เฟียร์ซเชื่อว่าบรรดาหนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลาย น่าจะเข้าใจคำว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้องเป็นอย่างดีแน่นอน ก็แหม!! พลังงานที่จะมาคิดงานให้ออกมาเพอร์เฟกต์ ก็มาจากท้องที่อิ่มดีนี่แหละ ไหนจะเวลาเจองานเครียดๆ โปรเจกต์หินๆ คิดงานไม่ออกอีกล่ะ ก็ต้องหาอะไรมาทาน เพื่อให้สมองมันแล่นขึ้นหน่อยจริงมั้ยล่ะคะ เพราะงั้นเค้าถึงว่ากันว่า ตู้เย็นคือบ้านหลังที่สองของพวกเรา แถมมันยังทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้อีกด้วยนะ วันนี้เฟียร์ซก็เลยขออาสาพาเพื่อนๆมาเปิดตู้เย็นที่ออฟฟิศดูกันหน่อย อ๊ะ! ลืมบอกไปค่ะว่าตู้เย็นของเฟียร์ซเป็นรุ่น Samsung Twin Cooling Plus เอาเป็นว่าถ้าเพื่อนๆอยากรู้ว่า ตู้เย็นนี้จะทำให้ชีวิตของเฟียร์ซดี๊ดีได้ยังไง ตามมาดูเลยค่า!!

1. ซ่อมเครื่องสำอาง

ใช่แล้วค่า!! สาวๆสามารถซ่อมเครื่องสำอางได้แค่ใช้ตู้เย็น และเครื่องสำอางที่เฟียร์ซกำลังพูดถึงก็คือ แป้งพัฟนั่นเอง สาวๆทุกคนต้องเคยเจอกับปัญหาแป้งพัฟตกแตกแน่นอน  ซึ่งจะตัดใจทิ้งก็เสียดายเหลือเกิน วันนี้เฟียร์ซเลยจะมาซ่อมแป้งพัฟให้สาวๆดูกันค่ะ รับรองว่าขั้นตอนไม่วุ่นวาย ง่ายกว่าปอกกล้วยเข้าปากชัวร์!!

อุปกรณ์ : แป้งที่แตก, แอลกฮอลล์แบบฉีด, ชาม, ช้อน, ผ้าก๊อซ

นี่คือแป้งพัฟที่แตกละเอียด สาวๆต้องเกลี่ยเศษๆที่แตกออกมาให้หมดก่อนนะคะ

จากนั้นก็นำแอลกอฮอล์แบบฉีดมาฉีดลงในเศษแป้งที่บดละเอียดในจาน ซัก 10 ครั้ง คนให้กลายเป็นเนื้อแป้งก่อนนะคะ แล้วค่อยตักเข้าใส่ตลับแป้งเหมือนเดิม และอย่าลืมปาดผิวหน้าให้เรียบ

เสร็จแล้วสาวๆก็นำตลับแป้งพัฟนี้ไปแช่ไว้ในตู้เย็นได้เลย ย้ำว่าต้องแช่จนกว่ากลิ่นแอลกอฮอล์จะหายไปนะคะ แล้วค่อยนำกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งปกติตู้เย็นทั่วไปแช่ประมาณ 7 วัน แต่ตู้เย็นซัมซุงแช่ 3 วันเท่านั้นค่ะ

2. สต๊อกอาหารคลีนที่สั่งจากไอจีได้ไม่ต้องกลัวบูด (สดนานกว่า ด้วยนวัตกรรมความเย็น 2 ระบบ) 

อันนี้ก็ดีต่อใจมากๆ เพราะหนุ่มสาวออฟฟิศบางคนเป็นสายเฮลท์ตี้ เน้นทานแต่อาหารคลีน พวกผัก ผลไม้ เมนูสลัด และอาหารคลีนอร่อยๆนี่ต้องติดตู้เย็นไว้เลย เฟียร์ซเองก็สายคลีนเหมือนกัน เลยปลื้มเป็นพิเศษที่ตู้เย็นซัมซุงตัวนี้รักษาความสดใหม่ของผัก ผลไม้ไว้ได้นานมากๆ

แถมเมนูอาหารคลีนที่สต๊อกไว้ก็ยังดูน่าทาน เหมือนตอนที่สั่งมาใหม่ๆเป๊ะ ซึ่ง1-2 วัน อาหารอาจจะเริ่มมีกลิ่นไม่ดี และผักอาจดูไม่ฉ่ำ แต่ตู้เย็นซัมซุงเครื่องนี้แช่ได้ประมาณ 3-4 วัน ก็ยังใหม่อย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ

3. ทำบลูเบอรี่ชีสพาย

อันนี้เฟียร์ซทำบ่อยค่ะ เพราะไว้ทำทานกันในออฟฟิศ เป็นของว่างน่ารักๆช่วงเบรกอะไรแบบนี้ ซึ่งแน่นอนว่าส่วนผสมทุกอย่างถูกแช่ไว้อย่างดี แหม!! อยากเห็นแล้วใช่มั้ยล่ะ ว่าบลูเบอรี่ของเฟียร์ซจะน่าทานแค่ไหน งั้นไปดูวิธีทาน เอ้ย!! วิธีทำพร้อมๆกันเลย

ขั้นตอนการทำ

บดแครกเกอร์จนละเอียด แล้วใส่เนยละลายค่ะ  จากนั้นกรุ cracker crust ลงพิมพ์ 

และนำไปแช่ช่องฟรีซ ซึ่งตู้เย็นซัมซุงแช่แค่ 20 นาที เร็วกว่าตู้เย็นทั่วไปซึ่งแช่ประมาณ 1 ชั่วโมง

ต่อด้วยการตีครีมชีส และนำไปเทลงบน cracker crust ที่แข็งตัวแล้ว

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายกับการตกแต่งหน้าตาให้น่าทานด้วยบลูเบอรี่สดๆ น่าท๊านน่าทาน ที่แช่ไว้ในตู้เย็นค่ะ แค่นี้ก็ได้บลูเบอรี่ชีสพายแสนอร่อยไว้ทานฟินๆกันแล้ว 

4. แช่ซาซิมิ

สำหรับเมนูซาซิมินี้ เฟียร์ซชอบมากๆเลยค่ะ เพราะตู้เย็นเครื่องนี้กระจายความเย็นได้ดีเว่อร์ ไม่ต้องห่วงเลยว่าซาซิมิของเราจะเหี่ยวเฉา ขาดการดูแล จนดูไม่น่าทาน

 ซึ่งเฟียร์ซพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถรักษาความสดใหม่ได้ถึง 3 วัน ต่างกับตู้เย็นธรรมดาที่ลิมิตได้แค่วันเดียวเท่านั้น

5. แช่มาส์ก + ครีม 

เฟียร์ซแช่มาส์กและครีมทุกอย่างไว้ในตู้เย็นเครื่องนี้หมดเลยค่ะ เพราะพื้นที่แช่เยอะมากจริงๆ แถมยังวางได้แบบเป็นระเบียบ ไม่ดูรกเกะกะเหมือนตู้เย็นทั่วๆไปอีกด้วย

และที่สำคัญยังให้ความเย็นแรง ทำให้ทุกครั้งที่เฟียร์ซหยิบมาส์ก หรือครีมมาใช้ จะรู้สึกได้ถึงคความชุ่มฉ่ำ และประสิทธิภาพที่แน่นของครีม และมาส์กทุกตัวเลยล่ะค่ะ

6. แช่ Ice Cream

ไอศกรีมเนี่ยต้องมีติดตู้เย็นไว้เลย ขาดไม่ได้เชียว!! ซึ่งตู้เย็นเครื่องนี้ให้รสชาติไอศกรีมที่อร่อย ถูกใจมากๆ ซึ่งหลายคนอาจเจอปัญหาที่แช่ไอศกรีมไว้ในช่องแช่แข็ง แต่กลับมีกลิ่นของสด หรืออาหารต่างๆที่แช่ไว้ชั้นล่างขึ้นมาปะปน แต่ขอบอกเลยว่าหมดปัญหาเรื่องนี้ไปได้เลย ถ้าเป็นตู้เย็นซัมซุงเครื่องนี้ค่ะ

เพื่อนๆคงสงสัยแล้วใช่มั้ยล่ะว่า ทำไมตู้เย็นซัมซุง Twin Cooling Plus เครื่องนี้ถึงแตกต่าง และทำให้ชีวิตเฟียร์ซดี๊ดีได้ขนาดนี้ นั่นก็เพราะว่าเค้ามีระบบทำความเย็นก็จะแยกอิสระ แยกระหว่างช่องแช่เย็น (ล่าง) และช่องแช่แข็ง (บน) สดนานกว่า ด้วยนวัตกรรมความเย็น 2 ระบบ ทำให้ไม่ว่าเราจะเปิดช่องแช่เย็นบ่อยแค่ไหน ความเย็นก็จะไม่หายไป ทำให้ช่วยรักษาความสดใหม่และความชุ่มชื้นได้ดี ผักผลไม้ก็จะน่าทาน แถมกลิ่นอาหารยังไม่ปะปน จนทำให้เกิดความรำคาญใจอีกด้วย

และไฮไลท์ของตู้เย็นซัมซุง Twin Cooling Plus เครื่องนี้ก็คือ Smart Conversion ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดได้ตามความต้องการสูงสุดถึง 5 โหมด ซึ่งขอบอกเลยว่าเค้าจัดมาให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์จริงๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็น 

1. Regular Mode - โหมดใช้งานทั่วไป

2. โหมดประหยัดไฟด้วย Energy Saving  Mode - เปิดใช้งานแค่เฉพาะช่องแช่เย็น

3. Vacation Mode - เปิดใช้งานเฉพาะช่องแช่แข็ง ในช่วงพักร้อน หรือไม่อยู่บ้านหลายวัน เพื่อเก็บอาหารได้นานขึ้น

4. ตุนของสำหรับปาร์ตี้ ด้วยโหมด Fridge Max Mode - ปรับช่องแช่แข็งให้เป็นช่องแช่เย็น ขยายพื้นที่แช่อาหาร และเครื่องดื่มได้มากขึ้น

5. ถ้าเป็นช่วงที่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ก็ต้องโหมดนี้เลย Mini Fridge Mode - ปรับช่องแช่แข็งให้เป็นช่องเย็น ลดพื้นที่ลง ประหยัดไฟได้มากขึ้น

ซึ่งถ้าจะถามว่าเฟียร์ซใช้โหมดไหนบ่อยสุด ก็คงไม่พ้น Fridge Max Mode โหมดนี้เลยค่ะ เพราะปาร์ตี้บ่อย แถมกินจุ เพราะงั้นก็จะต้องเพิ่มพื้นที่แช่เย็นให้มากขึ้นอีกหน่อย และตู้เย็นเครื่องนี้ก็ตอบโจทย์ข้อนี้ได้ดีมากๆ และที่สำคัญช่องแช่แข็งทำงานได้ดี ฟรีซเย็นเร็วถึงใจ เห็นมั้ยคะว่า ชีวิตดี๊ดีแค่มีตู้เย็นซัมซุง Twin Cooling Plus เครื่องนี้เครื่องเดียวจริงๆ เฟียร์ซคอนเฟิร์มค่า หากเพื่อนๆท่านไหนสนใจอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม อ่านเพิ่มเติมได้ที่เลยค่า "ตู้เย็นซัมซุง Twin Cooling Plus"