ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่แบรนด์ไทยเราจะโกอินเตอร์ไปไกลระดับโลก แต่ตอนนี้ถ้าถามชาวต่างชาติว่ากระเป๋าหนังเอ็กโซติกแบรนด์ไทยแบรนด์ไหนที่เริ่ดที่สุด คำตอบที่ได้จะต้องเป็น S’uvimol อย่างแน่นอนค่ะ ด้วยคุณภาพของหนังที่การันตีความเยี่ยมยอดจากฟาร์มจระเข้ของคุณแพร พัชรพิมล ยังประภากร ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ทำให้กระเป๋า S’uvimol ทุกคอลเลคชั่นที่ออกมา ได้เสียงตอบรับที่ดีจากสาวๆ ทั้งชาวไทยและต่างชาติมาตลอด ล่าสุดในปีนี้ ก็ยิ่งจัดเต็มกับกระเป๋ารุ่น "Mini Square F" ที่มีให้เลือกเก๋กันถึง 100 ใบ 100 สี! จะดีงามแค่ไหน เราลองมาดูกันค่ะ
ตำนานความปังเริ่มต้นมาจากกระเป๋ารุ่น "Square F" ซึ่งเป็นกระเป๋ารุ่นแรกสุดที่คุณฝน ชวมณฑ์ ปวโรดม ลูกสาวคนเก่งของคุณแพรเป็นผู้ออกแบบ และเป็นกระเป๋ารุ่นยอดฮิตตลอดกาลของ S’uvimol มีทั้งหมด 3 ขนาด Regular, Mini และ Baby ซึ่งขนาด Mini เป็นขนาดที่ขายดีสุดๆ ด้วยขนาดน่ารักกำลังดี เหมาะกับไลฟ์สไตล์สาวๆ ยุคนี้ มาพร้อมกับสายสะพายที่ถอดออกเป็นกระเป๋าถือก็ได้ จะสะพายไหล่หรือเป็นครอสบอดี้ก็เริ่ด แถมมีให้เลือกกันมากมายตาแตกถึง 100 สี กับหนังเอ็กโซติกทั้ง 4 ประเภท ได้แก่
1. หนังจระเข้
สุดยอดหนังที่ได้ชื่อว่าเป็น "The King of Leather" หนังจระเข้เป็นหนังที่มีราคาแพงที่สุดในบรรดาหนังสัตว์ต่างๆ ด้วยจำนวนประชากรของจระเข้ที่มีสัดส่วนค่อนข้างน้อย บวกกับระยะการเจริญเติบโตของจระเข้ที่ใช้เวลา 5-6 ปี นั่นเท่ากับกระเป๋าหนังจระเข้ใช้เวลาราว 6-7 ปี หนังจระเข้ที่นำมาผลิตสินค้าได้จะต้องเป็นจระเข้ที่เลี้ยงในฟาร์มเฉพาะและเป็นฟาร์มที่เพาะจระเข้กลับคืนสู่ป่าเท่านั้น ซึ่ง S’uvimol เป็นแบรนด์ไทยระดับสากลที่มีฟาร์มจระเข้เป็นของตัวเอง และมีใบ Certified รับรองอย่างถูกต้อง หนังจระเข้ส่วนท้องเป็นส่วนที่แพงที่สุดเพราะเป็นส่วนที่นิ่มที่สุด เหมาะสำหรับการนำมาผลิตเป็นสินค้า และความแพงยังมาจากคุณภาพของหนัง ที่มีแผลหรือตำหนิน้อย บ่งบอกถึงคุณภาพของการดูแลจระเข้อย่างดี ซึ่งจระเข้แต่ละตัวมีลายที่ไม่เหมือนกัน หนังจระเข้แต่ละผืนจึงมีเอกลักษณ์พิเศษที่มีเสน่ห์และไม่ซ้ำแบบใคร ทนทาน และ ราคาไม่มีตก กระเป๋าหนังจระเข้ของ S'uvimol ราคาอยู่ที่ 64,900 - 330,000 บาท
2. หนังนกกระจอกเทศ
หนึ่งในหนังตระกูล Exotic Skin ซึ่งเป็นที่นิยมไม่แพ้กันก็คือหนังนกกระจอกเทศซึ่งทาง S’uvimol นำเข้ามาจากฟาร์ม Klein Karoo ฟาร์มนกกระจอกเทศอันดับ 1 จากแอฟริกาใต้ ซึ่งจัดเป็นประเทศที่ผลิตหนังนกกระจอกเทศที่ดีที่สุดในโลก ทางแบรนด์เลือกเฉพาะหนังนกกระจอกเทศเกรด A ซึ่งให้ลายจุดได้ถี่สม่ำเสมอและนำไปฟอกต่อที่โรงงานฟอกหนังชั้นเยี่ยมที่ประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นก็คือความนุ่มและยืดหยุ่นสูง บวกกับลวดลายจุด Polka Dot ที่ไม่เหมือนหนังชนิดอื่น ซึ่งนกกระจอกเทศหนึ่งผืน จะมีลาย Polka Dot อยู่เพียง 1/3 ของตัว จึงไม่แปลกใจที่จะเป็นส่วนที่พิเศษและราคาแพงที่สุด หนังนกกระจอกเทศแต่ละผืนจะมีความแตกต่างกัน เมื่อนำมาทำเป็นเครื่องหนังจะดูมีความหนา มีมิติ เกิดแสงเงาที่ดูเป็นธรรมชาติ ข้อดีอีกอย่างของหนังนกกระจอกเทศก็คือมีความเป็น Water-Resistent สูง จึง แข็งแรง ทนทาน และมีอายุการใช้งานยาวนาน ทำให้หนังนกกระจอกเทศเป็นหนัง Exotic Skin อีกชนิดที่สามารถซื้อเก็บเป็น Investment Piece ได้ กระเป๋าหนังนกกระจอกเทศของ S'uvimol ราคาอยู่ที่ 52,900 - 109,000 บาท
3. หนังงู
หนังงูเป็นหนัง Exotic Skin ยอดนิยมที่นำมาใช้ทำกระเป๋า ไม่ใช่หนังของงูทุกชนิดสามารถนำมาใช้ได้ แต่ต้องเป็นงูใหญ่อย่างงูหลามหรืองูเหลือม (Python) ซึ่งหายากและ Luxury กว่าหนังของงูน้ำ (Sea Snake) ซึ่งเป็นงูที่ขนาดเล็กกว่ามาก ลวดลายของหนังงูมีรูปทรงคล้ายกับเพชร (Diamond Shape) ที่ให้อารมณ์กราฟฟิกที่ทันสมัย นอกจากการฟอกหนังงูทั่วไปแล้ว สิ่งที่บ่งบอกความเทพของเทคนิคอยู่ที่การกัดลาย ซึ่งซับซ้อนกว่าแค่การลงสี แต่เป็นการกัดลายที่เอาลายงูแบบ Diamond Shape ออกให้หมด เหลือแค่เท็กซ์เจอร์เกล็ดงูเท่านั้น ส่วนความคงทนนั้นแม้หนังงูจะบางกว่าหนังจระเข้หรือหนังนกกระจอกเทศ แต่ก็มีความเหนียวและทนทานไม่แพ้กัน ใครที่ไม่ชอบเท็กซ์เจอร์ที่หนานัก กระเป๋าหนังงูน่าจะเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ และยังราคาย่อมเยาว์กว่าหนังชนิดอื่นอีกด้วย กระเป๋าหนังงูของ S'uvimol ราคาอยู่ที่ 28,900 - 60,900 บาท
4. หนังลิซาร์ด
เป็นหนัง Exotic Skin ใหม่ล่าสุดของ S’uvimol ซึ่งหนังลิซาร์ดนั้นถ้ามองเผินๆ จะดูคล้ายกับหนังจระเข้แต่แตกต่างตรงเท็กซ์เจอร์ผิวสัมผัสและขนาดของลาย การเฟ้นหาหนังลิซาร์ดสวยๆ นับว่ายากไม่แพ้กับหนังจระเข้ เนื่องจากเป็นสัตว์มีขนาดไม่ใหญ่มาก และคัดเฉพาะหนังส่วนท้องมาใช้ ซึ่งเป็นส่วนที่ลวดลายสวยยูนีคแต่ก็สามารถเกิดรอยได้ง่ายที่สุดจึงต้องอาศัยระยะเวลาในเลือกเฉพาะหนังเกรด A ที่ไม่มีรอยเท่านั้น นอกจากนี้ยังต้องใช้เทคนิคการฟอกหนังลิซาร์ดแบบพิเศษที่ Bleach ลายออกทั้งหมด และลงสีสวยๆเพียง 1 สีบนหนัง ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะทำได้ยากจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้ได้ลายทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้งเล็กๆ เรียงกันเป็นแถวสวย และเมื่อสัมผัสจะได้ความรู้สึกเรียบลื่นไม่สะดุดให้ความโก้หรู ขณะเดียวกันก็ทนทาน เหมาะกับการใช้งาน โดยหนังลิซาร์ดเหมาะกับทำแอคเซสเซอร์รี่ เครื่องหนังชิ้นเล็ก หรือกระเป๋าใบเล็กจนถึงใบขนาดกลาง ถึงหนังลิซาร์ดสวยๆ จะหาได้ยาก แต่ราคาก็อยู่ในเกณฑ์ที่เอื้อมถึง โดยจะอยู่ระหว่างหนังงูและหนังนกกระจอกเทศ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่ง investment Piece ที่คุ้มค่าสมราคา เป็นอีกหนึ่ง Must Have Item ของคนที่ชื่นชอบและสะสม Exotic Skin กระเป๋าหนังลิซาร์ดของ S'uvimol ราคาอยู่ที่ 41,500 - 82,900 บาท
รู้จักกับหนังเอ็กโซติกทั้ง 4 ประเภทไปแล้ว รู้เลยค่ะว่า S’uvimol เค้าพิถีพิถันกับการผลิตกระเป๋าแต่ละใบมากแค่ไหน โดยเฉพาะในขั้นตอนการเลือกสรรแมททีเรียล ซึ่งต้องใช้ส่วนที่ดีที่สุด เลยรับประกันได้เลยว่าใช้ทนใช้นาน คุ้มค่ากับการลงทุนซื้อกระเป๋าสักใบเก็บไว้ ไม่แพ้กระเป๋าแบรนด์เนมจากเมืองนอกแน่นอน โดยเฉพาะรุ่น “Mini Square F” นี้การันตีความฮิตโดยเซเลบตัวแม่ของวงการ แต่ละคนจะใช้หนังแบบไหน สีอะไรบ้าง ตามไปส่องกันดีกว่าค่ะ
อั้ม - พัชราภา กับกระเป๋า “Mini Square F” Strawberry Shake LIZARD Bag
ปอย - ตรีชฎา กับกระเป๋า “Mini Square F” Cherry Red GLOSSY CROCO Bag
โบว์-ชมพูนุท กับกระเป๋ารุ่น “Mini Square F” Limited Belly Soft Grey PYTHON Bag
ตู่ ปิยวดี กับกระเป๋ารุ่น “Mini Square F” Limited Belly Pearl Gold PYTHON Bag
ซูซานน่า เรโน กับกระเป๋ารุ่น “Mini Square F” Belly Graphic Natural PYTHON Bag
บุ๊ค โอลีฟ กับกระเป๋า “Mini Square F” Belly Black PYTHON Bag
พลอย - ภัทรากร กับกระเป๋ารุ่น “Mini Square F” Limited Belly Pearl Gold PYTHON Bag
ดาว - พิมพ์ทอง กับกระเป๋ารุ่น “Mini Square F” Limited Belly Soft Baby Pink PYTHON Bag
อยากอินเทรนด์กับกระเป๋าเอ็กโซติกแบรนด์อันดับ 1 ซึ่งเป็นความภูมิใจของไทยเราเอง ตามไปช็อปกันได้แล้ววันนี้ที่ S’uvimol กับกระเป๋ารุ่น “Mini Square F” ที่มีให้เลือกมากถึง 100 สี รับรองต้องมีใบที่ถูกใจสาวเฟียร์ซแน่นอนค่ะ
LOCATIONS
Siam Paragon (M Floor)
Central Chidlom (1st Floor)
Central World (2nd Floor)
The Emporium (1st Floor)
BDMS Wellness Clinic (1st Floor)
Central Phuket Floresta (1st Floor)
SHOP ONLINE
Official Website : www.suvimol.com
SOCIAL MEDIAS
Facebook : S'uvimol Bangkok
Instagram : @suvimolbkk @svhomme
CONTACT
S'uvimol Head Office : 02.249.9099
LINE : @suvimolbkk (มี @)