การสำรวจคือหัวใจแห่งเรื่องราวของ Burberry มาตั้งแต่บทแรก เมื่อ Thomas Burberry ผู้ก่อตั้งแบรนด์ได้รังสรรค์ outerwear ที่ผสานความสร้างสรรค์และความใคร่รู้ไว้ด้วยกัน ซึ่งเขาได้ทำให้เหล่านักผจญภัยชื่อดังในยุคนั้นจำนวนมากสามารถก้าวข้ามความคลุมเครือที่เต็มไปด้วยภัยอันตราย และผจญภัยไปสู่สิ่งที่คาดไม่ถึง โดยในวันนี้ Burberry เดินหน้าต่อไปด้วยแนวคิดดั้งเดิม รังสรรค์ชุด outerwear ที่มอบพลังให้ผู้สวมใส่กล้าก้าวข้ามสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ และเริ่มเดินทางสู่การผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและไม่เหมือนใคร
สำหรับภาพยนตร์แคมเปญสั้นนี้ ทาง Burberry ได้จับมือกับ MEGAFORCE ในการถ่ายทอดเรื่องราว โดยเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับนักสำรวจทั้งสามจาก Burberry ได้เดินทางเข้าใกล้สิ่งที่ไม่เคยถูกค้นพบมาก่อนมากขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากนั้นไม่นาน เหล่านักเดินทางผู้เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยก็ถูกสิ่งลี้ลับนี้พาตัวไป ทั้งนักเดินทางและสิ่งลี้ลับนี้ต่างก็เริงระบำ หมุนพันกันไปมาจนกลายเป็นหนึ่งเดียว เพลิดเพลินและสนุกไปกับสิ่งที่ต้องเผชิญในการอ้าแขนรับสิ่งที่พวกเขาไม่รู้อย่างไร้ความกลัว พวกเขาคือจิตวิญญาณที่ห้าวหาญที่เชื่อมเหล่านักผจญภัยไว้ด้วยกัน
และเมื่อภาพยนต์ใกล้จบ กลุ่มคนเหล่านี้ก็ลอยอยู่เหนือแม่น้ำเทมส์ และเดินทางสู่ยามค่ำคืน พร้อมทั้งอ้าแขนโอบรับการผจญภัย รวมถึงสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญครั้งต่อไปด้วยกัน ภาพนิ่งที่ถ่ายโดย George Eyers ภูมิใจนำเสนอการผจญภัยในเมืองอย่างต่อเนื่อง ภาพอันทรงพลังนี้แสดงให้เห็นถึงเหล่านักเดินทางจากหลากหลายมุมมองโอบล้อมด้วยทัศนียภาพแห่งกรุงลอนดอน
คอลเลกชั่น outerwear จาก Burberry คอลเลกชั่นนี้นำเสนอไอเท็มพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อการผจญภัยที่หลากหลาย ตั้งแต่การออกไปสู่โลกกว้างสีเขียว ตลอดจนถึงการผจญภัยไปท่ามกลางตึกสูง โดย Burberry Night Check การตีความลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของ Burberry ครั้งล่าสุด เป็นการนำความหลงใหลที่ทางแบรนด์มีให้แก่ธรรมชาติขึ้นมานำเสนอผ่านการนำท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีดวงดาวอันสว่างไสวมาอยู่ท่ามกลางสีน้ำเงินชาร์โคลเข้ม และแจ็กเก็ตพัฟเฟอร์ เสื้อผ้าฟลีซ รวมถึงเสื้อเชิ้ตและเสื้อผ้าไหมพรมต่างก็ถูกแต่งแต้มด้วยสีประจำฤดูกาลนี้
ส่วนเสื้อผ้าน้ำหนักเบาทั้งหลาย ได้แก่ เสื้อแจ็กเก็ตไนลอนแบบ colour-block ที่มาพร้อมกับโทนสีตัดกันอย่างสีขาวและสีน้ำเงินชาร์โคลเข้ม และเสื้อคลุมพาร์กาโอเวอร์ไซส์ลาย Horseferry อีกทั้งเทรนช์โค้ทสุดไอคอนนิกก็ได้เฉิดฉายขึ้นใหม่อีกครั้งด้วยผ้ากาบาร์ดีนเฉพาะของแบรนด์ และการตัดเย็บแบบ Kensington อันเป็นเอกลักษณ์ ส่วนลาย House Check ก็ถูกตีความใหม่กลายเป็นลายแบบสามมิติผ่านการตัดเย็บ outerwear โดยใช้เทคนิคการเย็บแบบควิลท์ ไม่ว่าจะกับบอมเบอร์แจ็กเก็ตน้ำหนักเบา จนไปถึงโค้ทพัฟเฟอร์
แม้สิ่งที่เราไม่รู้จะก่อให้เกิดความไม่แน่นอน แต่การอ้าแขนรับมันเท่านั้น ที่จะทำให้เกิดการผจญภัยที่เยี่ยมยอดที่สุด
อีกทั้ง คอลเลกชั่นนี้ยังมาพร้อมกับ Exaggerated Check ซึ่งเป็นการนำลวดลายเอกลักษณ์ของ Burberry มาขยายให้ใหญ่ขึ้น แจ็กเก็ตน้ำหนักเบาโดดเด่นด้วยดีไซน์ปักตารางคล้ายกับลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของ Burberry เข้าคู่กับกระโปรงสั้นผ้าไนลอนจากประเทศอิตาลี นอกจากนี้ลาย Exaggerated Check ยังปรากฎให้เห็นบนกางเกงเลกกิ้งเอวสูงผ้าเจอร์ซีย์ที่มีความยืดหยุ่น และเสื้อคอเต่า ผ้าเจอร์ซีย์ที่มีความยืดหยุ่นจากอิตาลี
เสื้อผ้าผู้หญิงคลาสสิกในคอลเลกชั่นนี้ประกอบไปด้วยกระโปรงทรงสอบเข้ารูปผ้าวูลที่ทอด้วยเทคนิคแบบอิตาเลียน เกล็ดกระโปรงตั้งแต่ช่วงเอว พร้อมซับในทั้งตัวเพื่อให้แนบกายอย่างสวยงาม สำหรับชุดยามเย็นอย่างชุดราตรีผ้าไหมพริ้วแขนกุด เดรปเปิดหลังและผ่าข้างสูงเพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถขยับตัวได้คล่องขึ้น
เสื้อผ้าสตรี
แจ็คเก็ตไนลอน และเสื้อกั๊กพัฟเพอร์มาพร้อมกับฮู้ดที่สามารถถอดออกได้ ปักโลโก้ Burberry พร้อมกับกระโปรงกันหนาว และเสื้อโค้ตพัฟเฟอร์ไนลอนเงาที่ถูกดีไซน์มาให้เข้ารูป อีกทั้งยังมาพร้อมกับเข็มขัดหัวเหล็กเงาซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์เดียวกันกับฮาร์ดแวร์บนกระเป๋าเอกลักษณ์ของ Burberry
จากแสงสีแห่งท้องฟ้ายามค่ำคืน สู่ลวดลาย Night Check บนแจ็กเก็ตพัฟเฟอร์และเสื้อฟลีซผ้าวูลผสมแคชเมียร์ทอจากอิตาลี อีกทั้งผ้าซับในแบบตาข่าย และฮู้ดแบบมีเชือกยังถูกดีไซน์เป็นทรงปล่อยแบบสบายๆ เหมาะสำหรับการเลเยอร์ นอกจากนี้ ลวดลาย Night Check ยังปรากฎให้เห็นบนเครื่องประดับต่างๆ เช่น ผ้าพันคอผ้าแคชเมียร์ขอบพู่ทอลายสก็อต โดยผ้านั้นถูกซักในน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติท้องถิ่น และคลึงให้เป็นขุยอย่างพิถีพิถันเพื่อให้แลดูนุ่มนวล
เสื้อผ้าบุรุษ
ลายเอกลักษณ์ของ Burberry ถูกนำเสนอผ่านโทนสีใหม่ภายใต้ชื่อ Burberry Night Check ซึ่งปรากฎให้เห็นบนแจ็กเก็ตพัฟเพอร์อัดแน่นด้วยขนห่าน อีกทั้งยังมาพร้อมกับฮู้ดที่สามารถถอดออกได้ และเชือกผูกบริเวณเอวเพื่อช่วยให้รูปร่างโดดเด่นยิ่งขึ้น
ลูกเล่น Colour-block ปรากฎให้เห็นบนแจ็กเก็ตพัฟเพอร์ผ้าไนลอนจากอิตาลีแบบสองโทนสีตัดกันอย่างสีขาวและดำ โดยแจ็กเก็ตดังกล่าวเป็นทรง oversized ตกแต่งด้วยโลโก้บริเวณฮู้ด นอกจากนี้ ตัวฮู้ดยังสามารถถอดเข้าออกได้และมีเชือกซ่อนอยู่ด้านในเพื่อใช้ปรับขนาดอีกด้วย เสื้อคลุมต่างๆ ยังประกอบไปด้วย เสื้อแจ็กเก็ตน้ำหนักเบาที่มาในโทนสีตัดกัน พร้อมกระเป๋าด้านใน และฮู้ดแบบมีเชือก ตกแต่งด้วยโลโก้ และเสื้อคลุมคอเต่าทรง oversized โดดเด่นด้วยลาย Horseferry อีกทั้งยังมีกางเกงขายาวพิมพ์ลายโลโก้ ที่มาพร้อมกับเชือกผูกเอว กระเป๋า และซิปที่บริเวณขากางเกงซึ่งดีไซน์เพื่อให้มอบความสะดวกสบายในการสวมทับรองเท้าบู๊ท
เทรนช์โค้ททรงคลาสสิกของ Burberry ได้ถูกนำมาปรับโฉมให้มีสัดส่วนที่ทันสมัย สไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์ดั้งเดิมนี้ ตัดเย็บจากผ้ากาบาร์ดีนสั่งทำพิเศษที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดรอยยับ และถูกถักทอขึ้นที่ Burberry Mill ในยอร์คเชียร์
คาร์โค้ทสีน้ำเงินชาร์โคลเข้มถูกนำมาออกแบบใหม่และใช้ผ้าวูลผสมทอจากอิตาลี มาตัดเย็บในทรงปล่อย
การตัดเย็บที่ประณีตปรากฏให้เห็นในกางเกงขายาวทรงกระบอกผ้าวูลอิตาลีทอลาย twill ดีไซน์เอวสูงมาพร้อมกับการจับจีบคมชัด และปักโลโก้ประดับ และตัดเย็บทรงสูทตรงคลาสสิก เอวไม่ต่ำไม่สูงเกินไป
เสื้อผ้าสุดคลาสสิคอย่าง เสื้อสเวตเตอร์ปักลายใบต้นโอ๊คและโลโก้ ในส่วนของเสื้อผ้าไหมพรมมีทั้ง สเวตเตอร์คอเต่าผ้าแคชเมียร์เนื้อนุ่มทอลายสก๊อต ปักลายโมโนแกรม Thomas Burberry ที่บริเวณชายเสื้อ
เครื่องประดับ
กระเป๋ารุ่น Lola อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ผลิตจากหนังและประดับด้วยเลื่อม เบรกด้วยการกรุคริสตัลเป็นลาย Thomas Burberry Monogram ด้วยมือ นอกจากนี้ลาย Thomas Burberry Monogram ยังได้ถูกนำมาประยุกต์เป็นต่างหูหนีบสีทองและตกแต่งด้วยคริสตัล
กระเป๋าสำหรับสุภาพบุรุษแบบครอสบอดี้ลาย Exaggerated Check แต่งด้วยการเย็บตะเข็บอย่างประณีตบนขอบหนัง และประดับด้วยโลโก้ที่ทำจากวัสดุจากธรรมชาติ ส่วนกระเป๋าแมสเซนเจอร์ขนาดกะทัดรัดผ้าไนลอนจากประเทศอิตาลี ตกแต่งด้วยลาย Horseferry เงางาม พร้อมลายโมโนแกรม Thomas Burberry