สาวกบิวตี้ไอเท็มไปเที่ยวต่างประเทศทั้งที ก็ต้องช้อปปิ้งไอเท็มเด็ดๆ กลับมาลองใช้บ้าง ที่จริงในไทยก็มีผลิตภัณฑ์มากมายจากทั่วโลกให้ลองใช้กันอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีบางแบรนด์ที่ยังไม่เข้าไทย แหม ไปเที่ยวทั้งทีควรจะซื้อของเป็นที่ระลึกกลับมาหน่อยจริงมั้ยคะ วันนี้เฟียร์ซจึงได้รวบรวมแบรนด์สกินแคร์และเมคอัพเด่นของแต่ละประเทศมาฝาก มาดูกันสิว่าไปเที่ยวที่ไหนควรจะช้อปอะไร งานนี้ขาช้อปฟินแน่นอน ไปดูกันเลยค่าาา
1. อังกฤษ
♦ Charlotte Tilbury ♦
ถ้าได้เหยียบดินแดนบ้านเกิดของแม่ชาลอตต์ ก็ต้องซื้อแบรนด์ Charlotte Tilbury แบรนด์ที่ทำอะไรออกมาขายก็เริ่ดไปหมด ด้วยความหาซื้อยากเป็นแรร์ไอเท็ม ทำให้สาวไทยเลิฟมากเช่นกัน ไอเท็มขายดีของแบรนด์ ได้แก่ Charlotte’s Magic Cream, Face Palette, Filmstar Bronze & Glow, Cheek to Chic, Bar of Gold Palette, พาเลทอายแชโดว์ และลิปสติกต่างๆ ใครยังไม่เคยมีจัดไปเลยค่ะ แบรนด์นี้เน้นไฮไลท์ปังๆ ลิปสติกสีนัวๆ มีความละมุน และเมจิกครีมคือดีงามมาก ไปอังกฤษแล้วห้ามพลาดค่ะ
♦ Iconic London ♦
แบรนด์เมคอัพสุดแซ่บจากลอนดอน ไอเท็มที่โด่งดังมากๆ ก็คือ Illuminator เรื่องความโกลว ความฉ่ำต้องยกให้เขาเลยค่ะ อะไรก็ตามที่เป็นชิมเมอร์ก็จะสวยลืม อายแชโดว์แบบฝุ่น/แบบครีม ไฮไลท์ก็ดีงาม ไอเท็มที่ต้องมีเลยก็คือ Illuminator, Prep-Set-Glow, Body Illuminator, Lip Plumping Gloss, Sheer Blush พวกงานโกลวๆ ฉ่ำๆ ต้องมี และไอเท็มออกใหม่ Brow Silk ตัวนี้ก็จะโดนใจสาวๆ ที่ชอบคิ้วตั้ง ช่วยเซ็ตขนคิ้วให้สวยเป๊ะทั้งวัน แปรงแต่งหน้าเขาก็ทำสวยนะคะ ที่สำคัญราคาไม่แรงมาก จัดมาลองได้หลายอย่างเลยค่ะ
♦ REN Skincare ♦
แบรนด์สกินแคร์ที่มีความคลีนและรักษ์โลก Made in The UK สกินแคร์หลายตัวเป็น Vegan และไม่ทำการทดลองกับสัตว์ REN กำลังพยายามจะใช้พลาสติกรีไซเคิลมาเป็นแพ็คเกจให้ได้แบบ 100% ภายในปี 2021 นี้ เห็นผลิตภัณฑ์ใสๆ ดูไร้พิษสง แต่ก็ใช้ได้ผลดี ไอเท็มหลายตัวก็ได้รับรางวัลจากบิวตี้กูรูมากมาย ไอเท็มที่อยากแนะนำก็มีไลน์ “สีส้ม” ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวด้วย AHA อ่อนๆ และให้ความโกลวกระจ่างใส และไลน์ “สีม่วงลาเวนเดอร์” จะเป็นพวก Anti-Aging ที่ขายดีติดทุกชาร์ต ใครมีโอกาสควรจัดค่ะ
2. สหรัฐอเมริกา
♦ Glossier ♦
แบรนด์เมคอัพที่สาวไทยฮือฮา พากันพรีออร์เดอร์ตามๆ กันเหมือนเป็นประเพณี มาถึงถิ่นเขาทั้งทีจะไม่ซื้อกลับไปได้ยังไง แบรนด์นี้ก็เน้นงานเมคอัพที่มีความวาวฉ่ำน้ำ และมีสกินกินแคร์บำรุงให้ดูฉ่ำมาจากภายใน เพราะงานเมคอัพที่ดูดี ย่อมมาจากผิวที่ดูดี อีกหนึ่งเหตุผลที่สาวกรัก Glossier ก็คือแพ็คเกจที่ดูเรียบๆ โทนสีพาสเทลอ่อนๆ ดูสวยใสเป็นธรรมชาติ ไอเท็มเด็ดของแบรนด์ก็คือ Balm Dotcom บาล์มแก้ปัญหาผิวที่ใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย, Futuredew ออยล์เซรั่มที่ช่วยให้ผิวดูฉ่ำมาจากภายใน, Cloud Paint บลัชออนเนื้อครีม สีสวย ให้ฟินิชแก้มดูฉ่ำๆ และติดทนนาน หรือไอเท็มงานตา+คิ้ว อย่างมาสคาร่า มาสคาร่าคิ้ว อายไลเนอร์ก็ขายดีค่ะ
♦ Bite Beauty ♦
แบรนด์นี้ทำไลน์ลิปแคร์ได้ดีมากกก ใครไม่แต่งหน้าก็ซื้อได้ค่ะ ลิปบำรุงเริ่ดจริงอะไรจริง ในส่วนของลิปสติกสีก็ทำเนื้อได้ดี เฉดสีสวย เม็ดสีชัด และยังคงให้คุณค่าบำรุง ที่นี่เน้นงานปากเท่านั้น ขายแค่อย่างเดียวก็ดังทั่วโลกได้ แปลว่า Bite Beauty คือผู้เชี่ยวชาญเรื่องริมฝีปากตัวจริง ใครไปสหรัฐอเมริกาอย่าลืมแวะ Lip Lab By Bite ช็อปที่ให้สาวๆ ได้ผสมลิปสติกเอง สามารถเลือกสี เลือกฟินิช และเลือกกลิ่นลิปสติกได้เองหมด โอ้ยเริ่ดดด สิ่งที่จะแนะนำให้ซื้อก็คือ ลิปบาล์ม ลิปบำรุง และลิปสครับ มีขายที่ Sephora ผ่านสาขาไหนก็แวะได้ ส่วนงานลิปสติกสีก็เลือกได้ตามอัธยาศัย หรือจะจองคิวแล้วเข้าไปผสมเองก็เริ่ดค่ะ Lip Lab มีที่ New York, San Francisco, Los Angeles และ Toronto นะคะ
♦ Tatcha ♦
อีกหนึ่งแบรนด์ที่มีแต่ของดี ถ้างบประมาณถึง! Tatcha เป็นแบรนด์ระดับ Luxury เป็นแบรนด์ลูกครึ่งระหว่างอเมริกากับญี่ปุ่น ใช้ศาสตร์ความงามแบบเอเชียมาบวกกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยของอเมริกา ทำให้ผลิตภัณฑ์ออกมาแซ่บมากกก คือบิวตี้บล็อกเกอร์ฝั่งอเมริกาทุกคนต้องมี ไปถึงถิ่นเขาแล้ว เราก็ต้องมีด้วยค่ะ Tatcha มีขายใน Sephora หาซื้อได้ไม่ยาก ไอเท็มแนะนำคือ The Silk Canvas เป็นไพรเมอร์ที่จะทำให้ผิวนุ่มสวย เนียนเรียบ และเมคอัพติดทนนาน ส่วนสกินแคร์อื่นๆ ต้องซื้อตามปัญหาผิวของตัวเองค่ะ บอกเลยว่าของเขาแซ่บหมด จัดไปยังไงก็ฟิน!
3. อิตาลี
♦ Kiko Milano ♦
Professional Makeup ของอิตาลี ที่เน้นสีสันเมคอัพจัดจ้าน อยากฟาดสีไหนก็มีให้เลือดหมด ให้สาวๆ แต่งหน้าได้อย่างสนุกสนานและไร้ขีดจำกัด เป็นแบรนด์อิตาลีที่น่าโดนมากค่ะ นอกจากนี้เขาก็มีสกินแคร์ให้ได้เลือกใช้กันอีกด้วย ไอเท็มเด็ดที่น่าโดน ได้แก่ Matte Face Base, Invisible Touch Face Fixing Powder, 3D Hydra Lipgloss, Shade Fusion Trio Blush บลัชออนที่สีเนียนกลมกลืนไปกับผิวได้ดี และอายแชโดว์สีต่างๆ พิกเมนท์ดีงาม สีชัดจัดเต็มค่ะ ใครไปอิตาลีอย่าลืมแวะดูนะคะ
♦ PUPA Milano ♦
แบรนด์เครื่องสำอางที่ขอยอมรับเลยว่าซื้อเพราะแพ็คเกจค่าาา แต่พอได้ใช้ผลิตคภัณฑ์แล้วก็ยิ่งหลงรักไปอีก เครื่องสำอางเขาก็แซ่บไม่แพ้แพ็คเกจ คอลเลคชั่นล่าสุด PUPA ออกแบบมาเป็นรูปน้องวาฬน่ารักสุดๆ และคอลเลคชั่นก่อนหน้านี้ก็รูปน้องนก อันนั้นก็น่ารัก ใครอยากหาของขวัญที่เป็นเมคอัพแบบน่ารักๆ ต้องจัดค่าาา
4. ฝรั่งเศส
♦ NUXE ♦
แบรนด์ NUXE เป็นแบรนด์ที่ดังมากในฝรั่งเศส ซึ่งยังไม่ขายไทย ไอเท็มเด็ดของแบรนด์เลยก็คือออยล์บำรุงผิว แถบยุโรปอากาศเย็นผิวก็จะแห้งได้ง่าย จึงต้องใช้ออยล์ค่ะ อันนี้ก็แนะนำสำหรับสาวๆ ที่ผิวแห้งถึงแห้งมาก ใครผิวไม่แห้งก็ต้องซื้อไลน์ Anti-Aging ที่เขาบอกว่าเริ่ดไม่แพ้แบรนด์ไหน พวกลิปบาล์ม แฮนครีม และมาส์กก็น่าสนใจ ใครไปฝรั่งเศสต้องจัดมาลองสักหน่อยค่ะ
♦ By Terry Paris ♦
แบรนด์เมคอัพที่ก่อตั้งโดน Terry de Gunzburg เมคอัพอาร์ทิสที่อยู่เบื้องหลังเมคอัพรันเวย์มากมาย งานเมคอัพของ By Terry เน้นงานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ สวยเหมือนไม่ได้ลงรองพื้น ริมฝีปากที่เด่นชัด และขนตาที่หนาสวยแผ่เป็นแพ ไอเท็มแนะนำเป็นงานผิวพวกรองพื้น แป้งฝุ่น บลัชออน และมาสคาร่า ใครอยากได้ผิวแบบนางแบบรันเวย์ต้องจัดค่ะ
5. เยอรมันนี
♦ Dr. Hauschka ♦
แบรนด์เวชสำอางที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติมาสกัด เคล็ดลับผิวสวยใสของดาราฮอลลีวูด ใช้แล้วผิวดี สวยใส แข็งแรงมาจากภายใน ช่วยปรับสมดุลให้ผิวที่แพ้และระคายเคืองได้ง่าย สำหรับแบรนด์นี้อยากให้สาวๆ เลือกผลิตภัณฑ์ตามปัญหาผิวของตัวเอง แต่ถ้าจะซื้อเป็นของฝากแนะนำเป็นผลิตภัณฑ์อาบน้ำ และผลิตภัณฑ์ผม ที่น่าสนใจไม่แพ้สกินแคร์ งานเมคอัพเขาก็มีนะคะ ใครชอบเครื่องสำอางโดนแน่ค่าาา
♦ Royal Fern ♦
อีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจ ใครไปเยอรมันอยากให้ลอง เป็นแบรนด์ที่คิดค้นโดยแพทย์ผิวหนัง ช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรง ลดการแพ้และระคายเคือง สู่ผิวสวยอ่อนเยาว์ นอกจากสกินแคร์แล้ว Royal Fern ก็มีแฮร์แคร์อีกด้วย ไอเท็มแนะนำก็มี Phytoactive Serum, Phytoactive Anti-Aging Cream และ Phytoactive Illuminating Ampoules ที่แซ่บเว่อร์ ใครอยากลองแบรนด์ใหม่ๆ เชิญที่ Royal Fern ค่ะ
6. สวีเดน
♦ BYREDO ♦
แบรนด์ BYREDO ดังมาในเรื่องน้ำหอม แต่จริงๆ แล้วเขามีไอเท็มหลายอย่าง เช่น น้ำหอมภายในบ้าน เทียนหอม กระเป๋า แว่นตา บอดี้แคร์ต่างๆ เรียกได้ว่าผู้ก่อตั้งยากขายอะไรก็มีหมด! ไปถึงสวีเดนแล้วควรแวะไปฟาดน้ำหอมสักขวด แฮนด์ครีมสักหลอด เทียนหอมสักอัน แค่นี้ก็ฟินเว่อร์ คนรักน้ำหอมไม่ควรพลาด BYREDO ค่ะ
♦ Verso Skincare ♦
แบรนด์สกินแคร์ที่แพ็คเกจโดดเด่น บนขวดจะมีตัวเลขใหญ่ๆ อยู่ เบอร์ 1 จะเป็นคลีนเซอร์ เบอร์ 2 เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับกลางวัน เบอร์ 3 เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับกลางคืน ไล่ไปจนถึงเบอร์ 10 แฮนด์เซรั่มค่ะ เอาเป็นว่าแพ็คเกจสวย คอนเซ็ปต์ดี ผลิตภัณฑ์ใช้แล้วเห็นผล เท่านี้ก็สมควรซื้อแล้ว ไอเท็มแนะนำก็คงเป็นไอเท็มเบอร์ 4 งานเซรั่มและบูสเตอร์ต่างๆ ที่ใช้แล้วเห็นผลทันที ไม่ต้องรอนานค่ะ
7. ญี่ปุ่น
♦ Visee ♦
แบรนด์เมคอัพจากญี่ปุ่นในเครือ Kose โดดเด่นในเรื่องของอายแชโดว์ ที่มีชิมเมอร์ละเอียด เนียนสวย ให้สีตาที่ดูวาวๆ สดใสในสไตล์เมคอัพญี่ปุ่น อีกหนึ่งไอเท็มที่น่าโดนก็คือบลัชออนที่สีจะนัวๆ ดูเป็นธรรมชาติ เหมือนแก้มแดงเองอะไรเอง และลิปสติกก็น่าโดนเช่นกัน สีก็จะน่ารักๆ ตามสไตล์สาวญี่ปุ่น แต่ให้พิกเมนท์ที่ชัดเจน ริมฝีปากดูฉ่ำสวยงามค่ะ
♦ Coffret D’or ♦
อีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปญี่ปุ่น ผลิตภัณฑ์จากค่าย Kanebo ลิปสติกของ Coffret D’or ติดอันดับ Cosme บ่อยมากกก ดังนั้นไปญี่ปุ่นต้องโดนลิปสติก Coffret D’or นอกจากนี้ก็มีบลัชออน แป้งผสมรองพื้น และเมคอัพเบสที่โดดเด่น ใครชอบงานผิวสไตล์ญี่ปุ่นต้องโดนค่ะ
♦ Yojiya ♦
แบรนด์ที่ดังมากๆ ในเรื่องของกระดาษซับมัน ถ้าไปญี่ปุ่นต้องซื้อกลับมาค่ะ Yojiya ยังมีคาเฟ่ให้สาวๆ ได้ไปเยี่ยมชมทานขนม จิบชา ในบรรยากาศคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากกระดาษซับมันเขาก็มีไอเท็มอื่นขายอีก เช่น แป้ง กันแดด สกินแคร์ ของแซ่บๆ ยังมีอีกมากมายค่ะ
♦ Laduree Beauty ♦
Laduree Beauty แบรนด์ที่เหยียบญี่ปุ่นแล้วสาวๆ จะต้องแวะช้อป ไอเท็มที่จะต้องซื้อเลยก็คือบลัชออนกลีบกุหลาบในตลับรูปทรงไข่ แต่ถ้าใครมีแล้วก็ซื้อคอลเลคชั่นที่ออกใหม่ได้ค่ะ ของ Laduree มีแต่ไอเท็มสวยๆ แซ่บๆ ทั้งนั้น เข้าไปแล้วรอดยาก ต้องมีสักไอเท็มล่ะที่โดน!
♦ Ettusais ♦
อีกหนึ่งแบรนด์ที่พลาดไม่ได้เมื่อไปญี่ปุ่น Ettusais มีสกินแคร์ที่โดดเด่นมากมาย รวมทั้งงานเบสเมคอัพ บีบีครีม ไพรเมอร์ เช่น Oil Block Base ที่ช่วยบล็อกเมคอัพบริเวณจมูก ไอเท็มล้างหน้าและสครับผิวก็เริ่ด ของ Ettusais ทำอะไรออกมาขายก็ดีไปหมดค่ะ จัดเถอะของเขาเริ่ดจริงอะไรจริง
8. เกาหลี
♦ O-Lens ♦
มาถึงเกาหลีแล้วสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือคอนแทคเลนส์ O-Lens มี Blackpink เป็นพรีเซนเตอร์ด้วยค่าาา ให้ตาสวยวิ้งมีประกายแบบไอดอลเกาหลีกันไปเลย นอกจากคอลเลคชั่นของ Blackpink ก็ยังมีคอลเลคชั่นอื่นให้เลือกซื้ออีกมากมาย ใครชอบใส่คอนแทคเลนส์ต้องตุนค่ะ
♦ IOPE ♦
แบรนด์แซ่บอย่าง IOPE ก็มีเมคอัพและสกินแคร์น่าโดนมากมาย สิ่งที่ต้องซื้อให้ได้เลยก็คือคุชชั่นค่าาา ถ้ามีสีที่ใช่ก็ควรตำซะ เพราะว่าเนื้อมันดีงามมากกก ใครใช้ก็ต้องหลงรัก นอกนั้นไอเท็มขายดีของ IOPE ก็จะเป็นสกินแคร์พวก Anti-Aging, Hydrating และกันแดดค่ะ ใครชอบสกินแคร์สายเกาควรลองค่ะ
♦ HERA ♦
อีกหนึ่งแบรนด์คุชชั่นแซ่บที่สาวกเมคอัพสไตล์เกาหลีไม่ควรพลาด มาถึงถิ่นคุชชั่นแล้วจะไม่จัดคุชชั่นไม่ได้ ไอเท็มงานผิวอย่างรองพื้น คอนซีลเลอร์ก็เริ่ด งานเครื่องสำอางสีสันก็แซ่บหลายอย่าง ลองแวะช็อปหรือเคาน์เตอร์ของ HERA ดูค่ะ งานดียกแผง ใครเข้าไปก็ต้องโดนสักชิ้นสองชิ้นแหละค่าาา
♦ NEOGEN Dermalogy ♦
แบรนด์สกินแคร์เกาหลีที่ดังระดับอินเตอร์ ใช้แล้วเห็นผล แก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ไอเท็มหลายอย่างก็ได้รับรางวัลจากบิวตี้กูรูมากมาย ของน่าโดน ได้แก่ แผ่นเช็ดหน้า Bio-Peel Gauze Peeling มาส์กผลัดเซลล์ผิว ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าก็ดีค่ะ ใช้ดีจนต้องจัดซ้ำเลยล่ะ แนะนำว่าให้ซื้อตุน!
9. ไต้หวัน
♦ L’Herboflore ♦
มาถึงไต้หวันแล้วก็ต้องซื้อมาส์กแผ่น ที่นี่มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ หนึ่งในแบรนด์ที่โดดเด่นก็คือ L’Herboflore ใครชอบมาส์กหน้าบอกเลยว่าฟินสุดๆ มีทั้งสูตรจากดอกไม้ ผลไม้ สมุนไพร และสูตรอโรมาเธอราพีให้ความผ่อนคลายเวลามาส์ก อยากได้แบบไหน L’Herboflore มีหมดค่ะ
ใครไปเที่ยวต่างประเทศก็อย่าลืมแวะช้อปบิวตี้ไอเท็มติดไม้ติดมือกลับมาลองใช้ด้วยนะคะ เผื่อเจอของใหม่ที่แซ่บถูกใจ หรือได้ของแบรนด์ใหม่ที่ไม่มีขายในไทยมาฝากเพื่อนๆ บ้าง ทีนี้ไม่ว่าจะไปประเทศไหนขาช้อปก็ไม่พลาดทุกไอเท็มเด็ดแล้วล่ะค่าาา ขอให้ไปเที่ยวอย่างสนุก ช้อปปิ้งอย่างสบายใจนะคะสาวเฟียร์ซ~