สวัสดีค่ะสาวๆ เจอกันในรีวิวช่วงนี้คงหนีไม่พ้นกับวิกฤตอากาศร้อนนนนเช่นเคยค่ะ อย่างที่รู้กันค่ะ ว่านอกจากสภาพอากาศร้อนชื้นอบอ้าวจะทำให้เราไม่สบายตัวแล้ว ยังเป็นตัวการที่ทำให้สิ่งสกปรกเชื้อโรคต่างๆหมักหมม เจริญเติบโตเร็วที่สุดเลยค่ะ ลองนึกสภาพอากาศร้อนๆหนืดๆเหนียวๆ โบกเมคอัพ รองพื้น กันแดด สเปรย์น้ำแร่ เหงื่อไคล มันๆหนึบๆ เจอฝุ่นเจอควัน อย่าให้ต้องเอากล้องส่องค่ะว่ามีอะไรอยู่บนหน้าบ้าง!
วันนี้เฟียร์ซเลยจะมาทดสอบการล้างหน้าแบบสะอาดหมดจด ล้ำลึกด้วยเครื่อง Clarisonics รุ่น Aria ที่เพิ่งได้มาให้ดูค่ะ เค้าว่ากันว่า ผิวที่ดีต้องเริ่มจากการล้างหน้า แน่นอนค่ะเราแต่งหน้าทาครีมทุกวัน ไม่เอาของเก่าออกให้หมดแล้วก็โบกของใหม่ทับลงไป แล้วพวกบรรดาปัญหาสิวอุดตัน ผิวหยาบกร้านและริ้วรอยมันจะไม่ถามหาได้ยังไง?!
สำหรับใครที่เพิ่งเคยได้ยินถึงเจ้าเครื่อง Clarisonic นี้นะคะ นางเป็นแบรนด์ที่ผลิตเครื่องล้างหน้าจากอเมริกาที่โด่งดังมานานกว่าสิบปี ได้รับการไว้วางใจจากคนในวงการมากมาย เอาเป็นว่าถ้าพูดถึงเครื่องล้างหน้าขึ้นมาคนที่นั่นจะนึกถึง Clarisonic ทันที!
ปลายสายชาร์จ USB สามารถเสียบชาร์จกับโน้ตบุคได้ด้วยค่ะ
นอกจากชื่อเสียงที่โด่งดัง คุณสมบัติของนางก็ปังเว่อร์มากค่ะ เพราะเจ้า Clarisonic ตัวนี้สามารถทำความสะอาดผิวหน้าเราได้ล้ำลึกกว่าใช้มือเปล่าล้างแบบปกติถึง 6 เท่า! แต่สัมผัสนุ่มและเบาที่สุดในบรรดาแปรงล้างหน้าทั้งหมดที่มีมา นางทำงานโดยการส่ายเบาๆประมาณ 7 องศาแต่ถี่ถึง 300 ครั้งต่อวินาที! ที่สำคัญคือหัวแปรงนุ่มแบบสุดๆ และยังป้องกันแบคทีเรียในตัว ไม่ต้องกลัวเชื้อโรคหมักหมม เรียกได้ว่าถ้าอยากได้ความสะอาดล้ำลึกเบอร์เดียวกันแต่ใช้มือล้างจะต้องใช้เวลาและสัมผัสผิวหน้ารุนแรงกว่ากันหลายเท่าตัวเลยค่ะ ในขณะที่ใช้เจ้า Clarisonic ใช้เวลาแค่ 1 นาทีทุกอย่างก็กลับมาดีดังเดิม!
ภาพทดสอบของสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนผิวโดยการล้างหน้าแบบใช้มือเปล่า (ซ้าย) และล้างด้วยเครื่อง Clarisonic (ขวา)
ว่าแล้วเราก็มาดูการทดสอบกันสักนิดค่ะ เล่ามาถึงขนาดนี้ถ้าไม่ลองล้างให้ดูนี่คงเลิกคบกันได้เลยอ่ะ 555 มาดูกันค่ะว่าง่าย เร็ว และสะอาดกว่ายังไง จะเริ่มทดสอบโดยการใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์เช็ดก่อนนะคะ
สิ่งที่อยู่บนหน้ามี สกินแคร์ ครีมกันแดด เครื่องสำอาง (มาสคาร่า อายไลน์เนอร์ อายแชโดว์ ลิปสติก)
และแน่นอนเหงื่อค่ะ
ร่องรอยของการเช็คทำความสะอาดผิวหน้าแบบปกติค่ะ
สำลีแผ่นที่ 1 เช็ดมาสคาร่า อายไลน์เนอร์ อายแชโดว์ และรองพื้น
สำลีแผ่นที่ 2 รองพื้นส่วนที่เหลือและ ลิปสติก
สำลีแผ่นที่ 3 คราบรองพื้นที่ยังหลงเหลือและคราบอายแชโดว์นิดหน่อยค่ะ
ซึ่งเช็ดไปสามแผ่นแลดูเหมือนจะสะอาดหมดจดแล้วใช่มั้ยคะ เรามาลองล้างด้วยเครื่อง Clarisonic Aria ดูค่ะ
ลองล้างด้วยเครื่อง Clarisonic เป็นเวลา 1 นาที ตัวเครื่องนี่กันน้ำนะคะ สามารถล้างน้ำได้เลย จะมือเปียก จะฟองฟ่อดแค่ไหนก็ใช้ได้สบายมาก และจุดเด่นของรุ่น Aria นี้คือจะปรับความเร็วได้ถึง 3 ระดับค่ะ
ตัวเครื่องมีระบบจับเวลาอัตโนมัติค่ะ เพราะเครื่อง Clarisonic นี้ใช้เวลาเพียงแค่ 60 วินาทีก็เพียงพอสำหรับความสะอาดล้ำลึกเบอร์เต็ม โดยทุกๆ 20 วินาที เครื่องจะร้องเตือนว่าให้ขยับไปล้างบริเวณอื่นได้แล้ว พอผ่านไป อีก 20 วิ ก็ร้องเตือนอีกครั้งเพื่อให้เปลี่ยนบริเวณ โดยเราเริ่มล้างจากหน้าผาก 20 วิ จมูกลงมาคางอีก 20 วิ จากนั้นแก้มซ้ายและแก้มขวาข้างละ 10 วิ เป็นอันเสร็จค่ะ
เรามาดูคราบสกปรกที่เจ้า Clarisonic Aria เครื่องนี้ดึงออกมากันค่ะ
จากสำลีแผ่นสุดท้ายที่เรานึกว่าสะอาดแล้ว พอลองล้างด้วยเครื่อง Clarisonic แล้วจะเห็นว่ายังมีสิ่งสกปรกหลุดออกมาเพียบบบ!! ถ้าเห็นไม่ชัดให้สังเกตขอบเครื่องนั่นคือสีขาว ส่วนตัวหัวแปรงตอนนี้ได้มีความเทาและมีสีรองพื้นครีมๆเหลืองๆติดออกมาเพียบค่ะ!
จากนั้นก็ล้างหัวแปรงได้เลยค่ะ
สีของหัวแปรงหลังจากใช้งาน กลับมาขาวสะอาดเหมือนใหม่ดังเดิมค่ะ
สัมผัสที่ได้หลังจากใช้เครื่อง Clarisonic คือ ผิวนุ่มลื่นตื่นฟูขึ้นมาทันที ตอนที่ทดลองครั้งแรก กรี๊ดมากเพราะเครื่องอะไรทำไมเนรมิตให้ผิวดีขึ้นทันตาเห็น สรุปว่าที่รู้สึกว่านุ่มๆนั่นคือ ผิวที่แท้จริงของตัวเราเองค่ะ ที่รู้ว่าว่านุ่มลื่นก็เพราะว่ามันชะล้างสารเคลือบผิวต่างๆออกไปหมดแล้ว เราจึงได้เจอกับผิวจริงๆของตัวเอง! นั่นคือความรู้สึกจากการใช้ครั้งแรกนะคะ ซึ่งแน่นอน เมื่อใช้มาเป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็มสังเกตได้เลยค่ะว่า ผิวเรียบเนียนและนุ่มลื่นขึ้น แน่นขึ้น เพราะเมื่อผิวสะอาดก็พร้อมที่จะรับการบำรุงอย่างเต็มที่ มีสกินแคร์ตัวไหนก็ใช้ดีหมดค่ะ เพราะผิวซึมแล้วตื่นตัว และที่ยิ่งเลิฟก็คือ เมื่อผิวดีทั้งรองพื้นทั้งเมคอัพก็ติดแน่นทนนาน และแล้วเจ้า Clarisonic เครื่องนี้ก็ได้กลายเป็น must-have ประจำบ้านเป็นที่เรียบร้อยค่ะ
อ้อ! ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของเครื่องนี้นะคะ คือนางมาพร้อมแท่นชาร์จและสายชาร์จอัจฉริยะ เพียงแค่แตะก็สามารถชาร์จไฟเข้าเครื่องได้โดยไม่ต้องเสียบกับตัวแปรง! ส่วนปลายอีกด้วยเป็นหัว USB จะเสียบหัวอะไร ประเทศไหนก็ชาร์จได้ทั้งนั้นค่ะ!!
มาถึงตรงนี้กันแล้วแน่นอนสาวๆต้องอยากรู้ค่าตัวของนางกันแล้วใช่มั้ยค่ะ ราคาเครื่องนี้อยู่ที่ 8,300 บาทค่ะ หาซื้อได้ที่ Sephora ทุกสาขาเลยค่ะ ได้ยินราคาแล้วอย่าเพิ่งตกใจไปเพราะนางมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 3 ปี! นั่นเท่ากับเราสามารถล้างได้ถึง 2 พันกว่าครั้ง เฉลี่ยวันนีงไม่ถึง 8 บาท!! (หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองสุดฤทธิ์! 555)
ข่าวดีค่ะ! ตอนนี้ทาง Clarisonic จัดโปรโมชั่นพิเศษ ระหว่างวันที่ 12 – 25 พฤษภาคม ศกนี้ ที่ Sephora ทุกสาขา
- สำหรับแปรงทำความสะอาดผิวรุ่น ARIA (รุ่นที่รีวิวนี้เลยค่ะ) และ Sonic Radiance รับส่วนลด 15%!!
- รับผลิตภัณฑ์ Skin Illuminating Cleanser 30 มล. และผ้าขนหนู มูลค่ารวม 800 บาท ทันทีเมื่อซื้อแปรงทำความสะอาดผิวทุกรุ่น
สุดท้ายนี้อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้ฟาด อย่าทำให้ตัวเองพลาดจนกว่าจะได้ลองค่ะ! ครั้งหน้ามีอะไรมารีวิวให้ดูกันอีกโปรดติดตามค่า
ข้อมูลเพิ่มเติม:
https://www.facebook.com/ClarisonicTH/