ในแต่ละวันสาวๆใช้เวลาเดินเข้าร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตวันละหลายๆรอบเลยใช่มั๊ยคะ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นที่ๆสะดวกสุดสำหรับเวิร์คกิ้งวูแมนอย่างเราเนอะ ด้วยความที่เรามีเวลาจำกัด เน้นหาซื้อทานง่าย ทำให้เราละเลยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่เราควรจะใส่ใจ จนกลายเป็นว่าในแต่ละวัน เรากินในปริมาณที่เกินความต้องการตลอด กลายเป็นปัญหาหนักใจที่แก้ไม่ตกสักทีเพราะความอ้วนกับโรคมาเยือนนี่แหละค่ะ
Photo Credit : jantakes
ต้นเหตุของความอ้วนคือการที่เรากินมากเกินพอดี พอร่างกายใช้ไม่หมดร่างกายก็จะเก็บเป็นพลังงานสำรองหรือที่เราเรียกว่า “ไขมัน” นั่นเองค่ะ บทจะเอาเข้าแสนง๊ายง่าย แต่กว่าจะเอาออกนี่ยากเนอะ ตัวช่วยดีๆที่คอยเตือนสติสาวๆเวลาเลือกกินอะไรซักอย่าง คือ ฉลากอาหาร ถ้าเราอ่านอย่างเข้าใจ อย่างน้อยก็จะทำให้เราสามารถเลือกกินของที่ดีและคุมอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
Photo Credit : pinterest
วิธีอ่านฉลากอาหารบอกเลยว่าไม่ยากเลย อ่านยังไงให้เข้าใจ มาเริ่มกันเลยค่ะ
Photo Credit : selfhealthguide
1.Serving Size
หน่วยบริโภคต่อการการกิน 1 ครั้ง อาจจะมาในรูปแบบ ห่อ ขวด กล่อง ซอง ถ้วย กระป๋อง ชิ้น แผ่น ส่วน Servings Per Container บอกถึงบรรจุภัณฑ์นี้สามารถทานได้กี่ครั้ง ทานได้ 2 ครั้ง / 4 ครั้ง / 5 ครั้ง เป็นต้น จุดแรกที่สาวๆพลาด มักจะลืมสังเกตว่าต้องแบ่งกิน จุดนี้ล่ะที่ทำให้เรากินเกินตลอด จะให้ดีเลือกขนาดเล็กที่สามารถกินได้ครั้งเดียวพอค่ะ
2.Amount of Calories
จำนวนแคลอรี่ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค สาวๆอาจจะสงสัย kcal (kilocalories) กับ Cal ต่างกันยังไง จริงๆแล้วมันคืออันเดียวกันค่ะ แต่ต้องเขียน K ตัวเล็ก / C ตัวใหญ่แบบนี้นะถึงจะถูกต้องนะคะ
จุดที่สองที่สาวๆพลาดกันอีกแล้ว หลายคนตกม้าตายก็ตอนนี้ล่ะค่ะ คือ เรามักจะอ่านแค่จำนวนแคลอรี่ตรงนี้ที่เดียว คิดว่าแคลอรี่น้อยคือดี โดนหลอกแล้วนะจ๊ะ มาดูตัวอย่างกันดีกว่า
Photo Credit : walmart
ตัวอย่าง: มันฝรั่งทอดกรอบถุงนี้ กิน 1 serving = 7 ชิ้น / 140 kcal เค้าบอกว่าถุงนี้แต่ต้องแบ่งทานถึง 18 ครั้ง ถ้าเย็นนี้เราหิวมาก โอ๊ย! ไม่ไหวแล้วกินแทนข้าวไปซะเลย กินไป 4 servings = 28 ชิ้น ก็เอา (140x4 = 560 kcal) เห็นมั๊ยคะว่าปริมาณแคลอรี่ที่เราได้จริงๆตั้ง 560 kcal ! ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมาก แถมสารอาหารก็ไม่ครบอีก ตรงนี้ยังไม่รวมอาหารกับเครื่องดื่มในระหว่างวันอีกนะคะ
3.Limit these nutrients
บอกสารอาหารที่มีต่อ1หน่วยบริโภคเท่านั้น
Fat (ไขมัน) จะแยกย่อยเป็น Saturated Fat คือ ไขมันอิ่มตัว กับ Trans Fat 2 ตัวนี้ถือว่าเป็นไขมันที่ไม่ดีค่ะ (LDL) ทำให้เกิดโรคหัวใจและคอเลสเตอรอลสูง
Carbohydrate (คาร์โบไฮเดรต) / Protein (โปรตีน) / Cholesterol (คอเลสเตอรอล) / Sodium (โซเดียม) ตัวนี้ทำให้บวมน้ำ ไม่ดีต่อคนเป็นโรคหัวใจกับความดันค่ะ
สำหรับจำนวน % เป็นตัวบอกว่าผลิตภัณฑ์นี้ มีสารอาหารคิดเป็นร้อยละเท่าไหร่ บางผลิตภัณฑ์แสดง % ของ Sugar (น้ำตาล) ด้วย อันนี้สาวๆต้องเช็คด้วยนะคะ ยิ่ง % มากไม่ดีเพราะหวานมาก อย่าลืมนะว่าในแต่ละวันเรารับน้ำตาลแฝงมาจากอาหารและเครื่องดื่มเยอะมากค่ะ
4.Get Enough of these nutrients และ 5.Percent % Daily Value
บอกถึงสารอาหารที่มีในผลิตภัณฑ์นี้แสดงค่าเป็น %
6.Footnote with Daily Values
เป็นรายละเอียดที่บอกรวมๆว่าวันนึงคนเราควรได้รับประมาณ 2,000 kcal และควรได้รับสารอาหารมากหรือน้อย กี่กรัมต่อวัน Daily Values สูงหรือต่ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการแคลอรี่ของแต่ละคนค่ะ
Photo Credit : pinterest
อ่านฉลากกันเป็นแล้วไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ ครั้งหน้าเข้าไปร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตเมื่อไหร่ สาวๆพยายามอ่านและเปรียบเทียบบ่อยๆ จะช่วยฝึกให้เราคิดก่อนกินมากขึ้นค่ะ