คอลเล็กชันนี้ต้องการนำเสนอมิติของรูปทรงที่ชัดเจน เทคนิคการตัดเย็บขอบแบบ raw-cut และการเลเยอร์ชิ้นส่วนเพื่อเติมเต็มให้มีน้ำหนักเบา เสื้อสูทเบลเซอร์ขนาดพอดีตัวและกระโปรงชายตัดตรงคอนทราสต์ไปกับชุดเดรสที่เน้นความเฟมินิน วัสดุที่ใช้แสดงถึงการผสมผสานระหว่างความประณีตและความไม่สมบูรณ์แบบ เช่น หนังปั๊มลายจระเข้ขัดเงา ผ้าขนสัตว์ที่หลุดรุ่ย และรอยผ้าจับจีบที่ไม่เท่ากัน
กระเป๋าและรองเท้าประจำคอลเล็กชันนี้ ถูกออกแบบด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูและเติมแต่งดีเทลให้การใช้งานในทุกวันมีความพิเศษมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าทรงส้นหัก กระเป๋า Minaudière ที่ปริ้นท์ด้วยเทคนิคสามมิติ และกระเป๋า Shopper Tote รุ่นใหม่ โดยล้วนได้รับแรงบันใจมาจากสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่แจ็คแก็ตลายวินเทจ โคมไฟ ไปจนถึงหมวกคลุมอาบน้ำ
SILHOUETTES: ชุดเดรสและกระโปรงที่เผยเทกซ์เจอร์อันนุ่มนวลและพริ้วไหวในคอลเล็กชันนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของโคมไฟ เสื้อผ้าที่สวมใส่ในชีวิตประจำวันอย่างเสื้อแจ็คเก็ต กางเกงขายาว ชุดซับใน เสื้อฮู้ดดี้ และเทรนช์โค้ตได้ถูกนำมาตีความใหม่ผ่านเนื้อผ้า การออกแบบ และเทคนิคการตัดเย็บ กระโปรงผ้าโปร่งที่ตกแต่งด้วยเลื่อมปักและชุดเดรสผ้าเจอร์ซีย์ที่จับจีบแบบอสมมาตรสะท้อนให้เห็นถึงความเฟมินีนและสรีระที่น่าหลงใหล
CONSTRUCTION: เสื้อผ้าในคอลเล็กชันนี้ถูกออกแบบผ่านมุมมองของการดีไซน์กระเป๋า โดยมีการนำผ้ามาตัดเย็บให้เกิดรูปทรงที่ชัดเจนและเข้ารูปกับสรีระของร่างกาย ตะเข็บของผ้าถูกตัดเย็บเข้ามุมอย่างคมชัดในขณะที่ยังคงน้ำหนักเบาไว้ ชุดเดรสและกระโปรงที่มีดีไซน์ไม่ซับซ้อนล้วนสร้างความพริ้วไหวและความสะดวกสบายแก่ผู้สวมใส่
FABRICATIONS: คอลเล็กชันนี้ได้นำวัสดุที่หลากหลายมาทดลองใช้ทำให้เกิดเป็นเทกซ์เจอร์ในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นผ้าเดนิม หนังปั๊มลายจระเข้ หนังที่มีความเบาบางเสมือนกระดาษ ขนลูกวัว เส้นใยราฟเฟีย ผ้าไนลอน ผ้าฝ้ายเนื้อหนา ไปจนถึงผ้าตาข่ายเจอร์ซีย์ เนื้อผ้าถูกรังสรรค์ให้มีลูกเล่นด้วยเทคนิครอยยับและดีไซน์ที่หลุดรุ่ย ชุดเดรสโปร่งที่ตกแต่งด้วยดีเทลปักลูกไม้และผ้าไนลอนลวดลายดอกไม้ถูกนำมาบิดและจับสม็อคเพื่อแสดงส่วนเว้าโค้ง
HANDBAGS & SHOES: คอลเล็กชันนี้ได้มองย้อนกลับไปยังดีไซน์กระเป๋าและรองเท้าในรูปทรงคลาสสิคและนำมาดัดแปลงใหม่ เช่น กระเป๋า Fleming Minaudiere จากคอลเล็กชัน Spring/Summer 2024 ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นใหม่โดยเทคนิคการปริ้นท์สามมิติ, กระเป๋าจากครอบครัว Lee Radziwill ที่มาในหลากเฉดสี วัสดุและรูปทรง ตั้งแต่ทรง Messenger Bag ไปจนถึงทรง Shopper Tote, รองเท้า Pierced Pump ถูกรังสรรค์ขึ้นให้มีดีไซน์โค้งงออย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นและ Toe Ring ฮาร์ดแวร์สีเงินถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้น, รองเท้ารัดส้นที่สายคาดหนังและ Buckles มีขนาดเล็กลง
JEWELRY & ACCESSORIES: เครื่องประดับจากคอลเล็กชันนี้ล้วนเน้นย้ำถึงคอนเซปต์ของการทำให้วันธรรมดาในชีวิตประจำวันดูสมบูรณ์แบบและมีความพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นต่างหูเรซินทรงโดมที่ใช้เทคนิคการหลอกตาของ Trompe L’oeil ดีไซน์ผ่านใบหู, ต่างหูทรงระย้าในดีไซน์พวงผลไม้ที่สื่อถือบรรยากาศการซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต และแว่นตากันแดดที่ชิดกรอบหน้าในสีขาว สีดำ และสีน้ำตาล Taupe
THE SHOW: คุณทอรี่ เบิร์ช ได้เชิญแขกผู้มีเกียรติมาร่วมชมแฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่นนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่ New York Public Library แลนมาร์คที่สำคัญใจกลางมหานครนิวยอร์กอันเป็นสถานที่ซึ่งรวมรวมแรงบันดาลใจมากมายสำหรับงานออกแบบ แฟชั่นโชว์ใช้เพลงที่โปรดิวซ์โดย Wladimir Schall ไม่ว่าจะเป็นเพลง “Toccata And Fugue In D Minor, BWV 565” โดย Johann Sebastian Bach และตีความโดย L. Stokowski และ the Philadelphia Orchestra; “A Forest” โดย The Cure; และ “Isolation” และ “Disorder” โดย Joy Division