Follow us on

BEAUTY

FIERCE STORY

23 สัญลักษณ์ในเครื่องสำอางและสกินแคร์

Written by APPantira
Created: Apr 21, 2021 22:27 | Published date: Aug 27, 2021 19:38

สำหรับใครที่อยากจะรู้ที่มาที่ไปของสกินแคร์หรือเครื่องสำอางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทดลองกับสัตว์ไหม หรือจะเป็นเรื่องส่วนผสมต่างๆว่าธรรมชาติแค่ไหน ออแกนิคหรือเปล่า เราสามารถดูได้ที่ตัวแพคเกจเลยค่ะ เพราะว่าจะมีสัญลักษณ์ต่างๆคอยบอก เพราะฉะนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลยค่า

Beauty สัญลักษณ์ในเครื่องสำอาง เครื่องสำอาง เครื่องหมายในเครื่องสำอาง เครื่องหมายในสกินแคร์


21460 0 0

Photo Credits:

สำหรับใครที่อยากจะรู้ที่มาที่ไปของสกินแคร์หรือเครื่องสำอางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทดลองกับสัตว์ไหม หรือจะเป็นเรื่องส่วนผสมต่างๆว่าธรรมชาติแค่ไหน ออร์แกนิคหรือเปล่า เราสามารถดูได้ที่ตัวแพคเกจเลยค่ะ เพราะว่าจะมีสัญลักษณ์ต่างๆคอยบอก เพราะฉะนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลยค่า

 

1. Cruelty-free/Not tested on animals

 

(Photo credit: avery)

มาเริ่มกันที่ตัวแรก ก็คือ cruelty-free ไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จะเป็นเครื่องสำอางที่ปราศจากการทดลองกับสัตว์ ถือว่าเป็นคลื่นลูกใหม่มาแรงในสาวๆ สายอนุรักษ์มากๆ ถ้าอยากรู้ว่าสินค้าตัวไหนใช่ หรือไม่ใช่ cruelty-free ดูง่ายมากค่ะ ให้หาฉลากรูปกระต่ายที่เขียนว่า ‘Not tested on animal’, ‘cruelty-free’ หรือโลโก้กระต่ายกระโดดก็ใช่นะคะ 

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Hourglass Cosmetics, IT Cosmetics, Rare Beauty, Cover FX Skin Care, ColourPop Cosmetics

 


2. USDA's National Organic Program

 

 

(Photo credit: ams)

ตัวนี้เป็นตรารับรองจาก U.S. Department of Agriculture สำหรับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคของสหรัฐอเมริกา เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์ผลิตจากส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิค คือมาจากธรรมชาติและไม่มีการใช้สารเคมีหรือการตัดต่อพันธุกรรมหรือฆ่าเชื้อโรคโดยการฉายรังสี ในสัดส่วนที่มากกว่า 95% สินค้าที่ขอสัญลักษณ์ USDA organic ได้แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ สินค้าที่มีส่วนผสมเป็นออร์แกนิค 100% และ สินค้าที่มีส่วนผสมเป็นออร์แกนิคไม่น้อยกว่า 95% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเป็นออร์แกนิคน้อยกว่า 95% จะไม่สามารถใช้สัญลักษณ์ USDA organic ได้ แต่ถ้ามีส่วนผสมเป็นออร์แกนิคไม่น้อยกว่า 70% จะสามารถระบุบนฉลากว่าใช้ส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิคได้ เช่น “Made with organic ingredients” หรือถ้ามีส่วนผสมเป็นออร์แกนิคน้อยกว่า 70% จะสามารถระบุว่ามีส่วนผสมบางส่วนเป็นออร์แกนิคได้ “Some organic ingredients” นั่นเองค่า

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Badger Company, Giovanni 2chic

 


3. Vegan Society

 

(Photo credit: theflamingvegan)

สำหรับเครื่องสำอางที่มีสัญลักษณ์ Vegan นั้นแปลว่าผลิตภัณฑ์ปราศจากส่วนผสมที่ได้มาจากหรือทดสอบกับสัตว์นั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขี้ผึ้งต่างๆ หรือไขมันสัตว์ก็จะไม่มีค่า

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: The Body Shop, Vaia Beauty, Bao Skincare

 


4. Fairtrade

 

(Photo credit: oriflame)

ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก Fairtrade จะเน้นเรื่องระบบการค้าที่เป็นธรรม ไม่เอาเปรียบต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่เกษตรกร ผู้แปรรูปสินค้า รวมไปถึงผู้ใช้แรงงานในระบบ มีการรักษาราคาตลาด และช่วยเหลือเกษตรกรตามความเหมาะสม รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาจะต้องไม่ทำลายธรรมชาติอีกด้วยค่ะ

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Neal's Yard Remedies, The Body Shop, i+m 

 



5. Non-Toxic

 

(Photo credit: iconfinder)

ตัวเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่เขียนว่า Non-Toxic คือสินค้านั้นๆจะไม่มีส่วนผสมที่เป็นสารพิษ ที่จะสามารถทำให้ผิวระคายเคือง หรืออาจถึงขั้นร้ายแรงได้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อฮอร์โมนในร่างกายหรือโรคร้ายอย่างมะเร็ง

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: 100% Pure, Neal's Yard Remedies

 


6. The Roundtable on Sustainable Palm Oil (RSPO)

 

 

(Photo credit: rspo)

นอกจากเราจะใช้น้ำมันปาล์มในการบริโภคในชีวิตประจำวันแล้วนะคะ  น้ำมันปาล์มยังนำไปใช้ในส่วนของอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร เครื่องสำอางด้วยค่ะ หลายคนคงเคยเห็นแคมเปญการรณรงค์ช่วยเหลือลิงอุรังอุตังที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ นั่นมีที่มาจากการรุกล้ำพื้นที่ป่าในประเทศอินโดนิเซียที่ขึ้นชื่อว่าปลูกปาล์มมากที่สุด นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ว่าเราต้องมีการปลูกปาล์มอย่างยั่งยืน หรือมาตรฐาน The Roundtable on Sustainable Palm Oil (RSPO) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เพื่อส่งเสริมให้การเติบโตของน้ำมันปาล์มที่ไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อม และไม่เกิดการตัดไม้ทำลายป่าด้วยค่า

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Weleda, Lush, PHB Ethical Beauty

 


7. Responsible Forest Management

 

(Photo credit: forestsolutions)

FSC หรือที่ย่อมาจาก Forest Stewardship Council™ หรือภาษาไทยก็คือ องค์การจัดการด้านป่าไม้ ซึ่งมีการกำหนดนโยบายโดยสมาชิกจากภาคส่วนสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อให้การจัดการป่าไม้ของโลกเป็นไปอย่างรับผิดชอบนั้นเองค่ะ และด้วยระบบการรับรองที่เข้มงวดจะต้องมีการระบุและตรวจสอบแหล่งที่มาของไม้ได้ จึงจะได้รับมาตรฐาน FSC นั้นเองค่า

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Vapour, Antonym Cosmetics

 

 

8. ZeroList™

 

(Photo credit: panpuri)

ภายใต้มาตรฐาน ZeroList™ ปัญญ์ปุริได้แบนส่วนผสมกว่า 2,300 ชนิดที่อาจเป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ทางปัญญ์ปุริจึงเลือกใช้แค่ส่วนผสมที่ดี มีประสิทธิภาพ และจำเป็นต่อผิวเท่านั้น เพราะฉะนั้นเรามั่นใจได้เลยค่ะว่าเราได้ของดีที่สุดเท่านั้นค่า

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Panpuri

 

 

9. Gluten-free

 

(Photo credit: avery)

กลูเตน เป็นส่วนประกอบของโปรตีนที่พบในข้าวสาลี และธัญพืชอื่นๆ เช่น ข้าวบาร์เลย์ และข้าวไรย์  สำหรับคนที่แพ้กลูเตน หากเป็นการรับประทาน จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และมีผลต่อการทำลายเยื่อบุลำไส้เล็ก และ หากเป็นการอาการทางผิวหนัง คือ "มีผื่นแดง" "อาการคัน ระคายเคือง" ถึงแม้ฟังดูแล้วอาจจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเครื่องสำอาง แต่เครื่องสำอางหลายแบรนด์ใช้ส่วนผสมที่เป็นกลูเตน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม หรือแม้แต่ลิปสติก เพื่อความติดทนนานต่างๆ หากคุณไม่แน่ใจ ว่าใช้เครื่องสำอางชิ้นนั้นๆแล้ว ยังรู้สึกระคายเคืองอยู่ ทางที่ดีที่สุด คือ ตรวจผิวหนัง หรือเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกลูเตน โดยดูที่บรรจุภัณ์ที่ระบุว่า Gluten-free นั้นเองค่า

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Ecco Bella, E.L.F., Lancome, NARS Cosmetics, Nivea, Too Faced Cosmetics

 

10. Recycle Sign

 

(Photo credit: recyclenow)

ถ้าใครเห็นสัญลักษณ์ตัวนี้ ลูกศร 3 ตัว วนกันเป็นรูปสามเหลี่ยม นั่นบ่งบอกว่าแพ็คเกจของผลิตภัณฑ์นี้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ค่ะ

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Aveda, Origins, Lush

 

 

11. GREEN DOT

 

(Photo credit: oxygenetix)

สัญลักษณ์ลูกศรสีเขียวที่เชื่อมต่อกันในวงกลม สัญลักษณ์นี้ถูกใช้ในประเทศในสหภาพยุโรปเพื่อแสดงว่าผู้ผลิตได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่องค์กรผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลจัดการการกู้คืนและรีไซเคิลขยะบรรจุภัณฑ์ที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมโดยมีการกำจัดขยะบรรจุภัณฑ์อย่างถูกวิธีค่ะ

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: The Ordinary, Yves Rocher

 

 

12.Made Safe®

 

(Photo credit: seekpng)

Made Safe® เป็นตราประทับปลอดสารพิษของอเมริกา ตัวผลิตภัณฑ์จะได้รับการกลั่นกรองอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่ามีผลต่อสุขภาพของมนุษย์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยปราศจากสารเคมีรุนแรงหรือสารปนเปื้อน หากคุณพบเครื่องสำอางที่มีฉลากอยู่แสดงว่าปลอดภัยที่จะใช้โดยไม่ต้องกังวล

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Annmarie Skin Care, MamaEarth, True Botanicals

 

 

13. Cosmebio

 

(Photo credit: mentalfloss)

เป็นเครื่องยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบจากธรรมชาติอย่างน้อย 95% และปราศจากน้ำหอม สี สารกันบูด โดยได้รับการรับรองจากองค์กรฝรั่งเศส COSMEBIO สัญลักษณ์ BIO ย่อมาจาก  biologique ซึ่งเป็นคำภาษาฝรั่งเศสหมายความว่าเป็นออร์แกนิคและยืนยันว่าผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างน้อย 95% และส่วนผสมที่ได้จากการทำเกษตรอินทรีย์มีสัดส่วนอย่างน้อย 10% 

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Boho Green Make-up, Sweet and Safe, Charlotte Make Up

 

 

14. COSMOS STANDARD

 

(Photo credit: cosmos)

COSMOS (COSMOS STANDARD) คือมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวออร์แกนิคทุกชนิดในโลก โดยกำหนดขึ้นจากสถาบันไม่แสวงหาผลกำไรที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างสมาคมระดับนานาชาติในยุโรป 5 สมาคม ได้แก่ BDIH จากเยอรมนี COSMEBIO & ECOCERRT จากฝรั่งเศส ICEA จากอิตาลี และ SOIL ASSOCIATION จากสหราชอาณาจักร ซึ่งมาตรฐานนี้มีขึ้นเพื่อเน้นเรื่องความรับผิดชอบของผู้ผลิตเครื่องสำอางธรรมชาติและออร์แกนิค โดยจะมีการดูแลและควบคุมตั้งแต่กระบวนการผลิตและการบริโภคนั้นเองค่า

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Antonym, Kora, Neal's Yard Remedies

 

 

15.  Soil Association Organic Standard

 

(Photo credit: amritawholesale)

Soil Association เป็นองค์กรรับรองมาตรฐานการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่สำคัญในสหราชอาณาจักร ออกฉลากสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองอย่างน้อย 70% ส่วนผสมที่เหลือต้องปลอดสารพิษและปลอด GMO

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Apotheca, Botanicals, EcoDrop

 

 

16. NATRUE

 

(Photo credit: natrue)

สมาคมการรับรองของยุโรปที่ออกฉลากสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยใช้แนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยไม่มีกระบวนการสังเคราะห์ที่มีน้ำหอมและสีสังเคราะห์ ไม่มีผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม ไม่มีน้ำมัน ซิลิโคนและไม่มีการทดสอบในสัตว์ ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเท่านั้น 

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Dr. Hauschka, Lavera, Weleda

 

 

17. No Silicone

 

(Photo credit: naturalisbetter)

ซิลิโคนเป็นส่วนผสมหนึ่งที่นิยมใช้ในวงการเครื่องสำอางเพราะมีคุณสมบัติหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์มีความ นุ่ม ลื่น เกลี่ยง่าย หรือช่วยทำละลายสีในผลิตภัณฑ์กลุ่มเมคอัพทั้งหลาย รองพื้น คอนซีลเลอร์  ให้กระจายตัวสม่ำเสมอ ทาแล้วไม่เป็นคราบและติดทน ถ้ามีเขียนว่า No Silicone ก็จะแปลว่าไม่มีส่วนผสมของ Silicone นั้นเองค่า

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Ren, Milk Makeup, Drunk Elephant, The Ordinary

 

 

18. Paraben Free

 

(Photo credit: naturalisbetter)

Paraben คือสารกันเสียชนิดหนึ่ง ที่มีราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพสูง ดังนั้นเลยมีการใช้กันอย่างกว้างขวางและแพร่หลาย แต่มีรายงานผลการศึกษาจาก กลุ่มศึกษาอาการผื่น มีการค้นพบที่พบว่า พาราเบนคือหนึ่งในสารกันเสีย ที่พบการแพ้ได้บ่อย เป็นอันดับที่สองรองจากน้ำหอมหรือสารแต่งกลิ่นหอม เพราะฉะนั้นหากใครที่แพ้ ลองมองหาสัญลักษณ์ที่เป็น Paraben Free กันได้เลยค่า

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Clinique, Burt's Bees, WELEDA

 

19. SLS Free

 

(Photo credit: naturalisbetter)

สาร SLS (Sodium Lauryl Sulfate, Sodium Laurate Sulfate) และ SLES (Sodium Lauryl Ether Sulfate) เป็นสารเคมีประเภทซักล้างและลดแรงตึงผิว มีคุณสมบัติในการทำความสะอาด ด้วยคุณสมบัติในการชำระล้าง SLS จะไปช่วยจับน้ำมันและสิ่งสกปรกออกจากเส้นผมและผิวได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากเป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการชะล้างที่รุนแรง จึงอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหนัง ศีรษะ และดวงตาได้ค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากเลี่ยงก็ลองหาฉลากที่เป็น SLS Free ดูค่า

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: NYX Cosmetics, Ecco Bella, Bella Mari

 

 

20. Carbon Neutral

(Photo credit: carbonneutral)

สัญลักษณ์นี้แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการด้านสภาพอากาศของบริษัทที่ได้ทำการตรวจสอบการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเราอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นการเดินทางของพนักงานของเราทั้งในและนอกประเทศ ขยะจากร้านค้า โรงงานและการจัดจำหน่าย การจัดส่งสินค้า รวมไปถึงการใช้พลังงานต่างๆ ของร้านค้า โรงงาน สำนักงาน

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้:  Neal’s Yard Remedies

 

 

21. National Eczema Association (NEA) Seal Acceptance

 

(Photo credit: nationaleczema)

เครื่องหมายนี้เป็นการรับรองผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบความปลอดภัยของส่วนผสม โดยสมาคมโรคผิวหนังอักเสบพบว่าเหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายและไม่ทำให้ผิวระคายเคือง และเหมาะสำหรับดูแลผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย ไม่มีการระคายเคืองต่อผิวหนัง

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: CeraVe, Burt's Bees

 

 

22. Dermatologically Tested

 

(Photo credit: freepik)

DERMATOLOGICALLY TESTED คือสัญลักษณ์ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการทดสอบความ ปลอดภัยต่อผิวนั้นเองค่า

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Glo Skin Beauty, VMV Hypoallergenics, Eucerin

 

 

23. Clinically Tested

 

(Photo credit: provenance)

เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่ผ่านการทดสอบจากคลินิกของเครื่องสำอางยี่ห้อนั้นๆ มีโอกาสเกิดการแพ้น้อยกว่าปกติ ดังนั้นเครื่องสำอางที่มีคำนี้ติดบนผลิตภัณฑ์ คือเครื่องสำอางที่ทางผู้ผลิตได้หลีกเลี่ยงการใช้ส่วนประกอบที่เสี่ยงต่อการเกิดการแพ้ระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม สารกันเสีย เป็นต้น หรือใส่ในอัตราส่วนที่น้อยกว่าปกติ ทำให้คนที่มีผิวแพ้ง่ายใช้เครื่องสำอางเหล่านี้ได้ เพราะโอกาสที่จะเกิดการแพ้ระคายเคืองจะน้อยกว่าการใช้เครื่องสำอางทั่วไป

ตัวอย่างแบรนด์ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์นี้: Physicians Formula, Clinique, Neutrogena

 

 

ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ 23 สัญลักษณ์ในเครื่องสำอางและสกินแคร์น่ารู้ ทำให้เวลาสาวๆเลือกซื้อของ ซื้อกันได้ง่ายขึ้น และมั่นใจขึ้นนั้นเองค่า


Tags : Beauty สัญลักษณ์ในเครื่องสำอาง เครื่องสำอาง เครื่องหมายในเครื่องสำอาง เครื่องหมายในสกินแคร์

บทความที่คุณอาจสนใจ

รวม 12 ซีรี่ย์เกาหลีแนวพีเรียดที่ห้ามพลาด รับรองว่าเข้มข้น สนุกทุกเรื่อง!

รวม 10 แหล่งที่พักรถบ้านสุดปัง เที่ยวให้สุด อย่าหยุดที่ความจำเจ

7 แอพหาเพื่อนต่างชาติไว้ฝึกภาษา ได้คุยกันบ่อย พูดได้ดีขึ้นแน่นอน!

รวม 8 โครงการบ้านสไตล์มินิมอล ทั้งเรียบง่ายและอบอุ่น!

รวม 9 Pillow mist กลิ่นหอมสดชื่น ช่วยให้หลับลึกขั้นสุด!

ADVERTISEMENT
Top