หลังจากที่ iPhone13 ได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา พรุ่งนี้ (8 ต.ค. 64) ก็จะเป็นวันวางจำหน่ายวันแรกในประเทศไทยแล้วค่าาา ออกมาคราวนี้มีการเปลี่ยนแปลงกล้องที่เริ่ดขึ้น และการถ่ายวิดีโอที่เทพยิ่งกว่าเดิม มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่น ได้แก่ iPhone13, iPhone13 mini, iPhone13 Pro และ iPhone13 Pro Max พร้อมเปิดตัวสีใหม่อย่างสีชมพูและสีเซียร์ร่าบลู สีมีความละมุนน่าโดนมาก เหมาะสำหรับสายหวาน วันนี้มาดูสรุปกันว่าไอโฟนใหม่นี้จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่า~
iPhone13 นี้มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่น ได้แก่
• iPhone13
• iPhone13 mini
• iPhone13 Pro
• iPhone13 Pro Max
iPhone13 และ iPhone13 mini
iPhone13 และ iPhone13 mini มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีชมพู, สีน้ำเงิน, สีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์ และสีแดง (PRODUCT)RED ซึ่งสีโปรโมทก็คือสีชมพูค่ะ สวยน่าโดนมาก
iPhone13 Pro และ iPhone13 Pro Max
iPhone13 Pro และ iPhone13 Pro Max มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเซียร์ร่าบลู, สีเงิน, สีทอง และสีกราไฟต์ สีโปรโมทก็คือสีเซียร์ร่าบลูค่ะ
ขนาดของหน้าจอ
• iPhone13 ขนาด 6.1"
• iPhone13 mini ขนาด 5.4"
• iPhone13 Pro ขนาด 6.1"
• iPhone13 Pro Max ขนาด 6.7"
จุดเด่นของตัวเครื่อง
1. หน้าจอกระจก Ceramic Shield แข็งแกร่งกว่าหน้าจอสมาร์ทจอทั่วไป
2. กล้อง TrueDepth ปรับให้มีขนาดเล็กลง ทำให้หน้าจอมีพื้นที่แสดงผลมากขึ้น จอภาพยาวจรดขอบ
3. ทนน้ำได้ในระดับ IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
4. ใช้ชิป A15 Bionic ที่แรงและเร็วที่สุดในขณะนี้
5. แบตเตอร์รี่อึดขึ้นทั้ง 4 รุ่น - แบตใช้ได้นานต่อเนื่องสูงสุด
- iPhone13 → 2.5 ชม.
- iPhone13 mini → 1.5 ชม.
- iPhone13 Pro → 1.5 ชม.
- iPhone13 Pro Max → 2.5 ชม.
6. สำหรับ iPhone13 และ iPhone13 mini ใช้จอ Super Retina XDR
ส่วน iPhone13 Pro และ iPhone13 Pro Max ใช้จอ Super Retina XDR + ProMotion
คุณสมบัติจอ Super Retina XDR
- หน้าจอสว่างเพิ่มขึ้น ทำให้มองเห็นได้ง่ายในแดดจ้า
- สีสันสว่างสดใส ให้สีแม่นยำ ถ่ายทอดได้ครบทุกสีสัน
- หน้าจอประหยัดพลังงานกว่าเดิม
- ภาพคมชัด มีพิกเซลสูง
- เห็นได้เต็มตามากขึ้น จากการลดขนาดกล้อง TrueDepth
ProMotion (ใน iPhone13 Pro และ iPhone13 Pro Max)
สำหรับ iPhone13 Pro และ iPhone13 Pro Max เป็นหน้าจอ Super Retina XDR ที่มาพร้อม ProMotion สามารถดึงข้อมูลใหม่ได้สูงสุด 120Hz ทำให้หน้าจอไหลลื่นสุดๆ ไม่ว่าจะไถเร็วแค่ไหนก็เอาอยู่ เล่นเกมก็ลื่นปรื๊ดไม่มีสะดุด และปรับอัตโนมัติได้ตั้งแต่ 10Hz-120Hz เพื่อประหยัดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นค่ะ
กล้อง iPhone13
จุดเด่นอีกหนึ่งสิ่งที่ Apple ภูมิใจนำเสนอ คือการถ่ายภาพและวิดีโอที่เทพยิ่งกว่าเดิม ซึ่งแฟน Apple เองก็รอดูในจุดนี้เหมือนกัน มาดูกันสิว่ากล้อง iPhone13 จะดีงามขึ้นแค่ไหน เริ่มที่ iPhone13 และ iPhone13 mini ก่อนนะคะ
1. กล้องเปลี่ยนเป็นแนวทแยงมุม
2. ปรับปรุงเซ็นเซอร์กล้องไวด์ให้ใหญ่ที่สุด
3. กล้องไวด์รับแสงได้เพิ่มขึ้น 47%
4. มีระบบป้องกันการสั่นไหว ภาพนิ่งแม้มือไม่นิ่ง
5. เซ็นเซอร์กล้องอัลตร้าไวด์เร็วขึ้น โฟกัสไวขึ้นแม้แสงน้อย
6. ให้รายละเอียดภาพที่ชัดเจนขึ้นในส่วนที่มืดของภาพ
7. ปรับเป็นโหมดกลางคืนอัตโนมัติ เมื่อถ่ายภาพในที่แสงน้อย
8. โหมดถ่ายภาพบุคคลเบลอฉากหลังได้อย่างสวยงาม
9. มีเอฟเฟ็คต์การจัดแสงให้เลือกถึง 6 แบบ
10. HDR อัจฉริยะ แยกแยะบุคคลได้สูงสุด 4 คน ปรับแสง สี คอนทราสต์ให้แต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสม
11. Deep Fusion จะทำงานในสภาวะแสงน้อย ทำให้เก็บรายละเอียดภาพได้ดีขึ้น
12. กล้องอัลตร้าไวด์ เก็บภาพได้กว้างขึ้นโดยไม่ต้องถอยหลัง
13. มีโหมดภาพยนตร์
โหมดภาพยนตร์
- สามารถสลับจุดโฟกัสได้
- มีระยะชัดลึกที่สวยงาม
- สามารถปรับความเบลอของพื้นหลัง หรือเปลี่ยนจุดโฟกัสบนวิดีโอหลังจากถ่ายเสร็จแล้วได้
- โหมดภาพยนตร์ HDR ในแบบ Dolby Vision
และคุณสมบัติของกล้องหลังทั้งหมดนี้ ก็มาอยู่ในกล้องหน้าด้วยค่าาา เริ่ดมาก
กล้อง iPhone13 Pro และ iPhone13 Pro Max
1. จุดเด่นอยู่ที่การถ่ายภาพมาโคร ในระยะโฟกัสใกล้สุด 2 ซม. ถ่ายได้แม้กระทั่งเส้นขนเล็กๆ บนตัวหนอนจ้าาา
2. และยังสามารถถ่ายวิดีโอด้วยมาโครได้อีกด้วย
3. ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีมาก
4. รูรับแสงกว้างที่สุดเท่าที่เคยมีมา
5. เซ็นเซอร์กล้องเร็วขึ้น โฟกัสได้ดีแม้อยู่ในที่มืด
6. ถ่ายเทเลโฟโต้ในโหมดกลางคืนได้อีกด้วยค่ะ
7. มีโหมดกลางคืนที่ถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอได้ดี เห็นรายละเอียดภาพชัดเจน
8. กล้องเทเลโฟโต้มีระยะโฟกัส 77 มม. ซูมแบบออปติคัลได้ 3 เท่า ถ่ายภาพได้สวยชัดเหมือนยืนอยู่ใกล้ๆ และปรับโบเก้ได้อย่างละเอียด
9. ปรับโทนภาพได้ทันทีในโหมดถ่ายภาพ ให้ภาพสวยยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอพ
10. HDR อัจฉริยะ แยกแยะบุคคลได้สูงสุด 4 คน ปรับแสง สี คอนทราสต์ให้แต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสม
11. Deep Fusion จะทำงานในสภาวะแสงน้อย ทำให้เก็บรายละเอียดภาพได้ดีขึ้น
12. มีโหมดภาพยนตร์
13. ถ่ายทำ ตัดต่อ ส่งออก จบได้ในเครื่องเดียว
โหมดภาพยนตร์
- ถ่ายวิดีโอมีมิติ ชัดลึก-ชัดตื้น
- สามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสระหว่างถ่ายวิดีโอได้
- และสามารถปรับจุดโฟกัสหลังจากถ่ายเสร็จแล้วได้ด้วย
- ถ่ายด้วยกล้องไวด์ เทเลโฟโต้ หรือ TrueDepth ในโหมดภาพยนตร์ได้
- โหมดภาพยนตร์ HDR ในแบบ Dolby Vision
และกล้องหน้าคมชัด เทพไม่แพ้กล้องหลัง ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงาม และถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ดีด้วยค่าาา
รองรับย่านความถี่ 5G ที่แรงและเร็ว
ทั้งดาวน์โหลดและอัพโหลด
iPhone13 ทุกรุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทย วันที่ 8 ต.ค. นี้ โดยมีความจุและราคาดังนี้ค่ะ
iPhone13 mini
• 128GB ราคา 25,900 บาท
• 256GB ราคา 29,900 บาท
• 512GB ราคา 37,900 บาท
iPhone13
• 128GB ราคา 29,900 บาท
• 256GB ราคา 33,900 บาท
• 512GB ราคา 41,900 บาท
iPhone13 Pro
• 128GB ราคา 38,900 บาท
• 256GB ราคา 42,900 บาท
• 512GB ราคา 50,900 บาท
• 1TB ราคา 58,900 บาท
iPhone13 Pro Max
• 128GB ราคา 42,900 บาท
• 256GB ราคา 46,900 บาท
• 512GB ราคา 54,900 บาท
• 1TB ราคา 62,900 บาท
ใครที่สนใจจะเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ก็ไปทดลองเล่น iPhone13 กันได้ที่ Apple Store และร้านขายโทรศัพท์ชั้นนำ ถูกใจแล้วค่อยซื้อค่ะ หรือโทรศัพท์ใครสภาพไม่ไหวแล้วก็ไปจัดกันได้ มีโปรโมชั่นจากเครือค่าย รวมทั้งบัตรเครดิตให้เลือกมากมาย แนะนำว่าก่อนซื้อควรศึกษาโปรโมชั่นให้ครบ เพื่อความคุ้มค่าที่สุดค่าาา ของราคาหลายหมื่นแบบนี้ต้องรอบคอบนิดนึงนะคะสาวเฟียร์ซ~