6 ข้อควรรู้ 'ช้อปดีมีเงินคืน' ไว้ลดหย่อนภาษี สูงสุด 30,000 บาท!!

สายช้อปต้องร้องกรี้ดดด! เพราะวันนี้เฟียร์จะพาทุกคนไปทำความรู้จัก ‘ช้อปดีมีคืน’ โครงการล่าสุดจากรัฐที่จะเข้ามากระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศที่พิเศษสำหรับบุคคลที่เสียภาษีเงินได้นั้นเองค่าาา จะมาอธิบายแบบง่ายๆเลย จะมีอะไรที่ต้องรู้บ้าง ไปชมกันเลยค่าาาา

1. รู้จักกับ 'ช้อปดีมีเงินคืน'

(Photo credit: envato.com)

โครงการช้อปดีมีคืนที่รัฐบาลจัดทำขึ้นมาเพื่อที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศในช่วงท้ายปีนั้นเองค่าาา สำหรับบุคคลที่เสียภาษีเงินได้ โดยที่เราสามารถนำมาเป็นการลดหย่อนภาษีประจำปี 2563 ได้นั้นเองค่ะ จากการนำค่าซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนภาษีเงินได้ตามจำนวนจ่ายจริง สูงสุด 30,000 บาทต่อคนเลยค่ะ เยอะม๊ากกกก

2. อัตราของภาษีคืนที่จะได้รับ

(Photo credit: envato.com)

เราจะได้เงินภาษีที่จะได้คืนไม่เท่ากันนะคะในโครงการนี้ จะขึ้นอยู่กับเงินได้และอัตราภาษีที่แต่ละคนต้องจ่ายนะคะ สามารถดูได้ตามสิทธิ์ด้านล่างเลยค่าา

- เงินได้สุทธิต่อปี 5,000,001 บาทขึ้นไป มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 10,500 บาท

- เงินได้สุทธิต่อปี 2,000,001-5,000,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 9,000 บาท

- เงินได้สุทธิต่อปี 1,000,001-2,000,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 7,500 บาท

- เงินได้สุทธิต่อปี 750,001-1,000,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 6,000 บาท

- เงินได้สุทธิต่อปี 500,001-750,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 4,500 บาท

- เงินได้สุทธิต่อปี 300,001-500,000 บาท มีสิทธิ์ได้คืนภาษีสูงสุด 3,000 บาท

- เงินได้สุทธิต่อปี 150,001-300,000 บาท มีสิทธิ์คืนภาษีสูงสุด 1,500 บาท

- สำหรับผู้ที่มีเงินได้สุทธิต่อปี 0-150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษีค่ะ โดยไม่ได้สิทธิ์คืนภาษีจากโครงการช้อปดีมีคืน

3. คนที่สามารถใช้สิทธิ์โครงการนี้

(Photo credit: envato.com)

คนที่มีสิทธิ์คือผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะได้รับสิทธิ์ในโครงการช้อปดีมีคืนค่ะ ส่วนคนที่ถูกยกเว้นจะเป็นผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ที่ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่ง ที่จะไม่ได้รับสิทธิ์ในโครงการนี้นั้นเองค่ะ

4. สินค้าที่ร่วมรายการ

(Photo credit: envato.com)

สินค้าที่ร่วมรายการที่เราสามารถช้อปได้แบบฟินๆแล้วนำมาลดหย่อนภาษีในโครงการช้อปดีมีเงินคืน มีดังนี้ค่ะ

1.สินค้าและบริการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม นั้นก็คือสินค้าที่เราต้องเสีย Vat ค่ะ นั้นก็คือสินค้าในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เกต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารที่จดทะเบียน VAT หรือร้านค้าทั่วไปที่ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปได้ค่ะ รวมไปถึงร้านค้าออนไลน์ที่สามารถออกไปกำกับภาษีให้เราได้เต็มจำนวนก็สามารถนำมาร่วมรายการด้วยเช่นเดียวกันนะคะ

2. สินค้า OTOP ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว และมีหลักฐานเป็นใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปค่ะ

3. หนังสือทั้งแบบเล่ม และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) โดยจะไม่รวมกับนิตยสารและหนังสือพิมพ์ค่ะ

5. สินค้าที่ไม่ร่วมรายการ

(Photo credit: envato.com)

สินค้าที่เราไม่สามารถนำมาร่วมรายการได้ จะมีดังนี้ค่ะ เหล้า, เบียร์, ไวน์, บุหรี่หรือยาสูบ, ค่าน้ำมันและก๊าซที่ใช้เติมยานพาหนะ, ค่าซื้อรถยนต์, ค่ามอเตอร์ไซค์, ค่าเรือ, ซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสารทั้งรูปเล่มและอิเล็กทรอนิกส์, ค่าบริการจัดนำเที่ยว

6. ระยะเวลาการใช้สิทธิ์