ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออกใหม่มากมาย จนสาวๆลองใช้กันไม่หวาดไม่ไหว ทั้งเนื้อฝุ่น เนื้อครีม เนื้อเจลสารพัด เรียกได้ว่าทุกเท็กซ์เจอร์สามารถนำมาเป็นเครื่องสำอางได้หมด ซึ่ง Beauty Lesson วันนี้ ขอนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เนื้อฝุ่น (Powders) สาวๆจะได้รู้จักกับเครื่องสำอางมากยิ่งขึ้น ทำให้นำไปใช้ได้ถูกต้องและตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด มาดูกันสิว่าผลิตภัณฑ์แบบฝุ่นจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ
1. Powder
มาเริ่มกันที่แป้งก่อนเลยนะคะ สาวๆทุกคนต้องเคยใช้แป้ง และรู้จักแป้งเป็นอย่างดี แป้งมีด้วยกัน 2 แบบค่ะ นั่นก็คือแบบฝุ่นที่เรียกว่า Powder และแบบอัดแข็งเรียกว่า Press หรือ Compact ซึ่งทั้ง 2 แบบ มีทั้งผสมรองพื้นและไม่ผสมรองพื้น การใช้งานก็จะแตกต่างกันไป ดังนี้ค่ะ
1.1 Loose setting Powder / Translucent Powder
เป็นแป้งที่ใช้เซ็ตผลิตภัณฑ์เนื้อครีม ปกติเรามักจะใช้ลงหลังการเตรียมผิวด้วยรองพื้นและคอนซีลเลอร์ เพื่อเซ็ตให้อยู่กับที่ไม่ให้ไหลเยิ้ม เพราะบ้านเราที่มีอากาศร้อนชื้น อาจจะทำให้เครื่องสำอางไหลก่อนที่จะแต่งหน้าเสร็จได้ ส่วนใหญ่แป้งแบบนี้จะเป็นแป้งโปร่งแสงไม่ค่อยมีสีค่ะ
Laura Mercier Loose Setting Powder, ราคา 1,590 บาท www.facebook.com/lauramercier.thai
Dior DiorSkin Nude Air Powder, ราคา $54 www.dior.com
1.2 Foundation Powder
สำหรับสาวๆที่ต้องการความแน่นเป๊ะของผิว แป้งผสมรองพื้นจะช่วยเพิ่มความเนียนเรียบให้กับผิวมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับลุคออกงานที่ต้องการความเป๊ะ แป้งผสมรองพื้นนี้ยังช่วยควบคุมความมันได้ดี และช่วยยืดอายุเมคอัพได้นานกว่า Loose Powder ซึ่งถ้าสาวๆขี้เกียจลงรองพื้นก่อนแต่งหน้า ยังสามารถใช้แป้งผสมรองพื้นนี้ทาทับหลังลงสกินแคร์และครีมกันแดดได้เลยค่ะ ประหยัดเวลาสุดๆ!
Tarte Amazonian Clay Full Coverage Airbrush Foundation, ราคา $36 tartecosmetics.com
Chanel Double Perfection Lumière, ราคา $55 www.chanel.com
1.3 Finishing Powder
แป้งแบบใหม่ที่สาวๆเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน Finishing Powder ใช้ลงหลังแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพิ่มความนัวและความกลมกลืนกันของทุกอย่างบนใบหน้า ทั้งบลัชออน คอนทัวร์ และไฮไลท์ นอกจากนี้ยังช่วยให้หน้าดูสว่างขึ้นเล็กน้อย เหมือนมีแสงไฟส่วนตัวส่องหน้าอยู่ตลอดอีกด้วยค่ะ
Hourglass Ambient Lighting Powder, ราคา $45 www.hourglasscosmetics.com
Guerlain Meteorites Compact Light Revealing Powder #2 Clair, ราคา 2,600 บาท www.guerlain.com
2. Blush
บลัชออนสาวๆคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว ใช้ปัดแก้มให้ดูมีสุขภาพดี และมีสีสันสวยงาม หลักๆแล้วมีด้วยกัน 2 แบบได้แก่ เนื้อแมทท์และเนื้อชิมเมอร์ค่ะ
2.1 Matte
M.A.C Powder Blush #Style, ราคา 1,050 บาท www.maccosmetics.co.th
Illamasqua Powder Blusher #Nymph, ราคา 1,350 บาท www.illamasqua.com
2.2 Shimmer
เมื่อพูดถึงชิมเมอร์สาวๆอาจจะคิดถึงความวาวแบบสุดๆเหมือนอายแชโดว์ใช่ไหมคะ แต่บอกเลยว่า บลัชออนที่ผสมชิมเมอร์ จะมีชิมเมอร์ที่ละเอียด มีความวาวน้อยกว่าอายแชโดว์ ซึ่งเวลาปัดแล้วจะช่วยให้แก้มโกลวและมีมิติยิ่งขึ้นค่ะ
Nars Blush #Super Orgasm, ราคา 1,200 บาท www.narscosmetics.com
Bobbi Brown Brightening Brick #Pink, ราคา 2,250 บาท www.bobbibrown.co.th
3. Bronzer
แป้งสีน้ำตาลที่ทำให้หน้าเรียวได้รูปนี้ สาวไทยคงรู้จักกันดีอยู่แล้วใช่ไหมคะ บรอนเซอร์มีด้วยกัน 2 แบบค่ะ การใช้งานอาจจะคล้ายกัน แต่ให้ลุคที่ต่างกันดังนี้ค่ะ
3.1 Contouring Powder (Matte)
บรอนเซอร์แบบแรกเป็นเนื้อแมทท์ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Contouring Powder ใช้สร้างเงาให้หน้าดูเรียวได้รูป และใช้เพิ่มสันจมูกให้ดูสูงขึ้น ในส่วนที่สาวๆจะต้องจำให้ขึ้นใจเลยก็คือ “เงาไม่วิ้ง” ดังนั้นถ้าสาวๆจะซื้อบรอนเซอร์เพื่อไปคอนทัวร์ให้หน้าเรียวเล็กลง จะต้องเลือกเนื้อแมทท์ค่ะ
Marc Jacobs #Instamarc Light-Filtering Contour Powder, ราคา $49 www.marcjacobs.com
The Balm Bahama Mama, ราคา 890 บาท www.thebalm.com
3.2 Bronzing Powder (Glowing)
บรอนเซอร์เนื้อวาวนี้มีไว้เพิ่มความโกลวให้กับผิว จะทำให้ได้ลุคดูบ่มแดดและเงาสวย บรอนเซอร์แบบนี้นิยมใช้ในช่วงซัมเมอร์ แบบว่าถ้าอยากแต่งหน้าลุคไปทะเลสวยๆ ให้ผิวแทนโกลวก็ต้องใช้บรอนเซอร์เนื้อโกลว เทคนิคการปัดง่ายๆเลยก็คือ ปัดตรงบริเวณโหนกแก้มหรือ Cheekbone แต่อย่าให้ถึง Apple cheeks (หน้าแก้ม) ค่ะ
Tom Ford Small Bronzing Powder, ราคา $65 www.tomford.com
Too Faced Beach Bunny Bronzer, ราคา $30 www.toofaced.com
4. Highlight
เมื่อมีบรอนเซอร์แล้วก็ต้องมีไฮไลท์ ถ้าคอนทัวร์แล้วไม่ไฮไลท์ก็จะสวยไม่สุดค่ะ ในเมื่อเรามีส่วนที่อยากลดให้เรียวแล้ว ก็ต้องมีส่วนที่อยากเพิ่มให้พุ่ง แป้งไฮไลท์จะช่วยให้ส่วนที่ลงไปนั้นดูสูงขึ้นและมีมิติ นอกจากนี้ยังทำให้หน้าดูผ่องใส ไม่มัวหมองอีกด้วยค่ะ
Becca Shimmering Skin Perfector Poured, ราคา $38 www.beccacosmetics.com
Burberry Luminising Powder, ราคา $68 us.burberry.com
5. Eyeshadow
อายแชโดว์คงสาวๆก็รู้จักกันดีอยู่แล้วเนอะ หลักๆมันก็มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ นั่นก็คือ เนื้อแมทท์ เนื้อชิมเมอร์ และกลิตเตอร์ค่ะ อายแชโดว์มีสีสันมากมายให้เลือกสรร ตั้งแต่สีอ่อนสุดไปยังสีเข้มสุด เป็นเครื่องสำอางชิ้นเดียวที่มีสีมากที่สุด ซึ่งความติดทนนั้นขึ้นอยู่กับเนื้อด้วย ถ้าเป็นเนื้อแมทท์ก็จะติดนานที่สุด รองลงมาคือชิมเมอร์ และกลิตเตอร์เป็นอายแชโดว์ที่มีโอกาสร่วงลงมากองใต้ตาได้มากที่สุดค่ะ
Urban Decay Naked3 Eyeshadow Palette, ราคา 2,200 บาท www.urbandecay.com
6. Eyebrow Shadow
ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นเป็นอีกไอเทมที่ต้องมี สำหรับการแต่งคิ้วให้ดูสวยเป็นธรรมชาติ เมื่อใช้คู่กับแบบดินสอจะช่วยทำให้คิ้วดูมีมิติยิ่งขึ้น โดยใช้แบบดินสอเขียนโครงคิ้วและหางคิ้วก่อน จากนั้นลงแบบฝุ่นในช่องว่างที่หัวคิ้ว จะทำให้ได้หัวคิ้วฟุ้งมีมิติ ไม่แบนราบเป็น 2 มิติค่ะ นอกจากนี้การใช้ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น ยังง่ายและเร็วอีกด้วย ไม่ต้องบรรจงเขียนทีละเส้นเหมือนแบบดินสอค่ะ
Anastasia Brow Powder Duo, ราคา $23 www.anastasiabeverlyhills.com
Kate Designing Eyebrow, ราคา 400 บาท www.katethailand.com
7. Pigment
ผงพิกเม้นท์ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการแต่งหน้าเพื่อการแสดง ผงพิกเม้นท์จะมีเม็ดสีที่แน่นมาก สามารถผสมกับเครื่องสำอางอย่างอื่นได้ เช่น ผสมกับลิปกลอสใช้ทาเป็นลิปสติก เป็นต้น ใช้ทาเป็นอายแชโดว์ หรือใช้ปัดแก้มก็ได้ค่ะ สามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งสีที่นิยมก็พวกสีนีออนที่หาให้ได้ยากในอายแชโดว์พาเลทค่ะ (ผงพิกเม้นท์ต่างกับกลิตเตอร์ตรงที่เนื้อจะละเอียดกว่า และจะไม่วิ้งเท่ากลิตเตอร์ค่ะ)
M.A.C Pigment, ราคา 1,100 บาท www.maccosmetics.co.th
8. Glitter
ผงกลิตเตอร์ส่วนใหญ่ก็ใช้แต่งตาค่ะ โดยจะมีน้ำยาพิเศษสำหรับลงกลิตเตอร์มาให้ด้วย คล้ายๆกับกาวติดขนตานั่นแหละค่ะ กลิตเตอร์สำหรับเมคอัพสามารถลงได้ทุกส่วนของร่างกาย รวมทั้งใช้ตกแต่งสีเล็บได้ด้วยค่ะ (อย่าใช้กลิตเตอร์จากร้านขายเครื่องเขียนมาแต่งหน้านะคะ เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อผิวได้ค่ะ)
Make Up Forever Glitters, ราคา $15 www.makeupforever.com
ทีนี้สาวๆก็เข้าใจถึงผลิตภัณฑ์เนื้อฝุ่นหมดทุกซอกทุกมุมแล้วนะคะ เชื่อว่าในอนาคตต้องมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาให้เราได้งงกันอีกแน่นอน วงการบิวตี้ผันเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา ดังนั้นถ้าเรารักการแต่งหน้าก็ต้องรู้เรื่องพวกนี้ไว้ จะได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา และเลือกแบบที่เหมาะสมกับตัวเองด้วยค่ะ คราวหน้า Beauty Lesson จะมีความรู้เรื่องอะไรมาฝากอีกต้องคอยติดตามด้วยนะคะ :)