Van Cleef & Arpels คอลเลคชั่นใหม่ Sous Les Étoiles (ซูสเลเซตวลส์) หรือ “ใต้ตาษดาริกา” ได้แรงบันดาลใจมาจากหมู่ดาวบนท้องฟ้าที่เปล่งประกายสวยงามราวกับสรวงสวรรค์ นำมาสู่เครื่องประดับชั้นสูงกว่า 150 ชิ้น โดยช่างฝีมือทั้งหลายของเมซง ใชัอัญมณีที่มีรูปทรงและขนาดต่างกันมากมาย นำมาผสมผสานกันอย่างไร้ขีดจำกัด ดีไซน์ออกมาแซ่บเหนือจินตนาการ จะเป็นยังไงบ้างไปดูกันเลยค่ะ 

Sous Les Étoiles Heavenly Dreams

ประดุจดังนภสินธุ์ตระการตาไปด้วยมวลรัตนชาติ ซึ่งอยู่ร่วมกับมหานวดารากระจ่างแสง แห่งแผ่นโมทิฟลวดลายต่างๆ และหมู่ดาวนักษัตรอันเพริศพรายไปด้วยไหวพริบความชำนาญแง่มุมต่างๆ ทางงานฝีมือ ความวิจิตรบรรจงในห้วงจักรวาลของ Van Cleef & Arpels ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเป็นแนวทางการออกแบบผลงานคอลเลคชั่นใหม่ “ใต้ตาษดาริกา” หรือ Sous les étoiles (ซูสเลเซตวลส์) ราวจำแลงภาพฝันแห่งแดนสรวง โดยอาศัยหนึ่งในแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจตามประวัติความเป็นมาของเมซงมาสู่เครื่องประดับชั้นสูงถึง 150 ชิ้น

เฉกเช่นบทพรรณนาสืบทอดมานานกว่าหลายศตวรรษจากเหล่านักดาราศาสตร์ นักเขียน และศิลปินหลากแขนงผู้หลงใหลในความงามแห่งเวหนจักรวาล ที่ช่วยเติมไฟฝันขับเคลื่อนวงล้อแห่งจินตนาการให้แก่บรรดานักออกแบบ นักอัญมณีศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ และช่างฝีมือทั้งหลายของเมซง ณ จุดบรรจบระหว่างสไตล์อันทรงเอกลักษณ์ และพลังทางการใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเสรีของ Van Cleef & Arpels คือผลงานแห่งความเป็นเลิศราวกับนาฏกรรมระหว่างดาวเคราะห์กับดาวฤกษ์ ซึ่งดำเนินไปตามท่วงทำนองของรูปทรง และวัสดุล้ำค่านานาชนิด ภายในลีลาของเส้นกรอบที่ลื่นไหลอย่างต่อเนื่องเพื่อก่อตัวเป็นทรวดทรงรองรับประกายเจิดจรัสพรายพร่างหลากสรรพสี นี่คือการเดินทางสู่ความงดงามแห่งดาราลัยอันเหนือกว่าที่จินตนาการจะพาไปถึง

HÉLIOS

สร้อยคอยาวทยุมณีดัดแปลงวิธีสวมใส่ได้

สร้อยคอยาวทยุมณี ตัวเรือนทองคำขาวกับทองคำสีเหลือง โดดเด่นด้วยไพลินสีเหลืองเม็ดเดี่ยวเจียระไนทรงวงรีน้ำหนัก 50.38 กะรัต (จากศรีลังกา) ต่างดวง “ทยุมณี” หรือ “พระอาทิตย์” กับกลไกขี้กลัดเพชร DIF เม็ดเดี่ยวเจียระไนทรงหยดน้ำน้ำหนัก 1.11 กะรัตสายสร้อยและรายละเอียดประดับด้วยไข่มุกเลี้ยงสีขาวกับเพชร

SATURNE

“ดาวเสาร์คือความมหัศจรรย์ของระบบสุริยะ”

เข็มกลัดดาวเสาร์ หรือ Saturne clip คือหนึ่งในผลงานจำลองรูปลักษณ์เสมือนจริงของคอลเลคชั่น ด้วยการใช้ทองคำฝังเพชรเพื่อเป็นตัวแทนดาวเคราะห์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของระบบสุริยะ และโดดเด่นอย่างทรงเอกลักษณ์จากการเป็นดวงดาวสีเหลืองหม่นท่ามกลางวงแหวนขนาดใหญ่ อันประกอบไปด้วยอนุภาคนับไม่ถ้วนลอยตัวโคจรไปโดยรอบ

HALLEY

“ด้วยระดับความเร็วติดปีกของดาวหาง

เรากำลังเดินทางฝ่าจักรวาลท่ามกลางหมู่ดาว และดวงอาทิตย์”

สร้อยคออันโดดเด่นสะดุดตาด้วยประกายสว่างสุกใสเส้นนี้ ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากวิถีการเดินทางของดาวหางฮัลเลย์ ซึ่งถูกตั้งชื่อตามเอ็ดมันด์ฮัลเลย์ สร้อยกับแหวนฮัลเลย์ เข้าชุดประกอบชิ้นโมทิฟสับเปลี่ยนได้ ตัวเรือนทองคำขาวประทับทองคำสีเหลืองรองรับเพชรเหลือง Fancy Vivid Yellow เม็ดเดี่ยวเจียระไนทรงลูกแพร์ น้ำหนัก 11.29 กะรัตเพชร DFL เม็ดเดี่ยวเจียระไนทรงหยดน้ำขนาด 3.26 ท่ามกลางรายละเอียดฝังเพชรขาวกับเพชรเหลือง เพื่อสืบทอดธรรมเนียมนิยมของเมซง ในการดัดแปลงเครื่องประดับเพื่อพลิกแพลงวิธีสวมใส่ จี้เพชรเหลืองกลางวงสร้อยคอจึงสามารถปลดออกไปประกอบบนเรือนแหวน ซึ่งอาศัยงานออกแบบที่คล้ายคลึงกันโมทิฟหัวแหวนประดับเพชร DFL ขนาด 3.26 กะรัตระยับแสงสุกสกาวเม็ดนี้ ก็สามารถแยกชิ้นไปใช้สลับแต่งบนตัวเรือนสายสร้อยหรือหัวแหวนได้เช่นกัน

DÉESSE MERCURE

“รูปลักษณ์ตามจินตนิยายของบรรดานางเงือกแห่งดาราสมุทร

ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์สะกดอารมณ์”

ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความหวัง และตัวแทนแห่งความสุขเบิกบานใจ บรรดาเทพธิดา นางฟ้า และนางระบำปลายเท้ายาตรามาปรากฏร่างในอาณาจักรแห่ง Van Cleef & Arpels เข็มกลัดเทพอารักษ์แห่งดาวพุธ ตัวเรือนทองคำขาวประดับทองคำสีเหลืองรองรับงานฝังโอปอลขาวเม็ดเดี่ยวเจียระไนหลังเบี้ยขนาด 5.10 กะรัตเติมรายละเอียดหรูหราด้วยทับทิม, ไพลินสีชมพูและเพชร

DÉESSE NEPTUNE FÉE CASSIOPÉE

เข็มกลัดเทพธิดาดาวสมุทร ตัวเรือนทองคำขาวประดับทองคำสีเหลืองไพลินพลอยสมุทรและเพชร

เข็มกลัดเทพธิดาแคสสิโอเปีย ตัวเรือนทองคำขาวฝังไพลินสีม่วงน้ำเงินและฟ้ากับเพชร

TRÉSOR ASTRAL

สร้อยคอ “ขุมทรัพย์ในแดนดาว” Tresor astral ตัวเรือนทองคำขาวปลายด้านหนึ่งรองรับงานประดับไพลินเม็ดเดี่ยวเจียระไนทรงแปดเหลี่ยมน้ำหนัก 31.17 กะรัต (ศรีลังกา) ส่วนปลายเปิดอีกข้างของโครงสร้างวงสร้อยประดับไพลินเม็ดเดี่ยวเจียระไนทรงแปดเหลี่ยมน้ำหนัก 22.82 กะรัต (พม่า) ตัวเรือนสร้อยคอฝังเพชรร่วมกับไพลิน

FLAMMES DE NEPTUNE

“เหมือนเป็นหลักเขตสุดแดนจักรวรรดิอันไพศาลแห่งระบบสุริยะ”

งานออกแบบเรือนแหวนถ่ายทอดความตระการตา ณ ขอบโพ้นสุริยะจักรวาลด้วยแรงบันดาลใจจากดาวเนปจูนหรือดาวเกตุ ซึ่งอยู่ห่างไกลสุดจากดวงอาทิตย์ดาวเคราะห์ดวงที่แปด และเป็นดวงสุดท้ายของระบบสุริยะ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากในเฉดสีน้ำเงิน แหวนเปลวไฟในดาวพระสมุทร ตัวเรือนทองคำขาวรองรับหัวแหวนไพลินเม็ดเดี่ยว เจียระไนทรงเหลี่ยมหมอนน้ำหนัก 40.52 กะรัต (มาดากัสการ์) ล้อมด้วยเพชร

CÉPHÉIDE

Van Cleef & Arpels ออกแบบชุดเครื่องประดับ “ดาวแปรแสง” หรือ Cepheide Set (เซเฟียดเซ็ท) ขึ้นโดยอาศัยลูกเล่นสุดท้าทายในการไล่ลำดับเฉดสลับสีของรัตนชาติต่างๆ เพื่อถ่ายทอดระดับแสงส่องสว่างของมวลดาวฤกษ์ได้อย่างสมจริง สร้อยคอดาวแปรแสงมาพร้อมจี้ ปลดออกไปใช้เป็นเข็มกลัดได้ ตัวเรือนทองคำขาวประดับโมราพยับหมอกเจียระไนทรงหลังเบี้ย 11 เม็ดน้ำหนักรวม 159.72 กะรัต พลอยใสแซนทาไนท์สองเฉดเจียระไนทรงสี่เหลี่ยมมาแก็ตต์ 21 เม็ดน้ำหนักรวม 30.16 กะรัต ไพลินสีม่วง โกเมนเขียวส่อง และเพชร

คู่ต่างหูร้อยระย้าของชุดเครื่องประดับดาวแปรแสง โดดเด่นด้วยแทนซาไนท์เจียระไนทรงสี่เหลี่ยมบาแก็ตต์ น้ำหนักรวมถึง 11.89 กะรัต ร่วมกับงานประดับโกเมนเขียวส่อง ไพลินสีม่วง และเพชร ต่างหูพร้อมจี้ระย้าปลดออกได้ ตัวเรือนเป็นทองคำขาว กลมกลืนกับสร้อยคอได้อย่างลงตัว

ISON

กำไลปลอกข้อมือ “อิชง” ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากไอซอน ดาวหางคาบยาวจากแดนเมฆาของออร์ต (Oort Cloud) มาซึ่งแรงบันดาลใจให้เมซงสร้างสรรค์เครื่องประดับ โดยการฝังรัตนชาติไล่เรียงเป็นแนวเส้น พุ่งออกมาจากก้อนลูกไฟหัวดาวหางหรือ “นิวเคลียส” งานฝังเพชรสุดตัดกับงานฝังทับทิมขึ้นตัวเรือนแบบซ่อนหนามเตย (Mystery Set) หนึ่งในเทคนิคสัญลักษณ์ประจำ Van Cleef & Arpels ทับทิมเหล่านี้ถูกเจียระไนใหม่ที่ละเม็ดด้วยมือ เพื่อให้ได้รูปทรงเฉพาะ ตัวเรือนทองคำขาว ประดับดาวทองสีชมพู เพื่อจุดประกายจินตนาการถึงละอองดาวระยับระยับ

CIEL DE MINUIT

“กางปีกเหินหาวทะยานผ่านดาราบถสู่แดนดาว!”

เพื่อยกย่องความงดงามตระการตาของทางช้างเผือก ที่ทอดยาวอย่างไร้จุดเริ่มต้น และสิ้นสุดสร้อยคอ “ดาราบถรัตติกาล” Ciel de minuit จึงถูกออกแบบขึ้นเสมือนเป็นหนทางล่วงเข้าสู่แดนดาว แผ่นโมทิฟพลอยน้ำสมุทรลาพิซลาซูลิ ได้รับการตัดเจียนและเจียระไนใหม่ด้วยมืออีกครั้งอย่างระมัดระวัง ราวกับเป็นชิ้นงานประติมากรรม เพื่อให้ได้ขนาดและสัดส่วนพอดีกับโครงสร้างตัวเรือนของสร้อยคอ ตัวเรือนเป็นทองคำขาว ประดับด้วยไพลินและเพชร เป็นตัวแทนประกายระยิบระยับของดาว

NUÉE DʼÉMERAUDES

41P คือหนึ่งในดาวหางบริวารของดาวพฤหัสบดี ที่พุ่งทะยานผ่านโลก ระหว่างโคจรเป็นวงรีรอบดวงอาทิตย์กับดาวพฤหัสบดี โดยปรากฏให้เห็นเป็นลูกไฟเขียวสว่างหางน้ำเงินอมฟ้าทอดยาวตัดผืนนภา ประดับดาวจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สร้างแรงบันดาลใจให้ Van Cleef & Arpels ในการออกแบบสร้อยแผงคอ “มรกตเมฆา” Nuée d'emeraudes ด้วยการใช้เส้นกราฟิกกับรูปทรงเรขาคณิตของโครงสร้างตัวเรือน รองรับความประณีตแยบคายในการฝังมรกต เจียระไนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าบาแก็ตต์ 96 เม็ดน้ำหนักรวม 62.30 กะรัต ร่วมกับไพลินและเพชร เรียงต่อกันเป็นรัศมี สามารถทิ้งตัวแนบเนื้อฐานคอได้อย่างเหมาะเจาะงามสง่า

IWAMOTO

ดาวหางความเร็วสูง “อิวาโมโตะ” ซึ่งถูกตั้งชื่อตามนักดาราศาสตร์สมัครเล่นชาวญี่ปุ่น มาซายูกิ อิวาโมโตะ ผู้ค้นพบดาวหางดวงนี้เมื่อปี 2018 แหวน “อิวาโมโตะ” ตัวเรือนทองคำขาวรองรับหัวแหวนไพลินเม็ดเดี่ยว เจียระไนทรงแปดเหลี่ยมน้ำหนัก 26.41 กะรัต (ศรีลังกา) มรกตเม็ดเดี่ยวเจียระไนทรงหกเหลี่ยมขนาด 1.08 กะรัต (โคลัมเบีย) ท่ามกลางการประดับตกแต่งด้วยมรกต ทัวร์มาลีนเขียว และเพชร

SENTIER D’ÉTOILES

“ท่ามกลางความสงัดเงียบของชั่วโมงรัตติกาล

ความงดงามของธารนภสินธุ์ที่ทอดยาวบนฟากฟ้า

ตราตรึงทุกสายตาให้จับจ้องอยู่เนิ่นนาน”

ความพิศวงหลงใหลในความงามตระการตาของทางช้างเผือก ถูกเมซงถ่ายทอดมาสู่ความซับซ้อนสุดละเมียดละไมของกำไลข้อมือ “ครรลองดาริกา” Sentier d'étoiles ซึ่งโค้งตัวคดเคี้ยวพันรอบไพลินหลังเบี้ย น้ำหนักสูงถึง 69.23 กะรัต จากศรีลังกา ท่ามกลางงานตกแต่งด้วยไพลิน โกเมนเขียวส่อง เพชรสีเหลือง และเพชรขาว เรียงตัวดุจเกลียวคลื่นของมวลดาวในระบบดาราจักรรองรับความงดงามของรัตนชาติเม็ดกลางได้อย่างน่าประทับใจ

ARCHE SOLAIRE

กำไลข้อมือ “โค้งแสงสุริยะ” ตัวเรือนทองคำขาวประดับไพลินสีชมพู เจียระไนทรงวงรี 41 เม็ดน้ำหนักรวม 57.98 กะรัต (ศรีลังกา) ไพลินสีม่วง แก้วประพาฬหรือปะการัง และเพชร กำไลข้อมือวงนี้จุดประกายจินตนาการ ให้เห็นภาพแถบแสงจากดวงอาทิตย์ทอดยาว โค้งเป็นวงรูปทรงโค้งเลขแปดแนวนอน แสดงถึงตำแหน่งเชิงมุมของเทหวัตถุทรงกลม แล้วยังเป็นสัญลักษณ์อินฟินิตี เครื่องหมายสื่อถึงความเป็นนิรันดร์

ANTENNAE

สร้อยคอ “ดาราจักร” สวมกลับด้านได้ ตัวเรือนทองคำขาวรองรับงานฝังไพลินสีม่วงกับสีชมพู เจียระไนทรงวงรี และเหลี่ยมหมอนจำนวนถึง 154 เม็ดน้ำหนักรวม 417.33 กะรัต (มาดากัสการ์) ร่วมกับงานประดับไพลิน ทับทิมและเพชร สร้อยคอสุดหรูหราอลังการเส้นนี้ คือบทจำแลงสรรพสีเรืองแสงของบรรดาละอองก๊าซ ฝุ่นอวกาศ และดาวฤกษ์ อันบังเกิดจากเหตุการณ์เคลื่อนตัวพุ่งชนปะทะกันของสองกาแล็กซี เป็นนวดาราจักรนาม Antennae

PLANÉTARIUM

นาฬิกาข้อมือเครื่องประดับชั้นสูง “เวหาสจำแลง” ตัวเรือนทองคำขาว ประกอบทองคำสีเหลืองและทองคำสีกุหลาบ รองรับงานฝังไพลินหลากสีสัน ร่วมกับโกเมนสีเพลิง พลอยดำ หินกระจกอาเวนทูรีน แผ่นแม่มุกสีชมพู หินสีไข่นกการเวก งานลงยา และเพชรกลไก ขับเคลื่อนแบบขึ้นลานอัตโนมัติ ร่วมกับระบบขับเคลื่อนดาวเคราะห์บนหน้าปัดแบบ Planetarium ซึ่งพัฒนาร่วมกับ คริสติอางแวนเดอคลอว์ (Christiaan van der Klaauw)

คอลเลคชั่นนาฬิกาข้อมือหนึ่งในผลงานสัญลักษณ์ประจำเมซง และล่าสุดท่ามกลางความหรูหราตระการตาในอาณาจักร “ใต้ดาษดาริกา” ศูนย์กลางหน้าปัดนาฬิกาฝังรัตนชาติต่างดวงอาทิตย์ ดาวพุธ ดาวศุกร์ และโลกกับดวงจันทร์บริวาร 

GALAXIE SECRÈTE

“รูปวัตถุที่ดูลึกลับกับสรรพเสียงแห่งอดีตกาลกลายเป็นเทพยากรณ์ถึงเรื่องราวในอนาคตประกายเปล่งปลั่งสกาวแสงตะมุนละไมเหล่านี้ร่วมกันเปิดมิติใหม่ให้แก่ดินแดนอันเวิ้งว้างไร้ขอบเขตในจิตใจ”

นาฬิกาข้อมือเครื่องประดับชั้นสูง “ดาราจักรซ่อนเวลา” ตัวเรือนทองคำขาวรองรับงานประดับไพลินเม็ดเดี่ยว เจียระไนทรงวงรีน้ำหนัก 8.05 กะรัต (มาดากัสการ์) ตกแต่งรายละเอียดด้วยไพลินหลากสี และเพชรกลไกขับเคลื่อนระบบควอร์ตซ์ ตัวเรือนวงกำไลทอแสงระยิบระยับไม่ต่างอะไรจากแดนดาวบนฟากฟ้า

สาวๆ ที่สนใจคอลเลคชั่น Sous Les Étoiles นี้ก็แวะไปเยี่ยมชมกันได้ที่ Van Cleef & Arpels เป็นเครื่องประดับชั้นสูงที่มีความเลอค่า สวยงามดุจงานศิลปะค่ะ แต่ละไอเทมทำด้วยความปราณีต และต้องใช้ความชำนาญอย่างมากเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับที่จะเป็นของขวัญให้กับตัวเอง หรือคนที่เรารักค่าาา