วันนี้เฟียร์ซจะลองมาจำแนกความเชื่อผิดๆที่ทำให้การลดน้ำหนักของเราไม่สำเร็จสักที เพราะว่าที่จริงแล้วเรื่องพวกนี้สำคัญม๊ากกก เรียกได้ว่าถ้าเข้าใจผิดหรือทำพลาดไป น้ำหนักเราอาจจะไม่ลดหรือถ้าลดได้ก็จะได้มาแบบสุขภาพไม่ดีนั้นเอง จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลยค่าาาา
1. คิดว่าเราอ้วนเพราะไขมัน แต่ที่จริงเป็นเพราะน้ำตาล
(Photo credit: envato.com)
เอาจริงๆเลยก็คือ หลายคนพยายามที่จะหลีกเลี่ยงไขมันกันหนักมากกก เพราะคิดว่าไขมันคือตัวดีในการที่ทำให้เรามีน้ำหนักตัวขึ้น แต่ที่จริงแล้วการที่เรากินหวาน กินน้ำตาลโดยที่ไม่มีวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆเลย อันตรายเช่นกันค่ะเพราะว่าจะเป็นการไปรบกวนการดึงพลังงานจากสารอาหารอื่นๆไปใช้ ทำให้เราเสียสมดุลแล้วสารอาหารส่วนนั้นก็จะถูกนำไปสะสมเป็นไขมันมากขึ้นนั้นเองค่ะ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำตาลอันตรายกว่าไขมันค่ะ
2. คิดว่าออกกำลังกายอย่างเดียวน้ำหนักจะลด
(Photo credit: envato.com)
เอาจริงๆแล้วการที่เราจะลดน้ำหนักนั้น ต้องมีปัจจัยหลายๆอย่างเข้าด้วยกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การคุมอาหาร และการพักผ่อนที่เพียงพอ ถ้าเราอยากจะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง แน่นอนว่าผลที่ตามมาไม่เป็นไปตามที่เราต้องการแน่นอน ซึ่งถามว่าแย่ไหม ไม่แย่เลยค่ะ เราอาจจะเป็นคนอวบที่แข็งแรงก็ได้เช่นกัน คือมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง แต่มีน้ำหนักและสัดส่วนที่ยังไม่ดี และยิ่งไปกว่านั้น เรายังเสี่ยงอ้วนมากขึ้นกว่าเดิมด้วย เพราะว่าถ้าเราคิดว่าเราออกกำลังกายแล้ว กินเท่าไหร่ก็ได้ ทำให้เราไม่ใส่ใจกับอาหาร แล้วพวกค่าไขมันและน้ำตาลในเลือดก็จะตามมา แล้วยิ่งคนที่รูปร่างผอมที่ไม่สนใจว่าเราจะกินอะไรเข้าไปด้วยแล้ว ยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่เลยค่ะ จะเห็นได้ว่าเรื่องอาหารการกินนั้นสำคัญมากๆสำหรับสุขภาพ และยังสามารถทำให้เราหุ่นดีหรือไม่ ได้ด้วยเช่นกันค่าาา
3. สนใจแต่แคลอรี่ไม่สนใจประเภทอาหาร
(Photo credit: envato.com)
ถ้าสาวๆคนไหนยังเป็นคนที่คิดว่า 1 แคลอรี่ของอาหารประเภทหนึ่งเท่ากับ 1 แคลอรี่ของอาหารอีกประเภทเป็นความเข้าใจผิดค่ะทุกคน เพราะว่ามันไม่เหมือนกันเลย เราต้องมาคิดกันใหม่แล้วค่ะ ถึงแม้ว่ามันอาจจะถูกนำมาเปรียบเทียบในเชิงปริมาณที่เท่ากัน ก็น่าจะให้พลังงานเท่าๆกัน นั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกค่ะ เพราะแคลอรี่ในผัก กับแคลอรี่ในขนมเค้ก ก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ สิ่งที่เราควรใส่ใจคือสารอาหารที่ได้จากสิ่งที่เรากินมากกว่า ไม่ใช่พลังงานที่เราได้รับ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ถ้าเราทานอาหารเช้า ปริมาณพลังงาน 300 กิโลแคลอรี่ แต่ว่ามีแต่คาร์โบไฮเดรต ไขมันและโซเดียม มันก็ย่อมต่างจากการที่เรารับประทานอาหารพลังงาน 300 เท่ากัน แต่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ มีคาร์โบไฮเดรตเพียงพอ และโซเดียมน้อยนั้นเองค่าาา
4. สนแต่ตัวเลขน้ำหนัก ไม่สนใจมวลกล้ามเนื้อ
(Photo credit: envato.com)
ในการลดน้ำหนักนั้น เราไม่สามารถสนใจได้เพียงเฉพาะกับตัวเลขของน้ำหนักเท่านั้นนะคะ เพราะว่าที่จริงแล้วน้ำหนักของเราแทบจะบอกอะไรเราไม่ได้เลย คนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หากลดในช่วงแรก สิ่งที่ออกไปอาจไม่ใช่ไขมันแต่เป็นเพียงน้ำในร่างกายเราเท่านั้นที่ถูกขับออกไป หรือสาวๆคนไหนที่ลดน้ำหนักโดยการอดอาหาร สิ่งที่หายไปเป็นอย่างแรกๆอาจไม่ใช่ไขมัน แต่เป็นมวลกล้ามเนื้อค่ะ ซึ่งผลกระทบเชิงลบที่จะเกิดขึ้นก็คือ กล้ามเนื้อที่ปกติแล้วจะเผาผลาญสิ่งที่เรากินเข้าไป ยิ่งมีเยอะเท่าไหร่ ยิ่งเผาผลาญได้เยอะ หากขาดตัวนี้ไปแล้ว จะทำให้เราน้ำหนักขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม ไม่มีความแข็งแรงและสัดส่วนก็จะไม่กระชับนั้นเองค่ะ
5. งดแป้งไปเลย ต้องทำแบบหักดิบ!
(Photo credit: envato.com)
ที่เราไม่สามารถงดแป้งไปเลยนั้นก็เพราะว่า แป้งเป็นพลังงานหลักของร่างกาย ช่วยให้เรามีแรงในแต่ละวัน แล้วก็จะไม่ทำให้เราหิวบ่อย สิ่งที่เราควรใส่ใจก็คือการเลือกประเภทของแป้ง พยายามหาคาร์บที่ดี เช่น ขนมปังโฮลวีทแทนขนทปังธรรมดา หรือทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว และพยายามจำกัดไว้แต่พอดีค่ะ ไม่ให้มากเกินไปที่ร่างกายต้องการ หรือก็คือไม่กินตามใจปากนั้นเองค่ะ เพราะฉะนั้นเราไม่ควรเลิกขาดไปเลย ส่วนใครที่คิดจะลดแล้วรู้สึกว่าลดยากจัง ก็ขอแนะนำว่าค่อยเป็นค่อยไปให้ร่างกายได้ปรับตัวจะดีกว่านั้นเองค่าา
6. เครื่องดื่มไม่ทำให้อ้วนมากหลอก
(Photo credit: envato.com)
เรื่องเครื่องดื่มที่ทุกคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็ก อาจไม่เล็กอีกต่อไปค่ะ เพราะว่าในหนึ่งแก้วของชานมไข่มุข อาจเทียบเท่าได้กับ 300-400 แคลอรี่เลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลต่างๆที่ต้องบอกว่าตัวดีในการทำให้เราควบคุมน้ำหนักไม่ได้เลยค่ะ แล้วยิ่งเราทานเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากๆ น้ำหนักเราก็จะไม่ลดสักทีนั้นเองค่าาา
7. อดอาหารทำให้ผอมเร็ว
(Photo credit: envato.com)
การอดอาหารก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้กันค่ะ ซึ่งถ้าร่างกายของเรามีภาวะการอดอาหาร สิ่งที่ร่างกายเราจะทำต่อไปนั้นก็คือ จะนำไขมันส่วนเกินของเรามาใช้ และจากนั้นก็จะนำกล้ามเนื้อมาใช้ แรกๆจะลดได้เร็ว แต่ที่ลดจริงๆแล้วส่วนใหญ่คือน้ำและกล้ามเนื้อค่ะ ที่สำคัญคือจะมีอาการโยโย่เกิดขึ้นตามมาด้วย ซึ่งแก้ยากมากด้วยค่ะ
8. ใกล้มีประจำเดือนทีไรจะกินเยอะ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
(Photo credit: envato.com)
อาการกินเยอะช่วงใกล้มีประจำเดือนเป็นความผิดปกตินะคะ อาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นอาการที่เรียกว่า PMS หรือ Premenstrual Syndrome คือกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนที่เจอได้เกือบ 80% ของสาวๆ โดยเฉพาะช่วงอายุ 20-40 ปี เป็นอาการที่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองป่วย ไม่สบายตัว มีอารมณ์หงุดหงิด เหวี่ยงวีนง่ายกว่าปกติ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น อยากกินอาหารตลอดเวลา หิวบ่อย ตัวบวม ไม่มีแรง ปวดหัว ปวดหลัง นั้นเองค่ะ โดยสาเหตุของโรคนี้เป็นไปได้ว่าเราอาจจะเครียดเกินไป ทางแก้ง่ายๆคือทานของที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย พบปะผู้คน ทำใจให้สบาย แล้วก็พักผ่อนให้เพียงพอนั้นเองค่ะ
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ 8 ข้อที่เราชอบเข้าใจผิดเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องการลดน้ำหนัก หากใครคิดเห็นอย่างไร สามารถแชร์ความคิดเห็นเพิ่มเติมได้เลยนะค้าาาา
