เฟียร์ซขอมาอัพเดตสถานการณ์ไวรัสโควิด -19 ในประเทศไทยที่ทำท่าเหมือนจะรุนแรงขึ้นทุกวันๆ แต่ทุกภาคส่วนกำลังรับมือป้องกันกันอย่างเต็มที่ แต่มีอะไรที่เราควรต้องรู้ไว้บ้าง เพื่อป้องกันและติดตามสถานการณ์ ไปชมกันเลยค่ะ
1. ตอนนี้พบผู้ป่วย 'โควิด-19' เพิ่มขึ้น 3 ราย
(Photo credit: freepik)
สธ.พบผู้ป่วยโควิด-19เพิ่ม 3 ราย
รายแรกเป็น ชายไทยอายุ 65 ปี มีประวัติเดินทางไปเที่ยวเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น กลับมา 3 วัน มีไข้ ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
รายที่ 2 เป็นภรรยาของรายแรก อายุ 62 ปี ไปเที่ยวฮอกไกโดด้วยกัน มีอาการไข้ ไอ
รายที่ 3 เป็นหลานชายอายุ 8 ปี ไม่ได้เดินทางไปเที่ยวด้วยกันแต่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย
2. วิธีการการกระจายตัวของเชื้อโรคที่มีโอกาสเสี่ยง
(Photo credit: freepik)
ยกตัวอย่างกรณีลุง ป่วย 1 คน ต้องตรวจติดตามคนสัมผัสประมาณ 50 คน ถึง 100 คน รวมบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยก็ 40 คน รามไปถึงคนในครอบครัวที่ไปทำงาน ไปโรงเรียน และลูกเรือและผู้โดยสารในเที่ยวบินเดียวกัน ตอนนี้ได้มีการควบคุมโรคมีรายชื่อทั้งหมดแล้วจะติดตามอาการจนครบ 14 วัน
3. ได้มีการสั่งปิดโรงเรียนหลานที่ป่วนเป็นโรคโควิด -19
(Photo credit: freepik)
ตอนนี้มีการสั่งให้เด็กทั้งหมดในห้องเรียนราว 30 คน หยุดเรียนเป็นเวลา 14 วันแล้ว เพื่อสังเกตอาการเท่านั้น ห้ามออกไปเที่ยว และเจ้าหน้าที่มีรายชื่อทุกรายเพื่อติดตามอาการจนครบ 14 วัน และตอนนี้ได้มีการสั่งปิดทั้งโรงเรียนแล้ว
4. สธ.ยืนยันประเทศไทยยังไม่ใช่ซุปเปอร์สเปรดเดอร์
(Photo credit: freepik)
ค่าเฉลี่ยผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้ 1 คน จะแพร่ไปยังคนอื่นได้ราว 2 คนกว่า แต่ผู้ที่จะเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์นั้นจะต้องแพร่ให้คนอื่นได้มากกว่าค่าเฉลี่ยหลายเท่า อาจถึง 10-20 คนได้
ในกรณีผู้ป่วยชายไทยรายล่าสุดนี้ ได้แพร่เชื้อให้คนอื่นเพียง 1 คน คือหลานชาย แม้จะสัมผัสกับคนจำนวนมาก แต่ก็ไม่ใช่จะเป็นซุปเปอร์ สเปรดเดอร์ ดังนั้นจึงต้องมีการติดตามผู้สัมผัสให้ครบ 14 วัน
5. ตามพรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ปกปิดข้อมูลมีความผิด
(Photo credit: bangkok)
คุณลุงผู้ป่วยรายล่าสุดเข้าข่ายการปกปิดประวัติ นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวว่า ตามพรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ได้กำหนดว่าการแจ้งพบผู้ป่วยเป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้านด้วย ถ้ารู้ว่ามีสมาชิกในบ้านป่วย และเกิดการร่วมกันปกปิด จะถือว่ามีความผิดฐานไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
6. โทษของการปกปิดข้อมูลเดินทาง รับโทษหนักคุก1ปี ปรับ1แสน
(Photo credit: freepik)
"พ.ร.บ.โรคติดต่อแห่งชาติ" ระบุ ปิดข้อมูลเดินทาง-ไม่เชื่อฟังเจ้าพนักงาน โทษหนักคุก1ปี ปรับ1แสน จากกรณีที่เริ่มมีการพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งปกปิดข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศในพื้นที่เสี่ยงต่อสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาตัว จนทำให้สถานพยาบาลแห่งนั้นต้องรีบตรวจสุขภาพของบุคลากรในสถานพยาบาลครั้งใหญ่ รวมทั้งทำให้สังคมโดยรวมกังวลกับพฤติกรรมดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก
7. 3 คนดัง ประกาศรับผิดชอบต่อสังคม กักตัวเอง 14 วันหลังไปเที่ยวประเทศเสี่ยง
(Photo credit: freepik)
"มอส-ทาทา-โบว์ แวนด้า" ประกาศรับผิดชอบต่อสังคม กักตัวเอง 14 วันหลังไปเที่ยวประเทศเสี่ยงโควิด -19
8.ทีเอ็มบีธนชาต ปิดสาขาดอนเมือง ป้องกันโรคระบาด
(Photo credit: tmbbank)
ธนาคารทีเอ็มบี และธนชาต แจ้งสั่งปิดแบงก์ธนชาต สาขาดอนเมืองทันที เพื่อฆ่าเชื้อป้องกันโควิด-19 หลังพบครอบครัวของพนักงานติดเชื้อ
9. แจ้งทุกคนควรงดไป 6 ประเทศกลุ่มเสี่ยง เลื่อนได้ควรเลื่อน
(Photo credit: freepik)
ผู้ที่กำลังเดินทางควรเลื่อนไปในประเทศเสี่ยงดังกล่าวได้แก่ จีน (รวมฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน) ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และเพิ่มอีก 2 ประเทศ คือ อิตาลี และอิหร่าน และอย่าเพิ่งไว้ใจประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และประเทศเสี่ยงเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุก
10. สธ. ขอให้ชะลอการชุมนุม ลดโอกาสเสี่ยงแพร่โควิด-19
(Photo credit: freepik)
สธ.เผยอีเวนต์คนรวมตัวเสี่ยงเชื้อแพร่มากขึ้น แนะนำว่าชุมนุมทางการเมืองขอให้ชะลอไปก่อนเพราะทางการแพทย์ถือว่าไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
11. 'หมอจุฬา' แจงผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ใน 1 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย
(Photo credit: freepik)
"ศ.นพ.ยง" แจงผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชี้เรื่องยากทำได้ใน 1 ปี เหตุต้องใช้เวลา เชื่อว่าประเทศจีนจะผลิตวัคซีนสำเร็จก่อนทางตะวันตก เพราะการระดมตัวของแพทย์ และเงินทุนในการคิดค้นยาต้านไวรัส
ทั้งหมดนี้คือการอัพเดตโรคโควิด -19 ที่ตอนนี้กำลังมีความเสี่ยงมากๆในประเทศไทย ยืนยันว่ายังไม่ใช่ ซุปเปอร์สเปรดเดอร์ แต่ยังคงต้องระวังกันต่อไปค่ะ