยังช่วยเล่าขานเรื่องราวความเป็นมาในแต่ละยุคของวงการแฟชัน
เพื่อสะท้อนถึงความรักอันดื่มด่ำ กับพลังแห่งความปรารถนานี้ ปีเตอร์ ฟิลิปส์ได้ศึกษา และทบทวนทุกแง่มุมของลิปสติกอันทรงแบบฉบับ สัญลักษณ์ประจำแบรนด์ เพื่อรังสรรค์คอลเลคชั่นสีขึ้นใหม่ด้วยการมอบตัวเลือกถึง 35 เฉดสี แต่ละเฉดล้วนแฝงประกายไล่ลำดับความเข้มสลับแสงเงาเพื่อประดับความงามแก่รอยยิ้มของผู้หญิงทั้งหลาย ตลอดจนเป็นตัวแทนแนวคิดล้ำยุคที่ต้องการหักล้างกฎเกณฑ์ ขนบนิยมดั้งเดิม หรืออีกนัยหนึ่ง แสดงถึงความกล้าที่จะท้าทายกระแสความนิยมของแต่ละยุคสมัย เพื่อเป็นความพิเศษเหนือธรรมดาอย่างแท้จริง
ท่ามกลางความหลายหลากมากมายของสรรพสี นู้ด หรือสีเนื้อ เป็นเสมือนแขกรับเชิญผู้ทรงเกียรติในคอลเลคชั่น “สีแดงบ่งบอกถึงตัวตน บุคลิก หรือความรู้สึกนึกคิดที่แท้จริง ในขณะที่นู้ด กลายเป็นเฉดสีประจำวัน” คือคำอธิบายของปีเตอร์ ฟิลิปส์ ผู้จัดลำดับแต่ละเฉดสีให้ไล่เรียงกันอย่างสมดุล “สีนู้ด มีความแตกต่างกันไปสำหรับผู้หญิงแต่ละคน ผลลัพธ์ก็หลากหลายตามลักษณะของสีปาก ดังนั้น จึงสำคัญอย่างยิ่งในการออกแบบเฉดเพื่อให้มีจำนวนตัวเลือกสีที่เหมาะสม จากสีเบจอ่อนไปจนถึงสีเนื้อเข้มอมโทนชมพูกุหลาบอย่างที่เราเรียกว่าสีไม้พะยูง หรือสีโรสวูด มั่นใจได้ว่าผู้หญิงทุกคนจะพบเฉดสีซึ่งช่วยทวีความงดงามให้แก่ตนได้อย่างกลมกลืนที่สุด” ปีเตอร์ ฟิลิปส์กล่าวเสริม
4 เนื้อสัมผัสจากแฟชัน มอบความครบครันให้ผลลัพธ์
ความต่างทางเฉดสี ยังทวีความหลากหลายด้วยเนื้อสัมผัส จากซาตินทอประกายสว่างเป็นเงางามอันโด่งดังระดับตำนาน และเนื้อแมทท์อุดมเม็ดสีเข้มข้น มาสู่เนื้อสัมผัสใหม่เพิ่มเติมอีกสองผลลัพธ์ นั่นคือแมทท์พิเศษเนื้อ ‘กำมะหยี่’ มอบสัมผัสสบายผิว ติดทนนานกับ ‘เมทัลลิค’ แวววาว สดสว่าง ท้าทายทุกสายตา ลิปสติกแต่ละเฉดล้วนมีเนื้อสัมผัสเฉพาะตัว โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากหนึ่งใน 4 เนื้อผ้าอันถือเป็นมรดกทางการสร้างสรรค์ในประวัติความเป็นมาของ Dior
‘กำมะหยี่’ หรือ velvet คือผลลัพธ์ซึ่งสะกดสายตาอย่างที่สุด ด้วยการขยายขอบเขตคำจำกัดความของ ‘ความแมทท์’ ออกไปโดยอาศัยการหลอมรวมความรักดื่มด่ำอันมีต่อสีสัน เข้ากับนวัตกรรมเครื่องสำอางเพื่อมอบสัมผัส และผลลัพธ์ที่แมทท์เนียนสูงสุด โดยไม่บั่นทอนประสิทธิภาพทางการถนอมผิวริมฝีปาก อีกทั้งยังมอบความรู้สึกสบายผิวต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้ง เนื้อสีไม่แตกริ้ว หรือลอกเลอะ มีเพียง Dior เท่านั้น ที่สามารถเก็บงำความลับทางการจัดสัดส่วนสมดุลเชิงคุณสมบัติให้ลงตัวได้เช่นนี้
Rouge Dior 4 เฉดก้าวขึ้นครองตำแหน่งไอคอนแห่งเมคอัพในที่สุด:
- 999 Velvet: สีแดงสดเข้ม เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน และอยู่เหนือกระแสความนิยมของยุคสมัย ผลงานรังสรรค์ลำดับสามจากลิปสติกสองรุ่นแรกของคริสเตียน ดิออร์ นั่นคือ 9 และ 99 ปัจจุบันครบครันด้วย 4 เนื้อสัมผัสเพื่อผลลัพธ์แบบฉบับ Rouge Dior
- 100 Nude Look: ถ่ายทอดสีเทาอมเบจของชุดนิวลุคปี 1947 ที่คริสเตียน ดิออร์ออกแบบ สร้างสรรค์มาสู่ลิปสติกสีนู้ดเฉดใหม่ ร่วมสมัย ให้ความคมชัดแก่รูปปากอย่างงดงาม
- 080 Red Smile: สีแดงสุกสว่างรุ่งโรจน์ และโชติช่วงดั่งดวงเพลิง อาศัยหนึ่งในสีแดง Dior รุ่นแรกปี 1950 เป็นต้นแบบการจุดประกายความงามสดใสให้รอยยิ้ม
- 525 Chérie: สีนู้ดโรสวูด ซึ่งตั้งชื่อตามคำเรียกน้องสาวผู้เป็นที่รัก และหนึ่งในหญิงซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของคริสเตียน ดิออร์
Rouge Dior…
ความงดงามตราตรึงดึงดูดทุกสายตาด้วยลีลาหาญกล้าสุดท้าทาย Rouge Dior ได้ประดับริมฝีปากของทุกคนเพื่อสืบสานความปรารถนาของคริสเตียน ดิออร์ที่จะ “เติมแต่งความงามให้รอยยิ้มของอิสตรี” ในปี 2021 ปีเตอร์ ฟิลิปส์ได้จารึกบทใหม่ลงในหน้าประวัติศาสตร์ของแบรนด์ด้วยคอลเลคชั่นอันมีความเป็นแฟชันชัดเจนยิ่งขึ้นกว่ากาลก่อน
เหมือนเป็นการหวนคืนสู่รกรากที่มา ลิปสติกสีแดงอันทรงแบบบับได้เผยความงดงามใจกลางมหานครซึ่งมีความเป็น Dior สูงสุด: กรุงปารีส
รับบทโดยนาตาลี พอร์ตแมน ไอคอนแห่งวงการภาพยนตร์ ตำนานบทใหม่แห่งลิปสติกสืบทอดความหาญกล้า เจิดจรัส และสดใสในความงามสง่าแบบ Dior ด้วยสไตล์โฉบเฉี่ยว คล่องตัวจากบรรดาเครื่องประดับแฟชัน3 และริมฝีปากเฉิดฉายภายใต้เนื้อสีลิปสติก Rouge Dior นาตาลี พอร์ตแมนท์มอบคำจำกัดความใหม่ของ Parisian chic ผ่านเลนส์กล้องภาพยนตร์ของอิเนซ์ แอนด์ วินูห์
เสน่ห์เย้ายวนในความสุข สดใส สะกดทุกสายตาด้วยท่วงท่า และสีหน้าเล่นกับกล้องของกอร์ดอน วอน สไตเนอร์ แสดงให้เห็นถึงรอยยิ้มที่มอบชีวิตชีวาให้แก่ทุกเฉดสีของ Dior
สาวๆ ที่สนใจก็ไปจัดกันได้ที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง Dior ทุกสาขา และทางช่องทางออนไลน์ของแบรนด์ shop.dior.co.th, www.central.co.th และ www.sephora.co.th ราคาแท่งละ 1,490 บาท รีฟิลราคา 1,200 บาท บอกเลยว่าเนื้อดี สบายปาก ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งเสียด้วยนะคะ ใครที่เป็นสาวก Dior อยู่แล้วต้องรีบจัดไปโดยด่วนค่าาา