หลอนในหลอนค่ะทุกคน ใครที่ชอบเรื่องราวท้าทาย อยากเที่ยวอะไรที่แปลก แหวกแนวแบบที่ไม่ใช่การเที่ยวทั่วไปแน่นอน เฟียร์ซเลยขอมัดรวม 6 ที่เที่ยวเด็ดๆที่สุดจะหลอน บอกเลยว่าบางคนถ้าไปแล้วอาจจะขนหัวลุกฟูแน่นอน และแต่ละที่คือประวัติความเป็นมาน่ากลัวมาก จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ
1. Monte Cristo, Australia
(Photo Credit: Monte+Cristo+Historic+Homestead)
(Photo Credit: Monte+Cristo+Historic+Homestead)
มาเริ่มกันที่แรก ที่เคยเป็นคฤหาสน์ยุควิคตอเรียเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมือง Junee รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1885 ของตระกูล Crawley จนกระทั่งเรื่องราวร้ายๆเกิดขึ้นกับคนภายในบ้านที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ จุดเริ่มต้น เริ่มมาจากเด็กในตระกูล Crawley ได้ตกบันไดลงมา คอหักเสียชีวิต ต่อมาก็เป็นแม่บ้าน ที่ตั้งท้องลูกน้อยอยู่ ก็มาตกระเบียงจนเสียชีวิต อีกไม่นานหลังจากนั้น ก็เกิดเหตุไฟไหม้โรงนาคนงานที่อาศัยอยู่ ทุกคนถูกไฟคลอกจนเสียชีวิต เหตุการณ์โศกนาฏกรรมอย่างต่อเนื่องทำให้ฐานะของตระกูล Crawley เสื่อมลงเรื่อยๆ พร้อมกับความเชื่อว่าอาจเพราะอาถรรพ์อะไรบางอย่างของพื้นที่บริเวณนี้
ต่อมา หลังจากนั้นที่นี่ก็ได้พัฒนามาเป็นโรงแรมในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีมีเรื่องหลอนๆอยู่ จนไม่มีใครอยากจะมาพักผ่อนที่นี่ เจ้าของเลยได้เปลี่ยนที่นี่เป็นทัวร์ไปซะเลย โดยมีค่าบริการอยู่ที่ 125 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน สำหรับทัวร์ผีและอาหารมื้อค่ำ และอีกแพคเกจราคา 195 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน สำหรับที่พักหนึ่งคืน อาหารค่ำและอาหารเช้า ตอนนี้จึงกลายเป็นสถานที่พักกึ่งพิพิธภัณฑ์บ้านโบราณไปพร้อมๆ กัน หลายคนที่ไปต่างลงความเห็นว่าที่นี่หลอนแบบสุดๆ ไม่ธรรมดาจริงๆค่ะต้องลอง!
พิกัด: 1 Homestead Ln, Junee NSW 2663 Australia
Map: www.google.com/maps/place/Monte+Cristo
2. Catacombs of Paris, France
(Photo Credit: Les Catacombes de Paris)
(Photo Credit: Les Catacombes de Paris)
มายังสถานที่ที่ 2 ที่นี่เคยเป็นเหมืองแร่อยู่แถวๆ บริเวณนอกเมือง และเป็นสถานที่ที่ส่งวัสดุก่อสร้างให้ในเมือง แต่ภายหลังที่เมืองมีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น สถานที่แห่งนี้เลยได้กลายเป็นที่สำหรับฝังศพ เพราะว่าในศตวรรษที่ 18 สุสานต่างๆ รวมไปถึงสุสานที่ใหญ่ที่สุดในปารีสที่ชื่อว่า Les Innocents มีที่ไม่พอสำหรับฝังศพคนตาย จึงทำให้ศพมีจำนวนมากและล้นสุสานจนชาวบ้านแถวนั้นต้องร้องเรียน ในปี ค.ศ. 1786 จึงมีการย้ายศพจากสุสานต่างๆ ในเมืองไปยัง Catacombs โดยใช้เวลาประมาณ 2 ปีเพื่อขนย้ายกระดูกทั้งหมด
7 ปีให้หลังที่นี่จึงเปิดเป็นที่สาธารณะให้คนเข้ามาดูได้ แต่ก็ไม่ได้เปิดให้เข้าไปได้ทุกส่วน หากแอบเข้าไปในส่วนอื่นๆ ก็จะมีโทษทางกฏหมาย เดินไปทางไหนก็รายล้อมไปด้วยกระดูกและหัวกระโหลกของคนตาย ก็จะมีความสยองอยู่เสมอค่ะ มีเรื่องเล่ามากมายที่นี่ และก็มีคนถ่ายคลิปเห็นเงาประหลาดๆ ในนี้บ่อยๆด้วยค่ะ
พิกัด: 1 Avenue du Colonel Henri Rol-Tanguy, 75014 Paris, France
Map: www.google.com/maps/place
3. Ochiai Bridge and Akabashi Tunnel, Japan
(Photo Credit: hidingfromjapaneseghosts)
มากันถึงประเทศญี่ปุ่นที่ต้องบอกว่า ขึ้นชื่อในเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เราจะพามาที่ที่ไม่มีคนอยู่อาศัย และไม่มีแม้กระทั่งรถขับผ่านไปมา ถือได้ว่าเป็นที่ที่ไม่ค่อยมีใครอยากย่างกรายเข้ามากันเลยทีเดียว เพราะประวัติของที่นี่ ขึ้นชื่อว่ามีคนชอบมาฆ่าตัวตาย เพราะอย่างที่บอกเลยค่ะว่าที่นี่แถบจะไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เลย นอกจากนั้นที่นี่ยังมีความเงียบสงบ และความเย็นยะเยือกของป่า ที่ทำให้เรารู้สึกขนหัวลุกกันไปตามๆกัน
มีเรื่องเรื่องเล่ามากมายเลยค่ะว่าที่ปลายอุโมงค์นี้มักจะมีเงาดำยืนรอคอยเราอยู่ปลายอุโมงค์และเมื่อเราเข้าไปหาเงาดำนั้นก็จะหายไป...
พิกัด: 2197 Umaji, Aki District, Kochi 781-6201 Japan
Map: www.google.com/maps/place/Ochiai+
4. Edinburgh Castle, Scotland
(Photo Credit: PrimoPiazzaPage)
(Photo Credit: PrimoPiazzaPage)
ที่นี่เด็ดยังไง ที่นี่เคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก โดยนิตยสาร Times ค่ะ กับปราสาทเอดินเบิร์ก ที่นี่ถูกก่อสร้างขึ้นในช่วงยุคศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่บนหินผา วิวจะสวยแบบสกอตแลนด์เลยค่ะ แต่เรื่องเล่าของปราสาทนี้ก็น่ากลัวอย่าบอกใคร เพราะที่นี่เคยเป็นคุกขังนักโทษมาก่อน เพราะฉะนั้น บรรยากาศก็จะอบอวลไปด้วยความตาย อีกทั้งยังเคยถูกใช้เป็นที่ฝังศพคนต่างจากโรคระบาดอีกด้วยค่ะ
และที่นี้ก็มีเรื่องเล่าด้วยนะคะ เขาเล่ากันว่า ตำนานของ Lady Glamis ที่ถูกเผาทั้งเป็นต่อหน้าลูกชายของเธอเอง ในปี 1537 ด้วยข้อหาแม่มด ซึ่งวิญญาณของเธอยังคงวนเวียน ทวงถามความยุติธรรมที่ควรได้รับ ใครที่เข้ามที่นี่ก็จะมีความรู้สึกอึดอัดคล้ายถูกจ้องมองอยู่ตลอดจากมุมมืด เงาที่ปรากฎอยู่ตามห้องขัง และความรู้สึกคล้ายถูกเผาไหม้อย่างไม่ทราบสาเหตุ
พิกัด: Castlehill, Edinburgh EH1 2NG Scotland
Map: www.google.com/maps/place/Edinburgh
5. Himeji Castle, Japan
(Photo Credit: 姫路城)
(Photo Credit: 姫路城)
บอกเลยว่าเราจะยังไม่จบกับปราสาทง่ายๆค่ะ ต้องมาต่อกันด้วยที่ปราสาทฮิเมจิ ที่เป็นหนึ่งในมรดกโลกที่รอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อีกชื่อจะเรียกว่า ปราสาทนกกระสาขาว เป็นปราสาทที่ออกแบบได้ซับซ้อนทั้งด้านในและด้านนอก มีอาคารเชื่อมต่อกันประมาณ 83 อาคาร เพราะว่าเป็นปราสาทที่ใช้ป้องกันศัตรูจากภายนอกในยุคสงครามกลางเมือง
ที่นี่จะมีตำนานมากมาย เช่น ถ้าใครอยู่ภายในปราสาทประมาณ 4 โมงเย็น แล้วยังไม่ออกจากตัวปราสาทภายน 2 ชั่วโมง จะทำให้หลงทาง หาทางออกไม่เจอ หลอนมากค่ะแม่ การที่เราติดอยู่ที่ไหน แล้วอยากจะออกแต่ออกไม่ได้ คือที่สุดของความน่ากลัวแล้ว
พิกัด: 68 Honmachi, Himeji, Hyogo 670-0012 Japan
Map: www.google.com/maps/place
6. Leap Castle, Ireland
(Photo Credit: Leap Castle, Ireland)
(Photo Credit: Leap Castle, Ireland)
มากันถึงปราสาทสุดท้ายกับปราสาทลีป ที่มีอายุกว่า 400 ปี และได้การรับยกย่องว่าเป็นปราสาทที่เฮี้ยนที่สุดในไอร์แลนด์ หลังจากคนในตระกูล โอ คารอลได้ทำการต่อสู้แย่งชิงสิทธิ์ความเป็นผู้นำ เลยเกิดการสังหารหมู่ภายในตระกูลรุ่นแล้วรุ่นเล่า ที่เรียกได้ว่ามีความโหดเหี้ยมแบบสุดๆ
และได้มีการค้นพบว่า ที่นี่มีคุกลับแบบยุโรปยุคกลาง ที่เรียกว่า Oubliette มีลักษณะเป็นเกาะกลางเหว ด้านล่างจะมีกับดักเป็นหนามแหลมเพื่อป้องกันนักโทษหลบหนี และยังมีกระดูกของนักโทษมากมายทับถมกันอยู่ภายในคุกอีกด้วยค่ะ
พิกัด: R421, Leap, Roscrea, Co. Offaly,Ireland
Map: www.google.com/maps/place/Leap+Castle
ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นสถานที่หลอนๆที่อยู่ทั่วทุกมุมโลก เฟียร์ซเชื่อว่าความหลอนมีอยู่ทั่วทุกที่ไม่ใช่แค่ที่ไทยแน่นอน หากใครสนใจหรือมีประสบการณ์ที่ไหน สามารถร่วมกันแชร์ได้เลยนะคะ