SEVEN DAYS A WEEK อีเวนท์ชิลฟิวบีช ใจกลางกรุงเทพฯ ที่มาพร้อมกับพาโนราม่าวิวสุดอลังการ กับโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา และท่าเทียบเรือยอร์ชในย่านพระราม 3 ชาวโซเชียลสายฮิปสายดื่มสายกินเช็คอินความอร่อยกันได้พร้อมอาหารรสเด็ด ไม่ว่าจะเป็นแจ่วฮ้อนหรือ Izakaya ควบคู่กับเครื่องดื่มที่จัดเต็มอีกมากมาย นอกจากนั้นยังมีโซนกิจกรรมจุดเช็คอินพร้อมดนตรีสด และดีเจสำหรับสายปาร์ตี้ เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ Pet Friendly สำหรับน้องหมาน้องแมว ให้ได้มาชิลท่ามกลางบรรยากาศเย็นๆ ริมน้ำอีกด้วย ยิ่งช่วงเย็นพระอาทิตย์ตกถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่พลาดไม่ได้จริงๆกับสีสันใหม่ยามค่ำคืนของกรุงเทพฯริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 บอกเลยว่าห้ามพลาด
ไฮไลท์เด็ดที่ใครๆก็พูดถึงกันตอนนี้คงหนีไม่พ้น Hot Pot หม้อไฟสไตล์อีสานอย่างแจ่วฮ้อน จากร้านHorn Pao (ฮ้อนเป่า) ที่น้ำซุปกลมกล่อมสุดแซ่บอุดมไปด้วยสมุนไพรไทยนานาชนิด เรียกได้ว่าแค่ได้กลิ่นก็น้ำลายไหลไปตามๆกัน ยิ่งได้ซดน้ำซุปบอกเลยว่าหากินรสชาติแบบนี้ในกรุงเทพฯ ไม่ได้ง่ายๆอีกทั้งเนื้อที่เสิร์ฟมาทานคู่กันก็สุดยอดไม่แพ้กัน
ทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบพรีเมี่ยมอย่างเนื้อหมูและเนื้อวัวไทยวากิว ทั้งใบพายและน่องลายก็มีมาเสิร์ฟให้กินกันอีกด้วย โดยเนื้อหอมนุ่มลิ้นแทบละลายในปากมาพร้อมน้ำจิ้มแจ่วรสชาติเข้มข้น ยิ่งกินยิ่งเพลินเข้าไปใหญ่ด้วยเตาแม่เหล็กไฟฟ้าสุดล้ำของ MEX ให้ไฟแรง ทำให้น้ำซุปร้อนเร็ว กินอร่อยได้ไม่มีสะดุด แถมดีไซน์มินิมอลสีสันน่ารัก ยิ่งทำให้เมนูอร่อยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีลิ้นวัวย่างชิ้นหนานุ่มเพราะทางร้านคัดเฉพาะส่วนด้านในที่อร่อยที่สุดของลิ้นมาเท่านั้นจิ้มกับไข่ดองหอมมัน บอกเลยว่าสวรรค์ใครสายเนื้อแนะนำให้ลอง
หรือสาวๆสายสุขภาพก็มีหลากหลายเมนูอย่างยำผลไม้ ยำสตรอว์เบอร์รี ที่นำเสนอออกมาในรูปแบบยำพริกเกลือแต่รสชาติอร่อยเกินคาด
หรือหากชอบสไตล์ฟิวชั่น ก็มี Izakaya ร้าน HAMA ให้ได้ลองกัน กับเมนูฟิวชั่นแนวใหม่ ปลาดุกย่างจิ้มซอสแจ่วบอง ปลาดุกไทยย่างสไตล์ปลาไหลญี่ปุ่น จิ้มกับน้ำซอสสไตล์ไทยอีสานอย่าง แจ่วบองรสแซ่บนัวสายปลาร้า เรียกว่ายกระดับปลาดุกไทยได้อย่างมีคุณภาพ
อีกเมนูคือ Gyutan Carpaccio หรือลิ้นวัวซูวี สไลซ์ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะจากทางร้าน นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูสไตล์ Yakitori ปิ้งย่างหอมกลิ่นเตาถ่านอีกด้วย
ทั้งยังมีขนมทานเล่น แต่รสชาติไม่ได้มาเล่นๆ อย่าง HAAB (หาบ) ขนมไข่เตาถ่านสงขลา อีกหนึ่งขนมขึ้นชื่อ และมีเอกลักษณ์ที่ส่งตรงจากสงขลาสู่กรุงเทพฯ พร้อมวัตถุดิบที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ตัวขนมจึงมีความกรอบนอก นุ่มใน ฉ่ำเนย จากการคุมกำลังไฟของเตาถ่าน จนกลายมาเป็นขนมไข่เตาถ่านสงขลาเจ้าดังบรรทัดทอง
เติมความสดชื่นด้วยน้ำผลไม้ที่ Flagship store แรกของร้าน CODESOM ส้มโคดโคด ที่รวบรวมเมนูเด็ดสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะอีเวนต์นี้เท่านั้น เช่น คราฟท์เบียร์ผลไม้ ส้ม เลมอน หรือลิ้นจี่ แถมเติมวิปครีมนัวๆ เอาใจสายแอลกอฮอล์ หรือน้องใหม่ Watermelon Snowflake น้ำแตงโมเกล็ดหิมะ
พร้อมเมนูซิกเนเจอร์ Codesom Snowflake น้ำส้มเกล็ดหิมะเนื้อส้มอัดแน่น เสิร์ฟให้สดชื่นกันแบบสดๆและอีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับสายหวานอย่าง Codesom Cream Cheese น้ำส้มรสเปรี้ยวอมหวานตัดกับความนัวละมุนของ Cream Cheese ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมี Soft Serve ที่ทำจากน้ำส้ม Codesom และ Yakult ซึ่งหาทานได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
บาร์ลับ Bottle Rocket (บอททอล ร็อกเก็ต) ที่เริ่มต้นมาจากความชื่นชอบในรสชาติของเบียร์ และความรักในหนังของ Wes Anderson ผู้กำกับชาวอเมริกัน ที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้มุมมองภาพและสีสัน ซึ่งตีความในแบบฉบับของตัวเองไว้ว่า “ในวันที่เราเหนื่อยล้า ถ้าได้ดื่มเบียร์ดีๆเย็นๆสักแก้วคงเหมือนจรวดกำลังพุ่งสู่อวกาศ” และอยากจะแชร์ความรู้สึกนี้ให้กับลูกค้าที่แวะเวียนมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันที่ร้าน ภายในอีเวนต์นี้ Bottle Rocket คัดสรรเครื่องดื่มมาถึง 10 taps โดยยังคงคอนเซ็ปต์เดิมว่า “อยากให้ทุกคนสามารถดื่มเบียร์และสนุกไปกับมันได้”
พบ "Singha 89 Cals" เบียร์น้องใหม่คุณภาพระดับพรีเมี่ยมจากสิงห์ เน้นการดื่มด่ำกับบรรยากาศชิลสบายๆได้ที่นี่ เพื่อตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์วัยรุ่นที่รักสุขภาพและดื่มง่าย
ปิดท้ายด้วย Cocktail Bar สุดเก๋ จาก Oh! Vacoda and the Highball Club สาขาป๊อปอัพน้องใหม่ล่าสุดที่ยกมาจากย่านอารีย์ พร้อมบรรยากาศร้านสไตล์ Beach Vibe ผสมผสานความเป็น City Pop ของ Japanese ยุค 80’s ที่งานนี้ขนเมนูไฮบอลมาแบบเน้นๆ
โดยสาขานี้จะเน้นเฉพาะเมนูไฮบอลล์แน่นๆ ทั้งวิสกี้ไฮบอลล์ จินไฮบอลล์ ไปจนถึงคัมพารีไฮบอลล์ โดยความพิเศษของไฮบอลล์อยู่ที่เครื่องทำคราฟต์โซดาโฮมเมด ซึ่งจะผลิตน้ำโซดาที่นุ่มละมุนและซาบซ่ากว่าโซดาแบบขวดทั่วไป ทำให้ไฮบอลล์ทุกแก้วของที่ร้านมีเนื้อสัมผัสที่กลมกล่อม เบา และสดชื่น เหมาะแก่การจิบฟินๆ คู่เมนูอาหารทุกประเภท
ดื่มด่ำบรรยากาศสุดชิลได้ที่ SEVEN DAYS A WEEK เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 น. – 00.00 น. ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2567 ณ Canapaya Riverfront ถนนพระราม 3 เดินทางสะดวกสบาย มีที่จอดรถบริการ และสามารถเดินทางโดยรถสาธารณะ ลงรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี ทางออก 5 ต่อรถ BRT (รถบัส) มาลงที่สถานีสะพานพระราม 9 แล้วเดินต่ออีก 300 เมตร โครงการ Seven Days A Week : Co-Drinking Space ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พระราม 3
ติดต่อสอบถามได้ที่
- Facebook: https://www.facebook.com/sevendaysaweekbkk
- Instagram: https://www.instagram.com/sevendaysaweekbkk
- Line@: @sevendaysaweekbkk
- Tel: 064-554-6541
#sevendaysaweekbkk #วาร์ปมาชิลฟีลบีชได้ทุกวัน #CanapayaRiverfront