น้องหนูมีกลิ่น งานนี้ไม่ใช่เล่นๆค่ะ เป็นปัญหาโลกแตกที่สาวๆร้องยี้ ถึงหน้าเป๊ะ สไตล์เป๊ะ แต่น้องหนูกลิ่นโชยนี่ขอไม่ให้ผ่านค่ะ รู้มั้ยคะว่าที่มาของกลิ่นมาจากสิ่งที่คุณทำในชีวิตประจำวันโดยไม่รู้ตัวนี่แหละค่ะ อาหารการกิน วิธีการล้าง หรือว่ากางเกงใน และจะมีสาเหตุอะไรและวิธีแก้ยังไง วันนี้เฟียร์ซจัดมาให้แล้วค่ะ ไปดูกันเลยค่าา
1. การโกนหรือแว๊กซ์ขน
ขนถึงจะไม่สวยแถมรกหูรกตาแต่มันก็มีหน้าที่ของมันนะคะ คือป้องกันเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย ขนตรงนั้นก็เหมือนกันค่ะ ไม่ว่าจะถอนออกโดยวิธีไหนจะโดนแว๊กซ์จนน้องหนูเกลี้ยงเนียน ยังไงก็เสี่ยงต่อการที่เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ แถมยังเสี่ยงว่าผิวจะอักเสบด้วย และขนยังช่วยควบคุมอุณหภูมิของตรงนั้นด้วยค่ะ ทางที่ดี แว็กซ์ได้แต่อย่าบ่อยเกินไป และอย่าจัดแบบเกลี้ยงค่ะ
2. ความสะอาดชุดชั้นใน
การใส่กางเกงในอับๆเป็นที่มาของเชื้อโรคเลยค่ะ กางเกงในควรซักให้สะอาดและตากแดดจนแห้ง เลี่ยงการตากในห้องน้ำ เพราะความชื้นจะทำให้เกิดเชื้อรา ควรเลือกกางเกงในผ้าบางๆ หนาไปจะอับชื้น กลิ่นถามหาแน่นอนค่ะ และควรเลือกไซส์กางเกงในให้ถูกไซส์ด้วยคะ แน่นไปได้ทั้งกลิ่นแถมขาหนีบดำด้วยนะคะ
3. เสื้อผ้าฟิตๆ
อีกหนึ่งที่มาของกลิ่นที่ห้ามชะล่าใจเลยค่ะ เสื้อผ้าฟิตๆทำให้จุดซ่อนเร้นระบายอากาศไม่ได้ดี ทำให้เชื้อโรคหมักหมม มีงานวิจัยออกมาแล้วว่าผู้หญิงที่ใส่กางเกงยีนส์ฟิตมีโอกาสติดเชื้อรามากกว่าคนที่ไม่ได้ใส่ถึง 3 เท่า เพราะฉะนั้น ต้องระวังให้ดีค่ะ ใส่ได้แต่อย่าให้บ่อย และกางเกงยีนส์อย่าหมกไว้ซักบ้างอะไรบ้าง
4. อาหาร
อาหารกลิ่นแรง กระเทียม ปลาร้า ของหมักดอง เข้าใจค่ะว่าอร่อย แต่ว่ามันอาจทำให้น้องหนูมีกลิ่นได้นะคะ หรือแม้กระทั่งเครื่องเทศก็ทำให้เหม็นได้เหมือนกันค่ะ แต่ว่าบางอย่างที่ทานแล้วดีต่อสุขภาพอย่างกระเทียมก็ไม่ควรเลี่ยงค่ะ แล้วทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว จะช่วยให้กลิ่นหายไป
5. การทำความสะอาด
จำไว้เลยนะคะ ว่าอย่าเช็ดหลังมาหน้า เพราะว่าเป็นการลากสิ่งสกปรกมาที่ช่องคลอด ทำให้น้องหนูมีกลิ่นและไปไกลถึงการติดเชื้อได้เลยนะคะ และที่สำคัญคือเลิกใช้สบู่เฉพาะจุดซ่อนเร้นเลยค่ะ หลายคนคิดว่าถ้าไม่ใช้แล้วจะสะอาดได้ยังไง แต่สบู่เฉพาะจุดไม่ได้ล้างแค่แบคทีเรียสกปรกออกไป แต่ล้างแบคทีเรียตัวที่ช่วยรักษาสมดุลของส่วนนั้นไปด้วย ล้างแค่น้ำเปล่าก็พอค่ะ และต้องเช็ดให้แห้งนะคะ
6. แผ่นอนามัย
การใส่แผ่นอนามัยไม่ได้ป้องกันเชื้อโรคเลยค่ะ แต่เป็นการเพิ่มความอับชื้น ทำให้อากาศไม่ถ่ายเท ควรใส่แต่ในช่วงที่มีตกขาวและช่วงประจำเดือนใกล้หมด และในช่วงมีประจำเดือนควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2 ชั่วโมงเพราะป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอดค่ะ
7. สวนล้าง
สะอาดไปก็ไม่ใช่ว่าจะดี การสวนล้างน้องหนูเพื่อต้องการให้สะอาดทุกซอกทุกมุม ไม่ใช่เลยค่ะ การสวนล้างทำให้ช่องคลอดเป็นด่างเกินไป แบคทีเรียที่สร้างกลิ่นจะสูงขึ้น และลดแบคทีเรียแลคโตบาซิลัสที่เป็นตัวคลีนช่องคลอดไป ทางที่ดีควรล้างอย่างพอควรเพื่อรักษาสมดุล และให้ระบบทำงานได้เต็มที่
ทำตามนี้รับรองว่ากลิ่นหายสลายหมด น้องหนูสดชื่นแน่นอนค่ะ ของรักของหวงแม่ให้มาต้องดูแลรักษาให้ดีค่ะ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของตัวเองนะคะ