ถ้าพูดถึง Siam Discovery เชื่อเถอะค่ะว่า ห้างนี้มีอยู่ในความทรงจำของทุกๆคนแน่ๆ!! ไม่ว่าจะเป็น ทางเชื่อมที่มั่นใจมากว่าทุกคนต้องมีรูปช็อตนี้ ร้าน Loft ที่เทศกาลใดๆเราต้องมา โรงหนัง EGV โรงหนังที่ตอนนั้นทันสมัยมาก รวมไปถึงร้านค้าดีไซน์เริ่ดๆอีกหลายร้าน พูดได้ว่า Siam Discovery เป็นอีกห้างที่โตมาพร้อมๆกับเราเลยค่ะ หลังจากที่ปิดแปลงโฉมไป เฟียร์ซก็ตั้งหน้าตั้งตารอเลยค่ะ ปูเสื่อรอรัวๆๆ ครั้งนี้ Siam Discovery โฉมใหม่ จะไฉไลกว่าเดิมแค่ไหน ตามเฟียร์ซมาดูพร้อมกันเลยค่าา
เริ่มจากด้านนอก ดูอลังใช่ไหมคะ? ก็ Siam Discovery นี่คะ เคยธรรมดาที่ไหน!! งานแปลงโฉมนี้ใช้งบถึง 4,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร และได้ Oki Sato จาก Nendo มาเป็นที่ปรึกษาในการปรับโฉมครั้งนี้ด้วยค่ะ หนุ่มคนนี้บอกเลยว่างานชุมมาก แบรนด์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลก Tag Heuer, Kenzo, Toshiba ก็เพิ่งร่วมงานกับเค้าไปค่ะ เพราะเค้ามีพลังในการเปลี่ยนของให้เต็มไปด้วยไอเดียและลูกเล่นค่ะ สามารถเปลี่ยนของธรรมดาให้เป็นของที่น่าสนใจได้อย่างอัศจรรย์ Siam Discovery ไม่ได้มาเล่นๆจริงๆค่ะ ว่าแล้วก็เข้าไปข้างในกันเลยค่าาา
เริ่มก็เหมือนจะมาถูกที่แล้วค่ะ 555 มีหนุ่มฝรั่งหน้าตาดี มาคอยต้อนรับอยู่หน้าประตูค่ะ
มุมนี้เฟียร์ซว่า ดูฮิปมากๆ ใช้สีขาวดำได้ลงตัวจริงๆ
เงยหน้าขึ้นไปคือดีงาม ตกแต่งอลังเว่อร์! ในรูปเป็นท่อนเหล็กที่นำมาตกแต่งให้เกิดลวดลาย จนกลายเป็นงานศิลปะดีๆ 1 ชิ้นเลยค่ะ
ชั้น G เรียกว่า Her Lab
ชั้น G ชั้นแรกที่เราเข้ามานั้น จะเรียกว่า Her Lab ค่ะ เป็นสวรรค์ของสาวๆเลยก็ว่าได้!! เพราะนำเสนอแฟชั่นล้ำเทรนด์ รวมสารพัดแบรนด์เสื้อผ้า รองเท้า หมวก แว่นตา และบริการสุดพิเศษสำหรับสาวๆโดยเฉพาะ มาเสิร์ฟให้ในชั้นเดียว นอกจากนั้นยังมีแบรนด์ที่สาวๆเห็นแล้วต้องกรี๊ดสลบ จะมีแบรนด์ไหนบ้าง เฟียร์ซเอามาฝากแล้วค่ะ
ภาพบรรยากาศ ชั้น G หรือ Her Lab ไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะ ความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้างอนาคตอะไรแบบนั้นเลยค่ะ
ในภาพเป็นแบรนด์ Discort by Yohji Yamamoto ค่ะ เป็น Exclusive Accessories จากดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น ที่มีแค่ที่ Siam Discovery ที่เดียว
การจัดวางเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ดูเป็นเอกลักษณ์มาเลยค่ะ ข้อดีของการเดินช้อปปิ้งแบบนี้คือ ไม่ต้องเดินไปหลายๆชั้นเลยค่ะ มาชั้นเดียวอยู่ แบรนด์ที่น่าลองแวะไปชมนะคะ มี See by Chloe, Diadora Heritage, Merimekko ค่ะ
Comme des Garcons แฟล็กชิปสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
แว่นตา หลากหลายแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ก็มีรวมมาไว้ให้ที่นี่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Rayban, Super, Gentle Monster, Michael Kors หรือ Prada
ห้องลองเสื้อผ้าค่ะ แบ่งเป็นหลายๆห้อง กระจกรอบทิศขนาดนี้ไม่ต้องกลัวว่าชุดจะไม่เป๊ะเลยค่ะ ความรู้สึกเหมือนเอลซ่ากำลังกลับวังค่ะ ตกแต่งเริ่ดมาก
แล้วที่พิเศษกว่าที่ไหน ที่นี่เค้ามี Personal Stylist Room ด้วยนะคะ ประสบการณ์สุดล้ำในแบบ Personalized ด้วยบริการพิเศษที่ครบครัน จัดเตรียมไว้ให้ในห้อง Dressing Room ส่วนตัวค่ะ
คุณสไตล์ลิสท์ที่นี่สแตนบายรอให้ปรึกษาเรื่องเสื้อผ้า มิกซ์แอนด์แมทช์ได้แซ่บสุดใจ ใครจะใช้ห้องนี้ต้องเป็นสมาชิกบัตร Viz Card ก่อนนะคะ เพื่อนๆคนไหนยังไม่ได้เป็นสมาชิก ก็สมัคร Viz Card ง่ายๆค่ะ แค่ Download App Siam Discovery และกรอกข้อมูลเท่านั้นเองค่ะ ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการห้องนี้ 3,000 บาท และต้องจองล่วงหน้า 7 วัน ที่เบอร์นี้ 02-658-0445 เพราะคิวเค้ายาวจริงๆค่ะ
ชั้น M เรียกว่า His Lab
ชั้นนี้เป็นชั้นของหนุ่มๆค่ะ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของหนุ่มจริงๆ ใครว่าหนุ่มๆจะสนุกกับการแต่งตัวไม่ได้ ขอให้ลองมาชั้นนี้ค่ะ เพราะไม่ว่าจะอยากได้ลุคคุณชายออกงาน ลุคเซอร์ๆเท่ๆหรือลุคมีเสน่ห์มาดขรึม สำหรับออกเดทล่ะก็ รวบรวมมาไว้หมดแล้วค่ะ
อย่างหล่อค่ะ โซนนี้สำหรับหนุ่มๆที่กำลังมองชุดออกงานค่ะ
โซนรองเท้าและกระเป๋าค่ะ มีหลายแบบให้เลือก ดูการจัดวางซิคะ ออกแบบได้เก๋มาก
เห็นไฟที่เหมือนดาวนั่นไหมคะ? ตรงนี้เป็นไฮไลท์เลยค่ะ ตามเฟียร์ซไปดูใกล้กันๆ
โซนนี้คือ Skin Lab ค่ะ เหมือนอยู่ในห้วงอวกาศเลยว่าไหมคะ? Skin Lab โซนนี้รวบรวมผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวค่ะ ของผู้ชายของผู้หญิงมีหมดค่ะ มีแบรนด์ให้เลือกเยอะมากกกกก ตกแต่งไว้ได้สวยงาม เวอวัง ดาวล้านดวงมาก!! ทำให้รู้สึกอยากใช้ผลิตภัณฑ์ขึ้นมาทันทีเลยคร่าาา
ด้านหลัง Skin Lab มีร้านที่หนุ่มๆต้องชอบแน่ๆ ร้านตัดผม Barberford Noir นั่นเองค่ะ เพราะหนุ่มๆต้องตัดผมทุกเดือนอยู่แล้ว
อยากเสริมหล่อ จัดเลยค่ะ! ราคาน่าคบ สบายกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 800 บาทค่ะ
มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ของชั้นนี้ โซนนี้เรียกว่า Social Discovery ค่ะ ใครอยากมีนิทรรศการศิลปะเป็นของตัวเอง แนะนำให้ลองมาเล่นที่นี่ค่ะ My Social Discovery นั้นเป็นงานศิลปะสุดไฮเทคจาก Black Egg ทีมนักออกแบบระดับโลกจากมหานครนิวยอร์ค เพียงแค่พิมพ์ชื่อ IG ของเรา (ต้องเปิดสาธารณะนะคะ) ก็เริ่มนิทรรศการของเราได้เลยค่ะ
ระบบจะนำภาพจาก IG เราแล้วโชว์รูป แคปชั่น และอีโมจิที่ใช้บ่อยๆ ไปโชว์อยู่ในกำแพงที่ทำเป็นทีวีเป็นทางยาว ให้ความรู้สึกเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางนิทรรศการภาพถ่ายของตัวเองไม่มีผิด คือดีงามมากกกกก!!
ซูมชัดๆ นี่ค่ะเรื่องราวชีวิตเพียร์ซ 555 ใช้เวลาในการเล่น 1 คน ต่อ 1 นาที เท่านั้น!! อย่าลืมมาลองมาเล่นกันดูนะคะ แต่เพื่อนๆไม่ต้องกลัวใครมารู้ลึกเรื่องของเรานะ เค้าให้เข้าเป็นรอบๆค่ะ รอบใครรอบมัน
ชั้น 1 เรียกว่า Street Lab
ใครที่ชื่นชอบแนวสตรีทเชิญที่ชั้นนี้เลยค่ะ เพราะชั้นนี้รวบรวมเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าสนีกเกอร์ แนวสตรีทมาหมด รุ่นหายากทั้งหลาย เฟียร์ซแอบกระซิบว่าให้ลองมาหาที่นี่ดูค่ะ เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่รวมแบรนด์สุดฮิตนะคะ แต่ยังรวมรุ่น Exclusive ไว้อีกด้วย ส่วนใครที่สาวกยีนส์ ชั้นนี้เค้าก็มีแบรนด์ยีนส์จากทั่วโลกมาให้เลือกกันถึงที่เลยค่ะ บอกเลยว่างานนี้มีฟินค่ะ
เสื้อแจ็คเก็ตต้องมาดูโซนนี้เลย มีให้เลือกทั้งแบบผ้าร่ม และแบบหนังค่ะ
สายเดนิมคะ มีคนเรียกค่ะ 555 เนคไท กางเกง เสื้อยีนส์ และไอเทมที่มิกซ์แอนด์แมตซ์กับยีนส์ได้แซ่บเว่อร์ อยู่ตรงนี้แล้วค่ะ
อีกซักมุม กับโซนเดนิม มีทั้งแบบขาเดฟ ขากระบอก ยีนส์ฟอก ยีนส์ขาด จัดเต็มค่ะ
Kojima Jeans ก็มีนะคะ แบรนด์ยีนส์ดังสุดฮิตจากญี่ปุ่น งานเนี๊ยบ งานดีมากค่ะ
ดูการจัดวางแว่นตาซิ!! ล้ำมากกก ดูโล่งตาดีนะคะ เหมือนอยู่ใน Art Gallery เลย
โซนขายกระเป๋าและรองเท้าที่จัดว่าออกแบบได้เด่นและน่าจดจำมากๆค่ะ รองเท้าแบรนด์ดังครบเครื่องมาก ทั้ง Converse, Vans, Onitsuka tiger, Palladium, Asics และอีกมากมาย
Flagship store ของ Converse ค่ะ รองเท้ามีครบ full line เลยนะคะภายในร้านยังมีกราฟฟิกตกแต่งร้านเป็นพิเศษ โดย Alex Face ศิลปิน กราฟิตี้ เจ้าของงานคาแร็คเตอร์เด็กน้อยสามตาหน้าบึ้งอีกด้วยค่ะ
Adidas คอนเซ็ปท์สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บอกเลยว่าที่นี่ร้านใหญ่ กว้างสุดลูกหูลูกตา
เดินมาเหนื่อยๆ มาแวะพักกินน้ำกันหน่อยค่ะ ร้านนี้คือ ร้าน Boost ร้านน้ำผลไม้ปั่นสดๆ รับรองชื่นใจแน่นอนค่า
ข้างๆกัน ร้าน Dressed เป็นร้านขายสลัดค่ะ ข้างหลังร้านจะมีที่นั่งด้วย นั่งทานพักเหนื่อย ชิลๆ ได้เลยค่ะ
ชั้น 2 เรียกว่า Digital Lab
ใครชอบของล้ำสมัย นำเทรนด์ ยุคดิจิตอล มาชั้นนี้ไม่ผิดหวังค่ะ ชั้นนี้เป็นสินค้าแนว IT พวก Gadgets ต่างๆ เช่น หูฟัง กล้อง และอุปกรณ์เสริมของสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ที่สำคัญชั้นนี้มี Loft ค่ะ ที่กลับมาครั้งนี้ยิ่งใหญ่ ไฉไลกว่าเดิม จะเป็นยังไง ไปตามดูกันต่อค่าา
หูฟังหลากหลายแบรนด์ สามารถทดลองฟังได้ อุปกรณ์เสริมของ iPhone, iPad, Apple Watch เห็นแล้วกรี๊ดลั่นหลายตัวเลย ดีไซน์สวยๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ
ดีไซน์ การจัดวางของ เฟียร์ซชอบมากค่ะ ดูเรียบๆ โล่งๆ สบายตา
กล้องโพลารอยด์ค่ะ ถ่ายรูปออกมาดูคลาสสิคดี ว่าไหมคะ?
ไฮไลท์ที่สุดของชั้นนี้ ร้าน Loft มาในลุคใหม่ ดีไซน์สีดำเหลือง ดูทันสมัยมาก
ร้าน Loft ที่นี่ ใหญ่ที่สุดแล้วค่ะ!! กลับมาครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ของดีไซน์เก๋ เครื่องเขียน ของจุกจิก ต่างๆเพียบ เดินกันให้หายคิดถึงเลยค่ะ มีตู้กดอัดรูปจาก Fujifilm สามารถอัดภาพจาก memory card หรือ smartphone โดยตรงได้อีกด้วย
ว่าแล้ว ก็ขอหยิบของล้ำๆในร้าน Loft มาให้เพื่อนๆดูซักหน่อย ในรูปเป็นแปรงสีฟันนาโนค่ะ แปรงได้โดยไม่ต้องใช้ยาสีฟัน สามารถใช้งานได้ 1 เดือน คือเพิ่งจะรู้ว่าเดี๋ยวนี้แปรงล้ำขนาดไม่ต้องใช้ยาสีฟันแล้ว
อาจจะมองเป็นแค่หวีธรรมดา แต่เค้าบอกว่า ถ้าได้ลองหวีจะสัมผัสได้เลยว่าหน้าเรียวเล็กลงภายใน 2 นาที
Starbucks ร้านใหญ่มากๆ ตกแต่งได้น่านั่งสุดๆ
มีเครื่องชงกาแฟ Siphon ตัวใหม่ล่าสุดในไทยมาชงให้ดูสดๆด้วยนะคะ
บรรยากาศภายในร้านค่ะ สไตล์ Earth Tone ดูแล้วน่านั่งชิลมาก
ปิดท้ายกับชั้นนี้ด้วย Samsung Gear VR 4D Theater บอกเลยว่าสนุกมากกกกก ใครที่ไม่กล้าเล่นรถไฟเหาะเชิญเลยค่าาา เพราะงานนี้เค้าใช้เครื่องที่จำลองภาพแบบ 4D ให้คุณได้สนุกสุดเหวี่ยง เพิ่มความเสียว ความตื่นเต้น ประหนึ่งว่านั่งอยู่บนรถไฟเหาะของจริงค่ะ ที่สำคัญเล่นฟรีไม่เสียเงินนะคะ
หรือถ้าใครอยากจะซื้อไว้ใช้ที่บ้าน ดูหนัง ฟังเพลง ก็ได้ค่ะ เครื่องละ 3,500 บาท
ชั้น 3 เรียกว่า Creative Lab
ชั้นนี้เป็นชั้นที่มอบแรงบันดาลใจ และกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบค่ะ ใครที่กำลังมองหาไอเดียใหม่ๆ หรือมองหาของตกแต่งบ้านแบบมัลติแบรนด์โฮมเดคอเรทีฟสโตร์ มาที่นี่จบเลยค่ะ มีทั้ง Hay, Jonathan Adler, Tom Dixon และอื่นๆอีกมากมาย
ODS เป็น Show Case ของไทยดีไซเนอร์กว่า 160 แบรนด์ที่ได้รับรางวัลจากทั่วโลกค่ะ เช่น Demark, Good Design
โซนนี้ขายพวกเครื่องหอม เทียนต่างๆค่ะ แค่ได้กลิ่นก็ผ่อนคลายแล้ว
เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านมาหมดค่ะ โซฟา หมอน โคมไฟ กรอบรูป ของตกแต่งบ้านอื่นๆ
เห็นแล้ว อยากจะจัดบ้าน ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ
จัดงานเลี้ยงน้ำชา กันไหมล่ะตัวเธอ
อุ๊ยยย!!! ชิ้นนี้น่ารักกก เฟียร์ซเองค่ะ คราวนี้มาเป็นคู่นะคะ 55
ชั้น 4 เรียกว่า Play Lab
ชั้นนี้สวรรค์ของคนไม่ชอบอยู่บ้านเลยค่ะ ชอบออกมาหา inspire ข้างนอก จะทำงาน จะนั่งเล่น จะทานข้าวทานขนม บอกเลยชั้นนี้คือที่สุดค่ะ เหมือนได้มาทำงานอดิเรกย่อมๆกันเลยทีเดียว มี Asia Book, Toy Station, Tokyobike, Co-Food Lab, Outback Steakhouse, co-working space ของ Hubba และอีกหลายร้านใหเลือกสรรค่ะ
โต๊ะนั่งพร้อมปลั๊ก ทั้งโต๊ะใหญ่ โต๊ะเตี้ย เค้าเตอร์บาร์ บันไดใหญ่ตรงกลางที่สามารถนั่งได้ทั้งหมด และยังมีทีวีขนาดยักษ์ไว้ให้ดูด้วยค่ะ เริ่ดมาก!
มุมด้านข้างทีวี ก็มีที่ให้นั่งเล่นอีกค่ะ
ส่วนนี้เรียกว่า Co-Food Lab เป็น 8 ร้านอาหารสุดเทรนด์มาตั้งเป็นสเตชั่นเป็นทางยาวค่ะ
หูยยยย!! เห็นแล้วหิวเลยค่ะ
ที่นั่งทานน้ำ ทานขนม ของ Co-Food Lab ค่ะ มี Wifi ให้ใช้ฟรีเร็วปรู๊ดปร๊าดด้วย!!
บรรยากาศรอบๆค่ะ ชั้นนี้จะมีขายทั้งเครื่องประดับ หนังสือ ดีวีดี ยันไปถึงจักรยานเลยค่ะ
มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ของชั้นนี้ค่ะ Toy Station รวมของเล่น ของสะสมจากทุกมุมโลก สำหรับเพื่อนๆที่ชอบเล่นเกมส์ ชอบดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่ หรือสะสมของเล่นต่างๆ ห้ามพลาดเลยค่ะ
ภายใน Toy Station มีของสะสมมากมาย
ฟิกเกอร์เต็มไปหมดเลยค่ะ
Bearbrick ก็มา
มีเกมส์ใหม่ล่าสุดจาก Play Station4 model ที่ดีที่สุด และ Limited Edition ด้วยนะคะ
ทางร้านว่าจะลงที่นี่ก่อนที่อื่นๆค่ะ
อีกซักหนึ่งรูป ก่อนออกจาก Toy Station ค่ะ
สุดท้ายก่อนกลับ Madame Tussauds อยู่ชั้นนี้นะคะ จัดแสดงหุ่นขึ้ผึ้งของบรรดาเซเลบริตี้และบุคคลที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับโลกค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ เหนื่อยไหมคะ!? ที่เฟียร์ซนำมาฝากในวันนี้เป็นส่วนนึงของ Siam Discovery ใหม่เท่านั้นนะคะ ยังมีอีกหลายส่วนที่อยากให้เพื่อนๆลองไปเดินดูค่ะ เพราะมันดีงามจริงๆ แต่ละชั้นจัดออกมาได้อย่างลงตัว โดยใส่ใจความชอบของเราๆเป็นหลักค่ะ ลองไปเดินดูนะคะ แล้วจะหลงรัก Siam Discovery โฉมใหม่โดยไม่รู้ตัวค่ะ