ทำงานมาหลายปี มันก็ต้องมีเบื่อกันบ้างเป็นธรรมดาค่ะ แต่ยังไงก็ต้องทำงานต่อไป ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีกินสิค้าาา หนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้กลับมามีแรงบันดาลใจในการทำงาน เหมือนเพิ่งเข้าทำงานวันแรก นั่นก็คือการดูภาพยนตร์ หลายๆ เรื่องตัวละครมักมีสถานการณ์ที่หนักกว่าเรา แต่เขายังรอดมาได้ค่ะ ดังนั้นเราก็ต้องมีพลังไปต่อได้เช่นกัน จะมีเรื่องไหนที่ดูแล้วได้แรงบันดาลใจในการทำงานบ้างไปดูกันเลย~
1. The Devil Wears Prada (2006)
Image source : www.imdb.com
ภาพยนตร์ที่ขึ้นแท่นตำนาน เรื่องราวของหญิงสาวที่ได้เข้าทำงานเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร นิตยสารแฟชั่นชื่อดังในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเธอไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่นเลยยย แต่ก็ยอมอดทนเรียนรู้และพัฒนาตนเอง จนกลายเป็นที่ยอมรับในสายตาเจ้านายสุดเอาแต่ใจ เป็นหนังที่ทำให้เราฮึด อดทน แข็งแกร่ง และทำตัวเองให้สวยแซ่บ ไม่ว่างานหนักแค่ไหนก็ต้องสวยตลอดเวลาค่ะ
2. The Intern (2015)
Image source : www.imdb.com
หนังที่ให้ข้อคิดในเรื่อง “ไม่มีคำว่าสาย” “เรียนรู้ตลอดชีวิต” เรื่องนี้เกี่ยวกับชายวัยเกษียณที่ต้องมาทำงานเป็นพนักงานฝึกงาน ในบริษัทขายเสื้อผ้าผู้หญิงออนไลน์ เขาต้องปรับตัวกับการทำงานอย่างมาก ทั้งเพื่อนร่วมงาน การทำงาน และเทคโนโลยี แต่ก็ไม่สายเกินไปที่จะเรียนรู้ ส่วนนางเอกซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ก็ได้พนักงานฝึกงานวัยเกษียณคนนี้เป็นผู้ช่วย ในการบาลานซ์ชีวิตการทำงานและครอบครัว เป็นหนังที่ฟีลกู๊ด ทำให้รู้สึกดีมีกำลังใจในการทำงานค่ะ
3. Spotlight (2015)
Image source : www.imdb.com
Spotlight เป็นหนังดราม่าเข้มข้น ให้ข้อคิดเรื่องการทำงานในสายสื่อมวลชน ที่ควรทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อสังคม เรื่องย่อก็คือกลุ่มนักข่าวหนังสือพิมพ์พยายามตีแผ่เรื่องราวการล่วงละเมิดเด็กชายของบาทหลวงในท้องถิ่น นักข่าวจะต้องเผชิญกับอุปสรรค และแบกรับความกดดันของสังคมมากมาย เนื้อเรื่องแม้จะกดดัน แต่ก็ทำได้ออกมาได้สนุก ชาวเน็ตก็ค่อนข้างให้คะแนนไปในทางที่ดีค่ะ ใครยังไม่ได้ดูควรดู
4. Morning Glory (2010)
Image source : www.imdb.com
เรื่องราวของหญิงสาวที่ได้ทำงานในรายการเช้า มีเรตติ้งต่ำเตี้ยเรี่ยดิน และเพื่อนร่วมงานที่เข้าสู่โหมด Burnout Syndrome เธอจะต้องกู้รายการนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เรื่องดำเนินไปในแนวหนังโรแมนติก ฟีลกู๊ด สร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน ทำให้รู้สึกมีพลัง อยากที่จะตื่นเช้ามาทำงาน เปลี่ยนงานที่ซ้ำซากจำเจให้สนุกสดใสขึ้นอีกครั้งค่ะ
5. Joy (2015)
Image source : www.imdb.com
เรื่องนี้มาในแนวดราม่านิดนึง ไม่เครียดมาก จังหวะเข้มข้นสนุกสนาน Joy (จอย) คือนางเอกที่ต้องเผชิญกับความผิดหวัง ครอบครัวแตกแยก ปัญหาหย่าร้าง และถังแตก ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนฉลาด แต่แล้วเธอก็ตัดสินใจต่อสู้ครั้งสุดท้าย เดิมพันชีวิตกับสิ่งประดิษฐ์ที่เธอคิดค้นเอง “ไม้ถูพื้นมหัศจรรย์” ในยุคที่ทีวีโฮมช้อปปิ้งกำลังเฟื่องฟู แต่แล้วก็ต้องมีอุปสรรค์เข้ามาท้าทายเธออีกเรื่อยๆ Joy จะประสบความสำเร็จหรือไม่ต้องไปลุ้นกันค่ะ เรื่องนี้ก็เหมาะสำหรับคนที่เริ่มทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง ต้องสู้แบบ Joy นะคะ
6. The Upside (2019)
Image source : www.imdb.com
หนังรีเมคจากเวอร์ชั่นภาษาฝรั่งเศส เนื้อหาลึกซึ้งกินใจ ให้กำลังใจคนที่กำลังหมดอาลัยตายอยาก ใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างไร้ความสุข เรื่องย่อเกี่ยวกับชายพิการที่ต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิต แม้จะมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่กลับไร้ชีวิตชีวา กับชายผิวสีที่จะมาเป็นผู้ดูแล ซึ่งไม่มีประสบการณ์ในการดูแลคนพิการเลย เขาเข้ามาช่วยเติมเต็มให้ชายพิการมีความสุข ได้ยิ้มและหัวเราะอีกครั้ง ส่วนผู้ดูแลก็ต้องเรียนรู้งานใหม่มากมาย และรู้จักกับคำว่ารับผิดชอบอย่างแท้จริง เป็นเรื่องราวดีๆ ที่เติมเต็มความอิ่มเอมในหัวใจค่ะ
7. The Secret Life of Walter Mitty (2013)
Image source : www.imdb.com
เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ทำงานซ้ำซากจำเจทุกวัน จนวันหนึ่งฟิล์มภาพถ่ายที่เขาดูแลนั้นหายไป เขาจึงต้องก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซน เพื่อตามหาฟิล์มภาพนั้น เขาได้ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำ ได้ออกไปเผชิญโลกกว้างอย่างที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน หนังเรื่องนี้จะช่วยให้คนที่ต้องทำงานซ้ำๆ เป็นเวลานาน ได้รีเฟรชตัวเองใหม่ เรียกความรู้สึกเหมือนทำงานวันแรกให้กลับมาได้อีกครั้งค่ะ
8. The Help (2011)
Image source : www.imdb.com
หนังแนวดราม่าที่สอดแทรกความคอมเมดี้นิดๆ ให้ไม่เครียดจนเกินไป เป็นเรื่องราวของสาวใช้ผิวสีในสมัยก่อน ที่ต้องทนกับความกดขี่ดูถูกของนายจ้างผิวขาว เธอเป็นทั้งแม่บ้าน พี่เลี้ยงเด็ก ที่ปรึกษา และที่รองรับอารมณ์ของนายจ้างมากมาย จนวันหนึ่งพวกเธอคิดที่จะพลิกชะตาชีวิตของตัวเอง ตีแผ่เรื่องราวเหล่านี้ให้โลกรู้ ดูแล้วก็จะได้รับพลัง และความกล้าหาญ กล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องค่ะ
9. Hidden Figures (2016)
Image source : www.imdb.com
เรื่องราวของสาวผิวสีที่ได้ทำงานในองค์การ NASA แต่ต้องเจอกับอุปสรรค์มากมาย หลักๆ เลยก็คือการแบ่งแยกคนผิวขาวกับคนผิวสี ไหนจะเป็นผู้หญิงอีกกก แต่พวกเธอก็ไม่ย่อท้อ สาวๆ เหล่านี้มีความสามารถด้านการคำนวนตัวเลข จนทำให้ NASA ประสบความสำเร็จในการสำรวจอวกาศ มันต้องอย่างนี้สิ! งานนี้คนในองค์กรจะต้องมองแก๊งสาวผิวเหล่านี้ใหม่แล้วค่ะ
10. Chef (2014)
Image source : www.imdb.com
เรื่องราวของเชฟร้านอาหารหรูที่ถูกไล่ออก เพราะเขาไม่ยอมทำอาหารตามที่ผู้จัดการร้านสั่ง เขาจึงตัดสินใจออกมาเปิดร้านอาหารของตัวให้ ทำให้ได้แง่คิดที่ว่า “ทำในสิ่งที่เชื่อ เชื่อในสิ่งที่ทำ” นอกจากจะออกมาทำร้านของตัวเองแล้ว เขาก็ต้องกลับมาสานสัมพันธ์กับลูกชาย และอดีตภรรยาที่หย่าร้างอีกด้วย บอกเลยว่าเรื่องนี้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งค่ะ ดูแล้วมีความสุขมากๆ
11. The Hundred-Foot Journey (2014)
Image source : www.imdb.com
เรื่องราวของหนุ่มอินเดียที่มีพรสวรรค์ในการทำอาหาร ครอบครัวของเขาได้เดินทางมาเปิดร้านอาหารอินเดียในฝรั่งเศส พรสวรรค์ของเขาเริ่มเตะตาเจ้าของร้านอาหารฝรั่งเศสฝั่งตรงข้าม ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเดินทางในสายเชฟอาหารยุโรป กลายเป็นเชฟที่โด่งดังระดับโลก เพชรอยู่ที่ไหนก็คือเพชรค่ะ แต่อย่าลืมว่าต้องหาคนเจียระไนที่ดีให้ได้ด้วยนะคะ ใครมีความสามารถก็โชว์ออกมาให้เห็นซะ!
12. View From Top (2003)
Image source : www.imdb.com
เรื่องนี้เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้เกี่ยวกับอาชีพแอร์โฮสเตส สาวน้อยบ้านนามุ่งหน้าเข้าสู่อาชีพที่ได้ทำงานสูงที่สุดในประเทศ สูงแบบเหนือระดับน้ำทะเลหลายหมื่นฟุตเลยค่าาา เธอต้องพยายามมากมาย กว่าจะได้เป็นแอร์โฮสเตสในสายการบินระดับชาติ ความมุ่งมั่นทำให้เธอประสบความสำเร็จ และเราก็หวังว่าสาวๆ จะมีความมุ่นมั่นแบบ Gwyneth Paltrow ในเรื่อง View From Top ค่ะ
13. Legally Blonde (2001)
Image source : www.imdb.com
เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นตำนาน จากสาวผมบลอนด์แต่งชุดสีชมพูหัวจรดเท้า เธอถูกแฟนทิ้งด้วยเหตุผลที่ว่าเขาต้องการความจริงจังในชีวิต เฮลโหล! ผมบลอนด์และชุดสีชมพูไม่จริงจังตรงไหน? เธอเลยตั้งใจเข้าเรียนกฎหมายที่ Harvard Law School เพื่อพิสูจน์ว่าเธอมีความสามารถ ไม่ได้สวยๆ รวยๆ ไปวันๆ นะคะ เรื่องนี้คือแซ่บมาก เล่นเอาสาวๆ ใส่ชุดสีชมพูหัวจรดเท้าไปทำงานตามนางเอกเป็นแถวเลยค่ะ
14. The Pursuit of Happyness (2006)
Image source : www.imdb.com
เรื่องราวของชายคนหนึ่งถูกภรรยาทิ้ง จึงต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง จากความผิดพลาดในการลงทุนซื้อของมาขาย แต่ขายไม่ออก ทำให้เขาไม่มีเงิน จนโดนไล่ออกจากห้องเช่า และพาลูกไปนอนในห้องน้ำสาธารณะ ต่อมาเขาก็ได้เข้าฝึกงานเป็นโบรกเกอร์ในตลาดหลักทรัพย์ เขามักจะสอนลูกอยู่เสมอว่า “อย่าให้คนอื่นมาบอกว่าเราทำไม่ได้” เรื่องนี้ดราม่าหนักมาก โปรดเตรียมกระดาษทิชชู่ไว้ให้พร้อม เขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ต้องไปดูเองค่ะ
15. Erin Brockovich (2000)
Image source : www.imdb.com
Erin Brockovich คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูก 3 ที่ต้องดูแล เธอต้องการงานอย่างเร่งด่วน ในที่สุดก็ได้เข้าทำงานในสำนักงานกฎหมาย และพบกับคดีแปลกๆ เป็นเคสชาวบ้านป่วยปริศนาจากสารปนเปื้อนในน้ำ ซึ่งเธอได้ลงไปสืบหาหลักฐานด้วยตนเอง นำไปสู่การเรียกร้องค่าเสียหายให้กับชุมชน เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ช่วยปลุกไฟในการทำงานของสาวๆ ได้อีกครั้งค่ะ
16. Up in the Air (2009)
Image source : www.imdb.com
เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ต้องเดินทางไปทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อทำงาน งานของเขาก็คือการไล่คนออกจากองค์กร เขารู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตอิสระ เวลาส่วนใหญ่ของเขาอยู่บนเครื่องบินมากกว่าบนพื้นซะอีก เมื่ออายุมากขึ้นเรื่อยๆ เขาก็เริ่มเหงา ประกอบกับมีคนรุ่นใหม่ กับเทคโนโลยีใหม่เข้ามา ซึ่งอาจทำให้งานของเขาสั่นคลอน และยังมีผู้หญิงที่เข้ามาทำให้เขาอยากลงหลักปักฐานเข้าไปอีก เขาจะเลือกเดินทางไหนต่อไปต้องลุ้นกันเองนะคะ
17. Good Will Hunting (1997)
Image source : www.imdb.com
เรื่องราวคนที่มีพรสวรรค์ แต่กลับไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง เขาทำงานเป็นภารโรงในมหาวิทยาลัย เป็นภารโรงที่สามารถแก้โจทย์คณิตศาสตร์ได้รวดเร็วและแม่นยำ ต่อมาเขาพบรักกับหญิงสาว ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เขาเข้ารับการบำบัด และมองเห็นความสามารถของตัวเอง เป็นหนังที่ทำให้เรามองย้อนดูคุณค่าในตัวเอง จุดไหนที่ตัวเองเก่ง และพัฒนาตัวเองให้ตรงจุดค่ะ
แต่ละเรื่องก็มีความสนุกแตกต่างกันไป บางเรื่องอาจจะดูเป็นหนังเบาสมอง แต่ดูแล้วกลับทำให้ผ่อนคลาย สบายใจ รู้สึกดีกับการทำงาน เหมือนได้กลับไปยืนจุดเริ่มต้นอีกครั้ง ในบางเรื่องตัวละครก็มีปัญหาที่หนักหนา ดราม่าจัดเสียจนปัญหาในที่ทำงานของเรานั้นดูเล็กไปเลยค่าาา ใครชอบดูหนังก็ลองหามาดูกันนะคะ มีเวลาผ่อนคลายกับภาพยนตร์บ้างดีเหมือนกัน จะได้มีพลังสู้งานต่อไปค่า~