เมื่อไม่นานมานี้หลายๆคนคงจะได้ยินคนพูดถึงชื่อ Netflix กันผ่านหูมาบ้าง สำหรับคนที่เคยใช้บริการคงจะรู้กันอยู่แล้วว่า Netflix คืออะไร แต่สำหรับใครที่ไม่รู้เฟียร์ซจะอธิบายให้ฟังนะคะ ว่า Netflix คืออะไร
Photo Credit : media
Netflix คือ บริการสตรีมมิ่งที่เอาไว้รับชมรายการ ความบันเทิงต่างๆจากอเมริกาซึ่งรวบรวม รายการทีวี สารคดี ภาพยนตร์ และซีรี่ย์ไว้มากมายจากหลายประเทศ ส่วนใหญ่รายการที่ได้รับความนิยมสูงสุดจะเป็น ซีรี่ย์นี่แหละค่ะซึ่งทาง Netflix เขารับประกันว่าสามารถดูผ่านอุปกรณ์ต่างๆได้นับพันเชียวนะ สะดวกช่องทางไหนจัดเลยค่า ดูกันให้ตาแฉะไปเลย งานการไม่ต้องทำ แถมซับไทยเขายังดีงามมากๆด้วย ยิ่งดูผ่านสมาร์ททีวีจอใหญ่ยักษ์นะคุณเอ๋ยเรียกได้ว่าเป็นมิติใหม่แห่งการดูหนัง ดูซีรี่ย์อย่างแท้ทรูเลยค่า
Photo Credit : techtudo
อัตราค่าบริการมีทั้งหมด 3 ระดับ ซึ่งจะต่างกันตรงเรื่องของคุณภาพและจำนวนที่สามารถเปิดดูได้พร้อมกัน
(เลือกแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนกันได้เลยค่ะ)
Photo Credit : droidsans
แถมเขายังให้ทดลองดูฟรีเดือนแรกก่อนด้วยนะ ถ้าเราไม่สะดวกใจจะดูต่อก็สามารถยกเลิกได้ทันที ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ แต่ส่วนใหญ่จากประสบการณ์คนใกล้ตัวมักจะไม่จบภายในหนึ่งเดือนเนี่ยสิ ต้องต่อแพ็คเกจกันทั้งนั้น แหมก็ซีรี่ย์เค้าคุณภาพจริงๆหนิ นี่จึงเป็นเหตุผลที่วันนี้เฟียร์ซมาจะมาแนะนำ 7 ซี่รี่ย์เด็ด เนื้อเรื่องเข้มข้นที่จะทำให้คุณกันติดงอมแงมดูกันลากยาวแบบ Non-stop ไปเลยค่า
Photo Credit : techradar
1. 13 Reasons Why
ซีรี่ย์แนวลึกลับของวัยรุ่นที่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นแค่เรื่องของวัยรุ่นเนี่ยสิ 13 Reasons Why เป็นซีรี่ย์สะท้อนปัญหา Bullying (การกลั่นแกล้ง) ที่ระบาดค่อนข้างหนักเอาการอยู่ในสังคมอเมริกา ความพิเศษอยู่ที่ได้ Selena Gomez มาเป็น Executive Producer
Photo Credit : impawards
Photo Credit : giphy
Photo Credit : giphy, eonline, usatoday
โดยเป็นเรื่องราวของเด็กสาวนามว่า Hannah Baker นักเรียน High School เหยื่อจากการ Bullying จนตัดสินใจฟึ้ดชีวิตตัวเองในที่สุด แต่ก่อนที่เธอจะจบชีวิตนั้น เธอได้บันทึกเทปอธิบาย 13 เหตุผลว่า ทำไมเธอจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยเนื้อเรื่องนี้จะถ่ายทอดเรื่องราวและกระตุ้นต่อมเผือกของเราให้ทำงานผ่านพระเอกของเรื่อง Clay Jensen (นางละมุนจริงๆเห็นหน้าก็เขินแล้วอะ) เพื่อนของ Hannah ว่านางมีส่วนเกี่ยวข้องกับ 13 เหตุผลนั่นหรือไม่
เรียกได้ว่าเป็นซีรี่ย์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้ผู้คนรู้จัก Netflix มากขึ้นด้วย แถมยังได้รับรางวัล Show of The Year จาก MTV Movie & TV Award 2017 การันตรีความแรงอีกด้วย (เล่นเอา Selena ยิ้มหน้าบานไปเลยค่ะ)
Photo Credit : popbuzz
และไม่รอช้าเขายังตอกย้ำความแรงด้วยการปล่อย Trailer ของ Season 2 มาแล้วด้วยจ้ามีกำหนดฉายปี 2018 ใครยังไม่เคยดู ต้องจัดแบบด่วนๆก่อน Season 2 จะมานะ เฟียร์ซแนะนำว่าเป็นซีรี่ย์ที่ครบรสควรค่าแก่การดู หากคุณคิดตามไปด้วย เพราะมันเป็นเหมือนการรีเช็คตัวเองและคนในครอบครัวว่าอยู่ในสภาวะที่ทำเรื่องไม่ควรทำได้มั้ย (ฆ่าตัวตาย) หรือมีใครบางคนกำลังส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมาที่คุณรึป่าว หากใครกำลังหาซีรี่ย์ดูอยู่เฟียร์ซแนะนำเลยค่า
Video Credit : youtube
2. Riverdale
อีกหนึ่งซีรี่ย์แนวลึกลับ น่าค้นหาชวนติดตามสุดๆ ดัดแปลงมาจากการ์ตูนยอดฮิต Archie and Friends
Photo Credit : watchepisodes4, archiecomics
โดยเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในเมืองอันเงียบสงบที่มีชื่อว่า Riverdale เมื่อนักเรียนดีเด่นของเมืองอย่าง Jason Blossom ถูกฆาตกรรมอย่างปริศนาขณะไปล่องเรือกับน้องสาวฝาแฝด
Photo Credit : giphy
ขณะเดียวกันตัวเอกของเรื่องหนุ่มหล่อ Archie Andrews (พระเอกก็งานดี) ยังคงใช้ชีวิตปกติสไตล์หนุ่มอเมริกัน ที่ค้นพบตัวเองในช่วงซัมเมอร์ว่าอยากจะเข้าวงการดนตรี และไม่อยากจะเดินตามทางที่พ่อวางไว้ให้อีกต่อไป Betty Cooper หญิงสาวข้างบ้านที่หลงรัก Archie มานานแสนนานแต่ไม่กล้าบอก และยังมี Veronica Lodge นักเรียนสาวสวยที่เพิ่งย้ายมาซึ่งก็ตกหลุมรัก Archie เช่นกัน และ Cheryl Blossom ยัยตัวแสบของเมืองที่จะมาสร้างความวุ่นวายให้กับทั้งสามคน แถมเธอยังมีความลับเรื่องการตายของพี่ชายฝาแฝดของเธอปิดซ่อนไว้ โดยเนื้อเรื่องจะปูให้เราอยากรู้ว่าใครคือฆาตกรตัวจริงที่ฆ่า Jason ตัวละครทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร และความลับที่ Cheryl ปิดไว้คืออะไร ถือเป็นซี่รี่ย์ชวนติดตามอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลยนะคะ
Video Credit : youtube
3. Black Mirror
ซีรี่ย์สัญชาติอังกฤษ ที่สะท้อนภัยด้านมือของเทคโนโลยีทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและยังเกิดขึ้นไม่เกิดขึ้น แต่ใครจะรู้ว่าในอนาคตจะเป็นเช่นไร กำกับโดย Charlie Brooker มีมาแล้ว 3 Season ซึ่งจบในตอนเดียวและแต่ละตอนจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยจะดูตอนไหนก่อนก็ได้
Photo Credit : uk.newonnetflix
ซึ่งทั้ง 3 Season จะเล่าเรื่องราวความน่ากลัวและผลลัพธ์ที่จะตามมาของเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ มากเกินไปจนไม่สามารถควบคุมได้ ผุ้กำกับได้นำเสนอเรื่องราวในประเด็นต่างๆ เช่น เรื่องการใช้สังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ก การโหวตรายการเรียลลิตี้ต่างๆ การใช้ชีวิตที่ติดอยู่กับการรีวิว การอยู่ในโลกเสมือนจริง (หากนึกไม่ออกลองนึกถึงแว่น VR) ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ ซึ่งบอกเลยแต่ละตอนพีคๆทั้งนั้นออกแนวสยองขวัญและดาร์กอารมณ์สุดๆ
Photo credit : giphy
เฟียร์ซว่าเป็นซี่รี่ย์ที่คู่ควรกับโลกในปัจจุบันมากๆ รวมไปถึงผู้ที่คลั่งไคล้การใช้เทคโนโลยีเป็นชีวิตจิตใจ แนะนำว่าควรดูให้ครบทั้ง 3 ซีซั่นแล้วคุณอาจจะขยาดกับการใช้เทคโนโลยีไปช่วงหนึ่งเลยก็ได้ค่ะ
Video Credit : youtube
4. Samurai Gourmet
นึกว่าจะมีแต่ซีรี่ย์เข้มข้นๆชวนเครียด ไม่ค่ะ! สำหรับเรื่องนี้เฟียร์ซจะพาทุกคนไปปลดปล่อยอารมณ์ด้วยซีรี่ย์เกี่ยวกับอาหาร ขุนให้อ้วนกันไปเลย
Photo Credit : ovguide
Samurai Gourmet เป็นมินิซีรี่ย์ญี่ปุ่นดัดแปลงมาจากการ์ตูนมังงะ แต่ละตอนจะเป็นตอนสั้นๆประมาณเกือบ 20 นาที โดยถ่ายทอดเรื่องราวของ คุณลุงทาเคชินมนุษย์เงินเดือนวัยเกษียณ ที่ไม่รู้จะเอาเวลาไปทำอะไรแกจึงไปตะลุยทานอาหาร ตั้งแต่อาหารธรรมดาไปจนถึงอาหารหรูๆ โดยมีซามูไรเป็นสเหมือนมโนจิตอยู่ในหัวของลุงแกว่าจะตัดสินใจทำอะไร อย่างไร
บอกเลยอารมณ์ตอนดูนี่อยากจะ Stop ไว้แล้วลุกไปหาอาหารกินตอนละหลายรอบมากๆ เพราะเขาถ่ายทอดออกมาได้น่ากินสุดๆ คือไม่เห็นแค่ภาพอะแต่กลิ่นและรสชาติลอยโชยมาด้วยเลย เห็นละน้ำลายไหลสำหรับซีรี่ย์เรื่องนี้เขาไม่ได้ถ่ายทอดแค่เรื่องอาหารเท่านั้น หากคุณดูดีๆคุณจะรู้ว่าเขาได้สอดแทรกเรื่องราววัฒนธรรมในด้านต่างๆของญี่ปุ่นไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการเป็นมนุษย์เงินเดือน วิถีชีวิตคนทำงานของคนญี่ปุ่นที่ทุ่มเทให้กับงานมากๆ ใครที่่ชอบอะไรที่ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นจัดเลยค่ะ เฟียร์ซแนะนำ ดูแล้วคุณจะหิว
Video Credit : youtube
5. OKJA
มาถึงหนัง Feel Good, Drama, Sci-Fi อีกเรื่องนึ่งของ Netflix แค่ดูตัวอย่างก็รู้เลยว่าเรื่องนี้ต้องมีคนเสียน้ำตาแน่ๆ OKJA (โอคจา) กำกับโดย บง จุน โฮ (Bong Joon-Ho)
หมูบิน
Photo Credit : netflixfr, giphy
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ Mija (มิจา) เด็กหญิงผู้มีความผูกพันกับหมู OKJA ตัวอ้วนที่หน้าตาออกจะละม้ายคล้ายฮิปโป ไม่ต้องแปลกใจไปค่ะเพราะหมูตัวนี้เป็นหมูที่ถูกตัดต่อพันธุกรรม (GMOs) มาจากบริษัทอุตสาหกรรมอาหารรายใหญ่ในอเมริกา และถูกส่งมาให้เกษตรกรในหลายประเทศลองเลี้ยงเพื่อหาว่าวิธีการเลี้ยงหมูแบบใดให้เนื้อมากที่สุด และเมื่อถึงเวลาที่่ต้องส่งกลับไปแน่นอน OKJA จะต้องถูกฆ่า เมื่อเป็นเช่นนี้ Mija นางจึงยอมมิได้เลยต้องตามไปปกป้องและพาเพื่อนรักของเธอกลับมา
อย่าให้ OKJA โมโหนะ
ทำใจยากมากกับการตัดสินใจดูหนังเรื่องนี้ ไม่อยากเศร้าก็อยากสร้าง OKJA ออกมาได้น่ารักตะมุตะมิทำไมล่ะ เฟียร์ซขอบอกเลยว่าคุณจะไม่ได้เพียงความสนุกครบรสเท่านั้น แต่อีกประเด็นที่ซีรี่ย์ต้องการจะสื่่อคือ ความจริงของอุตสาหกรรมอาหารในปัจจุบัน ที่มีแนวโน้มต้องการลดต้นทุนแต่ให้ผลผลิตที่สูงขึ้นโดยหันมาใช้วิธี GMOs ถือเป็นซีรี่ย์อีกเรื่องที่สนุกชวนติดตามมากๆเลยค่ะ ส่วนเรื่องคุณภาพไม่ต้องพูดถึงเพราะ Netflix เขาทุ่มทุนสร้างถึง 50 ล้านเหรียญ
รวมทั้งยังได้นักแสดงมากฝีมือมาร่วมแสดงอย่างคับคั่ง อาทิ Tilda Swinton, Jake Gyllenhaal, Lily Collins และ Steven Yeun แถมยังเป็นหนังที่ไม่ได้เข้าฉายในโรงแต่ได้เข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2017 ด้วยนะ อยากรู้ว่าเจ๋งแค่ไหนต้องลองดูเอาเองค่ะ (ถึง OKJA จะไม่ได้เป็นซีรี่ย์แต่ความดีงามของหนังเรื่องนี้ทำให้เฟียร์ซอดไม่ได้ที่จะบอกต่อจริงๆค่ะ)
Video Credit : youtube
6. Girl Boss
ซีรี่ย์คอมเมดี้ ที่สร้างจากเรื่องจริงไม่อิงนิยาย เขียนโดย Sophia Amoruso โดยใช้ขื่อเดียวกันกับซีรี่ย์ เจ้าของแบรนด์ Nasty Gal
Photo Credit : serienguide , abebooks
Girl Boss เป็นการเล่าเรื่องช่วงชีวิตของ Sophia ในอดีต ที่ชื่นชอบการขายเสื้อผ้าสไตล์วินเทจผ่านทางเว็บไซด์ออนไลน์ ซึ่งเธอในตอนนั้นออกจะมีนิสัยแปลกๆจะเรียกว่าติสท์ก็ได้นะ และเมื่อธุรกิจของเธอขยับขยายโตขึ้นเธอจึงได้ค้นพบสัจธรรมในชีวิตอย่างหนึ่งว่าการเป็นเจ้านายคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
Photo Credit : giphy
ซีรี่ย์เรื่องนี้จะสนุกก็อยู่ตรงที่มันอิงมาจากชีวิตคนจริงๆนี่แหละค่ะ ที่เมื่อเวลาอยู่บนจอในพวกเราได้ชมกันอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องตลกขบขัน แต่หากลองคิดตามสิ่งต่างๆที่เธอต้องประสบพบเจอในตอนนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิงอายุ 20 กว่าๆเลย อีกเหตุผลที่น่าดูก็ คือได้นักแสดงสาวสวย Britt Rebertson มากความสามารถ ที่เคยฝากผลงานไว้ในซีรี่ย์ดังหลายเรื่องอย่าง The Secret Circle และ Under The Dome ถือเป็นซีรี่ย์อีกเรื่องที่น่าติดตามมากๆค่าเฟียร์ซแนะนำ
Video Credit : youtube
7. A Series of Unfortunate Events (อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย)
เป็นซีรี่ย์อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจจะดูแต่เพียงแค่เห็น Trailer ขึ้นมาตอนฟังเพลงอยู่ในยูทูปตามปกติแค่นั้น แต่เชื่อมั้ยคะแค่แวบเดียวทำให้ผู้เขียนถึงกับต้องกดหยุดเพื่อเข้าไปดูตัวอย่างฉบับเต็มกันเลยทีเดียว ซึ่งบอกได้คำเดียวมันน่าดูมาก
Photo credit : flickeringmyth,
A Series of Unfortunate Events มีชื่อไทยว่า อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย เป็นซีรี่ย์แนวผจญภัย ดราม่าแฟนตาซี สร้างมาจากหนังสือชุดขายดีสำหรับเด็กมีทั้งหมด 13 เล่ม เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว แต่ด้วยความสนุกของเนื้อหาทำให้ NetFlix ลงทุนหยิบมาทำเป็นซีรี่ย์อีกครั้งมีทั้งหมด 8 ตอน
Photo credit : wikia
A Series of Unfortunate Events เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้องสามคนจากตระกูล Baudelaire (โบดแลร์) ที่สูญเสียพ่อแม่ไปจากเหตุการณ์ไฟไหม้อย่างกระทันหัน ทั้งสามกลายเป็นเด็กกำพร้าในทันที เรื่องราวตลกร้ายต่างๆได้เริ่มขึ้นเมื่อพวกเขาต้องถูกส่งไปอยู่กับญาติห่างๆ Count Olaf (เค้าท์โอลาฟ) บุคคลที่พร้อมจะสาดสิ่งชั่วร้ายและหุบสมบัติของพวกเขาได้ทุกเมื่อ ความน่าดูของซีรี่ย์เรื่องนี้อย่างแรกเลยก็คือความงง ความแปลก บวกกับความเพี้ยนของตัวละครแต่ละตัว ที่มาคอยสร้างสีสันทำให้ซีรี่ย์เรื่องนี้ไม่ดาร์กจนเกินไป รวมถึงความน่ารักของเด็กทั้งสามโดยเฉพาะน้องคนสุดท้อง น่ารักน่าหยิกสุดๆ
Photo Credit : giphy
ใครที่เบื่อๆว่างๆไม่มีอะไรทำลองกดเข้าไปดูตัวอย่างได้นะ แต่เฟียร์ซแนะนำถ้าไม่จำเป็นอย่าดูเลยค่ะถ้าคุณไม่อยากให้เรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับคุณ
Video Credit : youtube
เป็นไงกันบ้างคะกับซีรี่ย์ทั้ง 7 เรื่อง ที่เฟียร์ซคัดมาฝากทุกคน แต่ละเรื่องชวนติดตามทั้งนั้นมีตั้งแต่ ดาร์กขั้นสุด กระตุ้นต่อมเผือก ไปจนถึงซี่รี่ย์ Feel Good น้ำตาคลอที่จะทำให้คุณอมยิ้มไปตามๆกันหลังจากดูจบ เฟียร์ซรับรองเมื่อดูจบทุกเรื่องนอกจากคุณจะรับอรรถรสอย่างเต็มอิ่มแล้ว หากคุณคิดตามขณะดูคุณจะได้แง่คิด Inspiration ดีๆมากมาย จากซีรี่ย์เหล่านี้ไปปรับใช้กับชีวิตอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ดูแล้วสามารถมาเม้าส์มอยกันได้นะคะ พวกเราคอเดียวกันอยู่แล้ว แต่ใครที่ยังไม่ดูอย่ารอช้าค่ะ ต้องจัดเดี๋ยวนี้เลย ขอย้ำ!