เพื่อนร่วมงานเป็นบุคคลที่สาวๆอาจจะเจอบ่อยกว่าคุณพ่อคุณแม่ ต้องเห็นหน้ากันจันทร์ถึงศุกร์ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็นทุกวัน บางคนวันเสาร์ก็ต้องเจอ เพื่อนร่วมงานดีก็ดีไปค่ะ แต่ถ้าเจอเพื่อนร่วมงานแย่ นี่ล่ะเซ็งสุดๆ ทำให้บรรยากาศในการทำงานเสีย เห็นหน้าแล้วก็หงุดหงิด ไม่มีอารมณ์ทำงาน แล้วที่สำคัญไม่ได้แย่ถึงขั้นลาออกหนีได้ แค่ทำให้หงุดหงิดรำคาญใจ ซึ่งเฟียร์ซได้ทำการสำรวจจากเพื่อนๆหลากหลายอาชีพมาแล้วว่า “เพื่อนร่วมงานแบบไหนที่เธอยี้ที่สุด” จะมีพฤติกรรมแสบขนาดไหนไปดูกันเลยค่ะ
1. แขกดอย (คอยแดก)
เชื่อว่าโต๊ะทำงานของสาวๆจะต้องมีขนมนมเนย ที่เราอยากทานวางอยู่ข้างๆเม้าส์ แต่ถ้าปกติไม่ใช่คนกินจุบจิบก็จะเป็นพวกลูกอม ลูกกวาด มะขามจี๊ดจ๊าดวางไว้แก้ง่วง วางได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แขกมาแล้วค่ะ แขกดอย! เดินผ่านโต๊ะเราก็หยิบเข้าปาก กินก่อนขอทีหลัง หรือบางทีก็ไม่ขอ ทำเนียนตลกกลบเกลื่อน หยิบเข้าปากทีเผลอก่อนเจ้าของ คือ...ไม่ใช่งกนะ แต่ถ้าอดอยากขนาดนี้ขอกันดีๆก็ได้ แล้วประเด็นมันไม่ใช่ซื้อมาแชร์กันไง เวลาไปด้วยกันชวนซื้อนางก็ไม่ซื้อ อ้างกลัวอ้วนบ้าง อิ่มบ้าง ไม่อยากกินบ้าง รอเป็นแขกดอยสินะ อย่างนี้มันน่าจับตีก้นเสียให้เข็ด
Image source : giphy.com
2. ชอบยืม (แต่ขี้เกียจคืน)
ในการทำงานคนเราต้องมีของใช้ส่วนตัวบ้าง อย่างน้อยก็ต้องมีปากกาสักด้ามล่ะ ซึ่งปากกานี่แหละสิ่งที่เพื่อนร่วมงานชอบยืมมักจะยืมแล้วไม่คืน ยืมแล้วกลายเป็นของนางทันที ต้องคอยตามทวงอยู่บ่อยๆ หรือบางทีก็ยืมแล้วเอาไปวางทิ้งที่อื่น ไม่ยอมเอามาคืนเจ้าของ พอทวงก็หาว่างก ปากกาแท่งเดียวทำเป็นทวง นี่จะเปิดสงครามกันใช่มั้ยยยยย มันไม่ใช่แค่เรื่องปากกาค่ะ แต่เป็นเรื่องความรับผิดชอบ! ยืมอะไรใครไปก็ต้องเอามาคืนเอง
นี่ยังไม่นับพวกชอบหยิบของจากโต๊ะคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตนะคะ ทางที่ดีของๆเราอย่าไปวางล่อตะเข้ เก็บเข้าโต๊ะ ซ่อนให้มิดชิด อุปกรณ์ทำมาหากินของเราถึงไม่ได้ราคาแพง แต่ถ้าต้องใช้ขึ้นมาแล้วไม่มีมันหงุดหงิดมิใช่น้อย
Image source : giphy.com
3. ขาเม้าท์ (ชอบนินทา)
อันนี้น่าจะมีเยอะนะ เพราะคนไทยเป็นคนช่างพูดช่างเจรจา มานั่งเงียบๆไม่คุยเลยก็จะหาว่าหยิ่งอีก แต่การเม้าท์มอยหอยสังข์ในที่ทำงานนั้นต้องมีลิมิต ซึ่งเพื่อนร่วมงานขาเม้าท์ของเรานั้นสะกดคำว่า “ลิมิต” ไม่เป็น จนเลยเถิดกลายเป็นการนินทา สามารถนินทาได้ตั้งแต่แม่บ้าน รปภ. พนักงาน ยันประธานบริษัท ล้วงลึกถึงขั้นเกาะขอบเตียง อย่าได้เปิดเผยเรื่องชีวิตส่วนตัวให้นางรู้ เพราะถ้านางรู้เท่ากับทุกคนในบริษัทคือรู้! จะมองว่าเป็นสีสันก็ได้นะคะ ถ้าเขาคนนั้นทำงานเก่งพอๆกับพูดเก่ง แต่ถ้าถึงขั้นมโน พูดไม่จริง ปะติดปะต่อเรื่องราวไร้สาระ อันนี้ก็ไม่น่ารักเลยนะคะคุณเพื่อน ตื่นค่ะ!
Image source : giphy.com
4. ขาเผือก
“เผือก” ในที่นี้ไม่ใช่อาหาร แต่เป็นอาการอยากรู้อยากเห็นเรื่อง(ส่วนตัว)ของชาวบ้าน และมักจะเป็นเพื่อนร่วมงานคนเดียวกันกับ “ขาเม้าท์” เสียด้วย เพราะก่อนเม้าท์ก็ต้องมีการหาข้อมูลก่อน ด้วยการสอบถามจากแหล่งข่าวรอบข้าง เพื่อให้การเม้าท์มอยของเขาและเธอนั้นดูน่าเชื่อถือ ถ้ารู้เฉยๆแล้วไม่พูดต่อก็ไม่เป็นไรไง แต่รู้แล้วพูดต่อ รู้แล้วไม่เหยียบให้มิดอย่างนี้มันน่านัก ถ้าขาเผือกสนใจเรื่องงาน พอๆกับเรื่องชาวบ้าน ป่านนี้ได้เลื่อนขั้นไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้นะคะ
Image source : giphy.com
5. น้องนก (สองหัว)
เคยมีมั้ยคะ เพื่อนร่วมงานที่ต่อหน้าเราก็เข้าข้างเรา พอไปอยู่อีกฝ่ายก็เข้าข้างฝ่ายนั้น แล้วเอาเรื่องเราไปแฉ พอกลับมาเข้าพวกเราก็เอาเรื่องของฝั่งนั้นมาแฉ สรุปน้องนก อยู่ข้างไหนคะ พี่งง?! คอยแต่จะเอาจุดอ่อนของแต่ละฝ่ายออกมาแฉ นั่งโต๊ะไหนก็เป็นพวกคนนั้น แบบไม่อยากโดนใครเกลียด โดยเฉพาะพวกที่อยู่ต่อหน้าเราก็ร่วมกันลงมือด่าเจ้านาย เค้นให้เราพูดว่าบอสไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็เอาไปฟ้องเพื่อหวังผลงาน คือถ้าน้องนกไม่เปิดประเด็นพี่จะกล้าพูดมั้ย อย่างนี้ดาวจะไม่ยอมเด็ดขาด! แรงมาแรงกลับไม่โกงแน่นอนค่ะ
รัชนกผู้อุทิศตน via pantip.com
6. เติมฟืน ใส่ไฟ
สมมติว่าเรามีเรื่องขัดใจกันเล็กน้อยในที่ทำงาน ถ้าไม่มีใครสะกิดแผลเรื่องมันก็จะผ่านไป โดยไม่มีใครต้องเจ็บปวด แต่แล้วเพื่อนร่วมงานผู้กลัวความมืดของเรา ก็คอยเติมฟืนใส่เชื้อเพลิงให้ไฟนั้นโชติช่วงชัชวาลอยู่ตลอด เอ้า! เพลงขึ้น “โอ้เมื่อมีไฟ ไฟ ไฟ ลุกขึ้นแจ๋มจ้า~” สงสัยนางคงรักการเข้าค่ายลูกเสือมากสินะ เฝ้าแต่จะคอยเสี้ยมให้เรื่องไม่จบ ให้ทั้งสองฝ่ายเกลียดกันแบบไม่เผาผี อยากถามว่าทำเพื่ออะไรคะ? การทำงานมันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าไม่มีใครมาใส่ไฟ เราไม่ทะเลาะกันหรอกค่ะ ดังนั้นสาวออฟฟิศต้องสตรอง อย่าหวั่นไหวให้งูพิษเสี้ยมนะคะ
Image source : giphy.com
7. หนูไม่รู้
อีกหนึ่งประเภทเพื่อนร่วมงานที่มักทำให้หงุดหงิด เพื่อนร่วมงานที่ไม่ประสีประสา โดยอ้างว่า “หนูไม่รู้” ถ้าไม่รู้จริงๆยินดีจะสอนให้นะคะ แต่นี่ทำงานมา 5 ปีแล้วก็ยังไม่รู้ 10 ปีแล้วก็ยังทำไม่เป็น แต่พอถามเรื่องคนอื่นน่ะรู้ดี คนนั้นสามีคนนี้ คนนี้กิ๊กกับคนนั้น รู้หมด! พอเรื่องงานตัวเองปั๊บ หนูไม่รู้ หนูทำไม่เป็น ค่ะ! ขี้เกียจก็บอกมาไม่ต้องเขิน ถ้าแสวงหาความรู้ได้เท่ากับขุดเผือก ป่านนี้หนูเป็นผู้จัดการไปแล้วมั้งคะ หนูไม่ควรทำนาบนหลังเพื่อนร่วมงาน ควรรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ใช่อ้างหนูไม่รู้ให้คนอื่นช่วยทำไปเรื่อยๆ อย่างนี้ไม่แฟร์เลยค่ะ พี่ไม่โอเค
Image source : giphy.com
8. มือปลาหมึก
ผู้หญิงสวยๆน่าจะเคยเจอ เพื่อนร่วมงานมือปลาหมึก เข้าใกล้เมื่อไร “ขอผมจับขอผม touch~” แหมมมมม เนียนมากเลยนะคะ ทำมาเป็นนั่งชิด เดินมาจับไหล่บ้าง แตะแขนบ้าง ตีเนียนทำเป็นเพื่อนสนิท เห็นสาวๆตั้งวงก็มาแจมด้วยเสมอ พอเผลอก็จับนู่นจับนี่ มือเหนียวยิ่งกว่าปลาหมึก พอเราเริ่มสงสัยก็กลบเกลื่อนโดยการบอกว่า “มีแฟนแล้ว ไม่ต้องห่วง” ห่วงอะไรคะ? ทานโทษนะคะ จะห่วงสวัสดิภาพตัวเองต้องขออนุญาตใครมิทราบ ถ้าเจอแบบนี้อย่าไปทนนะคะสาวๆ
Image source : giphy.com
9. เร่งเครื่องใกล้งานเลิก
เพื่อนร่วมงานประเภทนี้มาถึงก็ปั๊มนิ้ว ปั๊มเสร็จก็ทานข้าวเช้า พอนั่งโต๊ะปุ๊บก็ชำเลืองมองโต๊ะนายนิดนึงว่ามารึยัง ถ้านายยังไม่มาก็แต่งหน้าก่อน ยังค่ะ ยังไม่เปิดคอมฯ ต้องเดินไปทักทายยามเช้ากับเพื่อนร่วมงานก่อน พอเปิดคอมฯทำงานได้แป๊ปเดียวก็พักเที่ยงแล้ว ทานข้าวเสร็จก็ต้องทานขนมต่อ ค่ะ! ทำตัวอย่างกับมาปิกนิกที่ทำงานเลยเนอะ พอใกล้ๆเลิกงานค่อยเร่งเครื่องแบบเต็มแรง พร้อมลุยแบบดับเครื่องชน เฮลโหลวววว ทำไมไม่รีบทำตั้งแต่ตอนมาถึง พองานหมดแล้วค่อยเล่นล่ะค่ะ ให้ตายเถอะ เขาจ้างมาทำงานนะคะ ไม่ได้จ้างออกจากบ้านมาตากแอร์เล่น อย่างนี้เป็นตัวอย่างไม่ดี ให้เด็กๆมันถอนหงอนเอาเสียเปล่าๆค่ะ
Image source : giphy.com
10. ขี้ใช้
เพื่อนร่วมงานบางคนก็เห็นเราเป็นบ่าวไพร่ในเรือน ชอบไหว้วานให้ทำนู่นทำนี่ให้เป็นประจำ อย่างเช่นหยิบนู่นหยิบนี่ “เดินผ่านครัวหยิบช้อนมาให้หน่อย” “ไปเซเว่นเหรอ ฝากซื้อของ” “ถ่ายเอกสารใช่มั้ย ฝากถ่ายด้วย” หลายคนสงสัยว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็รำคาญกันด้วยเหรอ แสดงว่ายังไม่เคยเจอคนขี้ใช้จริงๆล่ะสิ คนเหล่านี้แม้เพียงเรื่องเล็กน้อยที่ตัวทำเองได้ก็ใช้เรา ไล่ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆอย่างเรื่องงานก็ใช้เรา ใช้จนแทบอยากขอแบ่งเงินเดือนเลยล่ะค่ะ ไม่เคยเจอล่ะดีแล้วค่า~
Image source : giphy.com
ใครเจอครบทุกอย่างในบริษัทเดียวนี่ ขอตบมือให้กับความสตรองค่ะ ทนมาได้ขนาดนี้แปลว่าคุณแข็งแกร่งมาก ไม่ว่ายังไงคนพวกนี้ก็ฆ่าคุณไม่ตาย ขอแค่มุ่งมั่นทำงานต่อไป แบบโนสนโนแคร์ ทำสิ่งที่ตัวเองรักให้ดีที่สุดก็พอ จริงๆคนเหล่านี้ก็เป็นสีสันในที่ทำงานนะ ทำให้การมาทำงานของคุณไม่น่าเบื่อ มีเรื่องให้บันเทิงได้ตลอดดดด ถ้านิสัยไม่ได้แย่มาก บอกแล้วปรับปรุงแก้ไขกันได้ก็อย่าไปตั้งแง่ ไม่ชอบอะไรก็บอกกันดีๆ เชื่อว่าเขาฟังรู้เรื่องแน่นอน นี่มันเรื่องจริงนะคะไม่ใช่ในละคร ที่บอกไปแล้วเขาจะตบกลับ ต้องค่อยๆเรียนรู้ไปค่ะ ไม่แน่อาจจะได้เพื่อนซี้คนใหม่ก็ได้นะคะสาวเฟียร์ซ~