เฟียร์ซเชื่อว่าหลายๆคนอาจจะลืมขั้นตอนการปรับสภาพผิวก่อนลงสกินแคร์ไปได้นะคะ บางคนคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องใช้โทนเนอร์ก็ได้ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ เพราะว่าขั้นตอนการลงโทนเนอร์คือขั้นตอนการบำรุงผิวที่สำคัญมาก ทั้งช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ช่วยกระชับรูขุมขนและป้องกันการเกิดริ้วรอยด้วยค่ะ ซึ่งไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ควรจะใช้ และจะมีโทนเนอร์ตัวไหนที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายบ้าง ไปชมกันเลยค่าาา
1. LA MER - The Tonic
(ราคา ฿3,690, central)
มากันถึงตัวแรก เป็นโทนเนอร์สูตรน้ำชนิดเข้มข้น มอบความสดชื่น ช่วยปรับสภาพผิวภายหลังล้างทำความสะอาดผิวหน้า ผิวแลดูสะอาด สดใส แลดูเปล่งประกาย สุขภาพผิวดี หลังจากที่เราล้างหน้าเสร็จ ให้หยดเนื้อผลิตภัณฑ์บนสำลี แตะให้ทั่วใบหน้าและลำคออย่างอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผิวรอบดวงตา แล้วตามด้วยการบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้เลยค่า
2. HERBIVORE BOTANICALS - Jasmine Green Tea Balancing Toner
(ราคา ฿1,495, sephora)
สเปรย์โทนเนอร์เพื่อผิวหน้าสดชื่น ดูชุ่มชื้น นุ่มเนียน ช่วยปลอบประโลมผิวด้วยสารสกัดจาก Jasmine flower water, Green tea และ Witch Hazel ช่วยคืนความชุ่มชื้น ปรับสมดุลผิว เพื่อผิวสวยสุขภาพดีตลอดทั้งวันคุณประโยชน์ เหมาะสำหรับผิวผสม, ผิวมัน และผิวที่มีปัญหาสิว ใช้ส่วนผสมจากพืชธรรมชาติ และไม่ทดลองผลิตภัณฑ์นี้กับสัตว์ ปราศซิลิโคน, น้ำหอม, กลูเตนด้วยค่ะ ใครที่แพ้ง่าย ควรจัดเลยค่า
3. PANPURI - Nourish RiceMoss HyaQuench Pore Minimizer Alcohol-free Toner
(ราคา ฿1,150, central)
มาต่อกันที่โทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ พร้อมกระชับรูขุมขน และมอบความชุ่มชื้นให้ยาวนานมากขึ้น มีส่วนผสมจากน้ำสกัดออร์แกนิคจากพืช 3 ชนิด Witch Hazel, Rose, Peppermint ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวไปพร้อมๆกันเลยค่ะ ซึ่งสามารถควบคุมการผลิตน้ำมันในผิวได้ด้วย ส่วนตัวสารสกัดจาก Buchu Leaf จะช่วยกระชับรูขุมขน ปรับสมดุลเพื่อการบำรุงขั้นต่อไป เหมาะสำหรับการเตรียมผิวเพื่อบำรุงขั้นถัดไป เพราะมีค่า pH สมดุลตามธรรมชาติและกระชับรูขุมขนได้อย่างเรียบเนียนนั่นเองค่า
4. AESOP - B & TEA BALANCING TONER
(ราคา ฿1,030, beautyexpert)
โทนเนอร์ B & Tea Balancing ของ Aesop เป็นโทนเนอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ มีส่วนผสมของ Panthenol (Pro-Vitamin B5) และสารสกัดจากชาเขียวที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวรวมถึงผิวที่บอบบางด้วยค่ะ ไม่ทำให้หน้าแห้ง แถมยังช่วยปรับสมดุลได้ด้วย
5. Kiehl's - Ultra Facial Toner
(ราคา ฿1,050, kiehls)
ทุกคนต้องปลื้มกับตัวนี้ เป็นตัวช่วยปรับเนื้อผิวชั้นนอกสุดให้ละเอียดขึ้น ขณะเดียวกันก็เตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงด้วยนั่นเองค่ะ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพและสิ่งตกค้างที่เหลืออยู่บนผิวชั้นนอกสุดอย่างอ่อนโยน พร้อมมอบความชุ่มชื้นและทำให้รู้สึกสบายผิว เป็นสูตรปราศจากแอลกอฮอล์ ค่าความเป็นกรด- ด่างเป็นกลาง เพื่อความสบายผิวที่สุด
6. NUDESTIX - NUDESKIN 5% Citrus Fruit & Glycolic Glow Toner
(ราคา ฿950, sephora)
มากันถึง NUDESTIX - NUDESKIN 5% Citrus Fruit & Glycolic Glow Toner ผลิตจากกรดไกลโคลิก 3% และสารสกัดจากกรดผลไม้ 2% เป็นทรีตเมนต์สูตรวีแกนที่เข้มข้น เหมือนเราได้ไปสปาเลยค่ะ ตัวนี้จะผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ดูเรียบเนียน นุ่ม และโกลว์กว่าที่เคยค่า
7. THAYERS - Witch Hazel Aloe Vera Formula
(ราคา ฿890, kingpower)
เทเยอร์ โทนเนอร์ปรับสภาพผิวสูตร Lavender Witch Hazel ผสมลาเวนเดอร์ และว่านหางจระเข้ สูตรปราศจากแอลกอฮอล์ ช่วยให้รูขุมขนดูกระชับ ปรับสภาพผิวพร้อมเพิ่มความชุ่มชื่น ปรับสภาพผิว พร้อมให้ความรู้สึกเหมือนกับทำสปา ช่วยปรับสมดุลค่า pH ผิวได้อย่างดีนั่นเองค่า
8. MARIO BADESCU - Witch Hazel & Rosewater Toner
(ราคา ฿630, sephora)
เป็นอีกตัวที่หลายๆคนชอบ มีใครเป็นบ้างไหมคะที่หลังล้างหน้า บางทีหน้าของเราอาจจะแห้งๆหน่อย แต่ถ้าได้ลองเช็ดด้วยตัวนี้หลังจากล้างหน้า หน้าของเราจะนุ่มชุ่มชื่นขึ้นมากค่ะ แต่ก็ไม่ทำให้หน้ามันซึ่งที่สำคัญราคาไม่แรง และกลิ่นหอมด้วยค่ะ ผลลัพธ์ออกมาคือเริ่ด ถือว่าเป็นโทนเนอร์ลูกรักของหลายๆคนได้เลยค่า
9. Mamonde - Pore Clean Toner
(ราคา ฿750, konvy)
มากันถึงตัวสุดท้าย กับ Mamonde Pore ที่ช่วยปรับสภาพผิวให้กลับมาสมดุลและแข็งแรงอีกครั้งกับโทนเนอร์สูตรอ่อนโยน จากมามอนด์ ด้วยสารสกัดของดอกคาโมมายล์ ช่วยปลอบประโลมผิว ผสานโปรวิตามิน B5 เสริมสร้างผิวให้แข็งแรง พร้อมคืนความชุ่มชื้นนั่นเองค่า
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ รวม 9 โทนเนอร์ช่วยให้ผิวใส ผู้หญิงใช้ได้ผู้ชายใช้ดี! ใครที่ชอบสไตล์ไหนก็สามารถสั่งซื้อได้ที่ลิงค์ด้านล่างเลยนะค้า