สวัสดีค่า วันนี้เฟียร์ซจะพาทุกๆคน ไปชมบทสัมภาษณ์ Uniqlo +J ของ จิล แซนเดอร์ และ มร. ทาดาชิ ยาไน กันค่ะ การสัมภาษณ์จะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่าค่า
บทสัมภาษณ์กับ จิล แซนเดอร์ และ มร. ทาดาชิ ยาไน
Jil Sander (จิล แซนเดอร์)
Tadashi Yanai (มร.ทาดาชิ ยาไน)
Q1: มีอะไรเปลี่ยนไประหว่าง Chapter แรกในปี 2009 และ Chapter 2 ในปี 2020 บ้าง แล้วมีอะไรที่ยังเหมือนเดิมหรือไม่
จิล แซนเดอร์: ก่อนอื่น ยูนิโคล่เติบโตเกือบสิบเท่า และกลายเป็นแบรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลที่มีร้านสาขาทั่วโลก ยูนิโคล่พิสูจน์ว่าแบรนด์สามารถรักษาผลลัพธ์ที่ต้องการและมาตรฐานระดับสูงได้
ในปี 2009 ยูนิโคล่มี Know-How เข้าใจเทคนิคและรู้จักวิธีการกระจายสินค้าเพื่อเปิดตัว +J ให้ประสบความสำเร็จ โดยไลน์ +J สร้างบนพื้นฐานของคุณภาพระดับสูง การค้นคว้าเนื้อผ้า และการตัดเย็บที่ประณีต เมื่อถึงเวลาที่กลับมาทำ +J อีกครั้ง คอลเลคชั่นก็สามารถเติบโตได้ดีไปพร้อมๆ กัน
ฉันรู้สึกมีความสุขมากๆ ที่ +J เข้าถึงผู้คนมากมายจากทุกมุมโลก และยังสามารถทำภารกิจของ +J สำเร็จในการออกแบบยูนิฟอร์มแบบโมเดิร์นที่ส่วมใส่ได้ทุกที่ มอบคุณค่า ส่งต่อความเรียบง่ายที่ดูดีและโครงสร้างเสื้อผ้าร่วมสมัยที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ทีมยูนิโคล่มีความเป็นมืออาชีพอย่างมากในหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นเลย ยูนิโคล่ทั้งใส่ใจและช่วยเหลือให้งานลุล่วงไปได้ด้วยวิธีการใหม่ๆ ฉันรู้สึกถึงความสามัคคีที่เหนียวแน่นในวัฒนธรรมและจริยธรรมการทำงานของคนญี่ปุ่นที่หลงใหลในคุณภาพ มีความถูกต้องแม่นยำและความพร้อมในการตอบสนองต่อความคิดที่ต้องการ รวมถึงความกระตือรือร้นที่จะสร้างนวัตกรรมและเต็มใจที่ลองสิ่งใหม่ และถ้ามีความจำเป็นที่ต้องสร้างสิ่งใหม่ก็พร้อมที่จะทำ
มร. ทาดาชิ ยาไน: อย่างที่คุณแซนเดอร์พูดถึงไป หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ ขนาดของธุรกิจยูนิโคล่ โดยในปี 2009 เรามีร้านสาขาใน 8 ตลาดทั่วโลก และในปี 2020 ยูนิโคล่ขยายสาขาไปกว่า 25 ตลาดทั่วโลก ผมเชื่อว่าความเชื่อใจของลูกค้าที่มีต่อคุณภาพและบริการของยูนิโคล่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น มุมมองที่ยังคงเดิม คือ ความหลงใหลของคุณแซนเดอร์ที่มีต่อการออกแบบเสื้อผ้า ความมุ่งมั่นในคุณภาพและความกระตือรือร้นในเรื่องเวลา ยูนิโคล่ยังมั่นคงในจุดยืนตั้งแต่แรกเริ่มของทุกการกระทำที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และสิ่งนั้นทำให้เราโฟกัสในคุณภาพและงานบริการยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าเหตุผลที่เราสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างยาวนานกับคุณ แซนเดอร์ ขึ้นอยู่กับแนวความคิดปรัชญาพื้นฐานที่เรามีเหมือนกันในหลายแง่มุม
Q2: จาก 3 ซีซั่น (20FW, 21SS, 21FW) ของ Chapter ที่ 2 ที่ผ่านมา ชอบเสื้อผ้าหรือเครื่องแต่งกายชุดไหนมากที่สุด
จิล แซนเดอร์: ฉันไม่มีสิ่งที่โปรดปราน แต่ฉันชอบความหลากหลายของเสื้อโค้ทที่เราดีไซน์ในหลายปีที่ผ่านมา ทั้งความหลากหลายของความทันสมัยที่อยู่เหนือกาลเวลา คุณภาพของความเรียบง่ายและราคาที่จับต้องได้ ตามตลาดผู้บริโภคของยูนิโคล่
มร. ทาดาชิ ยาไน: เซตอัพเดทล่าสุดที่เป็นไอเทมเสื้อขนเป็ดประทับใจผมมาก ผมรู้สึกถึงความหลากหลายและรายละเอียดของเสื้อถักจากคุณแซนเดอร์ และผมก็ซื้อ +J ให้ตัวเองหลายตัวเหมือนกัน ผมมีความคาดหวังว่าผมจะได้ใส่เสื้อผ้าที่ซื้อมาบ่อยขึ้นในอนาคต
Q3: พูดถึงความคิดที่คุณมีต่อกันและกันหน่อย เพราะว่าพวกคุณทั้งคู่เป็นผู้ริเริ่มสิ่งใหม่ๆ หรือ Revolutionaries ในช่วงเวลาแบบนี้
จิล แซนเดอร์: มร. ยาไนเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ เป็นผู้ชายที่เติบโตด้วยตัวเองและไม่รู้จักหยุดพัฒนา สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ที่เกี่ยวข้องระดับสูง เรียนรู้ สร้างความต้องการและคำอวยพรต่างๆ จากคนร่วมรุ่นของเขา ฉันรู้สึกโชคดีที่ได้เจอเขาและได้พบกับคู่พันธมิตรสำหรับคอนเซ็ปต์ของ +J และเท่าที่ฉันรู้จัก มร. ยาไน เขาเป็นผู้ชายที่เชื่อถือได้ มีความซื่อตรง ตั้งแต่ตอนเป็นผู้ประกอบการ เมื่อเขามองย้อนกลับไปบนเส้นทางความสำเร็จอันน่าทึ่งของเขา แน่นอนว่าสิ่งนี้อยู่ในความคิดของเขามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะเขาไม่เคยไขว้เขวกับหนทางของเขาเลย
มร. ทาดาชิ ยาไน: หนึ่งในหลักปรัชญาของยูนิโคล่คือ “Simple Made Better” คุณแซนเดอร์เป็นผู้ริเริ่มหลักปรัชญานี้ เพราะเสื้อผ้าที่เรียบง่ายและสวยงามจะไม่เกิดขึ้นหากปราศจากความมุ่งมั่นที่สม่ำเสมอในทุกรายละเอียด และความคิดนี้ทำให้เรามั่นใจในการทำงานร่วมกับเธอยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าคุณแซนเดอร์เป็นอัจฉริยะที่มีความสุนทรียภาพและความหลงใหลที่ตามหาได้ยาก ในเวลาเดียวกัน คนที่ไม่มีใครสามารถเปรียบเทียบได้อย่างคุณแซนเดอร์ จะยังสามารถรังสรรค์สไตล์ที่อยู่เหนือกาลเวลาไปได้ตลอด รวมไปถึงหลายๆ ปีในอนาคตด้วย
Q4: คุณคิดและรู้สึกอย่างไรในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
จิล แซนเดอร์: ธรรมชาติกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในพื้นที่ชนบท คุณยังสามารถเดินทางค่อนข้างอิสระและความสวยงามของสวนทำให้เราได้รับพลังงานดีกลับคืนมา เป็นความรู้สึกที่ดีที่ได้ดูแลพรรณพืชและเดินตามป่า ตามทุ่งหญ้า และเกือบสองปีที่เราไม่สามารถเดินทางมาโตเกียวได้ คอลเลคชันนี้เลยทำงานกันผ่านโลกดิจิตัล แต่ก็แสดงให้เห็นว่าความเสมือนจริงและการอยู่ห่างไกลกันไม่ได้สร้างปัญหาใหญ่ๆ สามารถทำงานราบรื่น ผ่านไปด้วยดี สิ่งนี้เองถือเป็นผลลัพธ์จากการทำงานร่วมกันระหว่างยูนิโคล่และความคุ้นเคยของทีมเรา พวกเราเข้าใจและเชื่อใจซึ่งกันและกัน เฉกเช่นกับความคิดของฉันในช่วงที่มีการแพร่ระบาด ฉันก็ยังมั่นใจว่าเราสามารถทำมันให้สำเร็จได้ทันที
การออกแบบคอลเลคชั่น +J ทำให้ฉันมีความแน่วแน่ และมีเวลาสะท้อนการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจและสังคมที่การแพร่ระบาดนำมาให้เรากลายเป็นคนอ่อนโยนมากขึ้นและรู้สึกขอบคุณสังคมที่สร้างความสุข และขอบคุณความรู้ต่างๆ ที่สะสมมาและมักจะหาทางออกให้ปัญหาแย่ๆ ได้เสมอ
มร. ทาดาชิ ยาไน: การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสทำให้ผมตระหนักได้ว่าโลกเราสัมพันธ์กันมากขนาดไหน หลายบริษัทต้องเจอกับคำถามที่ว่าพวกเขาจะสามารถเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสได้อย่างไร ความจอมปลอมไม่ได้รับการยอมรับอีกแล้ว ต้นฉบับกลายเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการมากขึ้นต่างหาก
Q5: พวกคุณได้รับอะไรจากมิตรภาพ 12 ปี และคุณคาดหวังอะไรในอนาคต
จิล แซนเดอร์: โปรเจ็กต์ +J ของฉันคือการนำคุณภาพและความพึงพอใจต่อการใช้ชีวิตจากประสบการณ์ในแฟชั่นระดับสูงของฉัน ไปสู่ผู้ชมที่กว้างขึ้น รวมไปถึงการมอบยูนิฟอร์มโมเดิร์นที่น่าดึงดูด สู่ผู้บริโภคที่สร้างมิตรภาพอย่างกว้างขวางและรอบรู้ เป้าหมายคือการเข้าถึงผู้คนในหลายกลุ่ม ช่วยสร้างความมั่นใจผ่านเสื้อผ้า และเตรียมความพร้อมให้พวกเขาพุ่งชนเป้าหมายต่างๆ ได้ สำหรับฉัน มันเป็นเหมือนรางวัลและความประหลาดใจในเวลาเดียวกันที่ได้รู้วิธีที่ยูนิโคล่ตั้งใจผลิตคอลเลคชั่นนี้สู่เวทีโลกได้ในพริบตา
มร. ทาดาชิ ยาไน: ผมว่า +J เป็นวิสัยทัศน์ของคุณแซนเดอร์และความเชี่ยวชาญในแฟชั่นระดับสูง เป็นการสร้างให้ +J เข้าถึงทุกคนได้ผ่านความมุ่งมั่นในคุณภาพและการผลิต ความสามารถในการนำเสนอคุณภาพอันสำคัญของคุณแซนเดอร์แก่ผู้บริโภคทุกประเภททั่วโลกถือเป็นการมอบความมั่นใจที่สูงมากกับยูนิโคล่ พวกเราจะไม่ลืมความมุ่งมั่นที่คุณแซนเดอร์มอบให้เพื่อออกแบบเสื้อผ้าและวางแผนเพื่อเติบโตในอนาคต
Q6: สุดท้ายนี้ มีความเห็นอย่างไรกับอนาคต
จิล แซนเดอร์: ฉันยังอยากรู้ความคิดของคุณยาไนย และฉันมั่นใจว่าเขาจะพัฒนาโลกของเขาโดยการน้อมรับวิสัยทัศน์ที่มีเป้าหมายไปข้างหน้า ฉันอยากขอบคุณคุณยาไนยสำหรับความเชื่อใจและการทำงานร่วมกันที่ดี และหวังว่าเขาจะโชคดี หวังว่าจะสุขสมหวังกับทุกความพยายามในอนาคต เวลานี้ก็ถือเป็นการต่อเติม Chapter 2 อย่างเสร็จสมบูรณ์ และฉันก็ยังคงสงสัยเช่นกันว่าทิศทางในอนาคตเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร
มร. ทาดาชิ ยาไน: ผมรู้สึกสนใจมากๆ ที่จะเห็นความหลงใหลที่ไร้กรอบของคุณแซนเดอร์ และความคิดสร้างสรรค์ที่จะพาเธอก้าวไปข้างหน้า สิ่งที่คุณแซนเดอร์สร้างสรรค์ไว้มักอยู่เหนือกาลเวลา ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะรอชมสิ่งใหม่ที่เธอจะสร้างขึ้นในอนาคต และผมก็หวังว่ายูนิโคล่และคุณจิล แซนเดอร์จะมีโอกาสมอบความตื่นเต้นให้โลกได้อีกครั้ง สักวันหนึ่ง