เอ๊! แฟนคนดีสุดน่ารักของเรา ทำไมช่วงนี้ดูเปลี่ยนไป เราทำอะไรก็ดูจะขัดหูขัดตาตลอดเวลา จากที่เคยพูดจาเสนาะหู อะไรก็ได้ แม้จะดาวจะเดือนก็จะพยายามหามาให้ (ถึงแม้จะเป็นแค่ดาวเดือนเรืองแสง ติดผนังห้องก็ตาม ดิฉันก็ให้ผ่าน เพราะนับถือในความพยายามประยุกต์) อยู่ดีๆ ต้องตกระกำช้ำใจคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตก เอ๊ะมันเกิดอะไรขึ้นหนอ จนสืบไปสืบมา อ๋อออออออออออออ! แกมีกิ๊กนี่เอง หะ-หนอยยยย แนนนนน๊ ประเมินฉันต่ำไปแล้วววว วันนี้เฟียร์ซมี 10 วิธีรับมือ หลังจากจับได้ว่าแฟนมีกิ๊กมาฝากค่ะ
1. อย่าตีโพยตีพาย
เสต็ปแรกนี้สำคัญมาก เพราะหากคุณกระทำการกรีดร้อง ให้ก้องโลกเมื่อไหร่นั้น จบค่ะ! พูดเลย ว่าทุกคนที่กล้ากระทำการมีกิ๊กอย่างอุกอาจไม่กลัวฟ้าดิน (ซึ่งก็คือพวกเรานั่นเอง) เช่นนี้ พวกเขาต้องมั่นใจว่าคุณจะเชื่อใจเขาอย่างชนิดไม่เผื่อใจไปเชื่ออะไรได้อีก เพราะฉะนั้นอย่าผลีผลามค่ะ เดี๋ยวไก่ตื่น ถ้าตรงเข้าไปถามเลย มีแต่จะเสียกับเสีย ดีไม่ดีโดนตอกกลับมาอีกว่า “อย่ามโน!” ไม่เอาค่ะ ไม่เอา เราสวย นิสัยดี และไม่มีมโนค่ะ
2. เริ่มตั้งข้อสงสัย (แบบว่าอินโนเซ๊นต์ ฉันยังไม่รู้อะไรเลย แต่จริงๆ ฉันรู้หมดแล้วค่ะ ดีออก!)
ทุกครั้งที่แฟนของคุณทำตัวลับๆล่อๆ ไม่ว่าจะเป็นหลังจากเสียงโทรศัพท์ดัง หรือไลน์เด้ง หรือทุกสิ่งในโซเชี่ยลแจ้งเตือน (นางเข้าโหมดระวังตัวโดยอัตโนมัติละค่ะ ทุกครั้งจะหลอนมาก เชื่อดิฉัน) ก็จงยิ้มหวานดั่งนางสาวสยามให้เขา พร้อมคำพูดติดตลกที่ว่า “ใครกันน่ะ ทำไมเธอดูลุกลี้ลุกลนจัง ไหนดูหน่อยซิ” แน่นอนค่ะ ว่าญาติโก โหติกา เพื่อน พี่ น้องที่ทำงาน สารพัด สารเพที่จะเกี่ยวดองกับเขาได้มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาอ้าง อะไรอ่ะ คบกันมาตั้งนาน ไม่เห็นจะเคยลุกลี้ลุกลนงี้เลย คิดว่าจะโกหก ฉันได้ง่ายๆ ซินะ ไม่มีวันซะหรอก!
3. แสดงความจำนงว่าอยากทำความรู้จักกับคนที่เขากล่าวอ้าง
แน่นอนอีกครั้งค่ะ ว่าต้องได้รับการปฏิเสธ สาวเฟียร์ซอย่างเรา ต้องนิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว พร้อมทั้งเอ่ยถามว่า “อ้าวไหนบอกว่าเป็น…(อะไรก็แล้วแต่) ทำไมเจอไม่ได้ล่ะ” การเบี่ยงเบนประเด็นจากคุณแฟนจะถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมทั้งข้อปฏิเสธที่บางทีอาจจะทำให้เรางง เพราะคาดไม่ถึงก็ได้ ดังเช่นกรณีดิฉัน ไม่เป็นไรหรอก เธออย่าลำบากเลย (เห้ย แกกกกกกกกก เอาจริงๆ ฉันเป็นคนขอไปเจอ ฉันจะลำบากอะไรคะ ตอบบบ!) เจอแบบนี้ มีมึนค่ะ จงตั้งสติและโฟกัสว่าตอนนี้เรากำลังพูดและทำอะไรอยู่ อย่าปล่อยให้เขามาเบี่ยงประเด็นได้ค่ะ ดิฉันจะไม่ทน!
4. จับโกหกได้คาหนังคาเขา จงนิ่ง (อีกครั้ง)
คาหนังคาเขาชนิดที่ว่าบอกเราว่านอนแล้วนะ ที่รัก ฝันดี…แต่เอ๊ะ ทำไมแชทมันเด้งตอบคนที่แฟนของเรากำลังหว่านเสน่ห์แบบว่าเรียลไทม์ ถามปุ๊บ ตอบปั๊บ นี่แสดงว่าฉันก็โดนสวมเขาแบบเรียลไทม์สินะ (แหม ถ้าสงสัยอยู่ก็ต้องพยายามทุกวิธีทางเพื่อจะให้ได้มาซึ่งพาสเวิร์ดในการเข้าถึง Social Networkต่างๆ ของเขาใช่ไหมคะ?) เชื่อแน่ว่า เจอแบบนี้มีโมโหหน้ามืด มือสั่น ควันออกหูกันบ้างละ ไม่ได้การละ ต้องทำอะไรซักอย่าง จงบอกเขาตรงๆเลยค่ะ (นาทีนี้ไม่ต้องกลัวว่าไก่จะตื่นละ กลัวว่าเราเนี่ยจะตาไม่สว่างดีกว่า!) ว่าเธอ...เราเห็นแล้วนะ เธอจะทำยังไงก็แล้วแต่ แต่เราจะไม่ยุ่งกับบุคคลที่ 3 ถ้าเธอยังอยากคบกับเรา จัดการเคลียร์ซะ เริ่มเอง ก็จงจบเอง นิ่งๆ สวยๆค่ะ (สาวเฟียร์ซจะไม่พาตัวเองไปสู่จุดนั้นค่ะ ไม่ดีและไม่งามอย่างแรง จงมั่นใจว่าคุณมีดีกว่านั้น) อ้อ..อย่าลืมแคปหน้าจอเป็นหลักฐานประกอบ เพราะเขาจะต้องปฏิเสธก่อนแน่ๆค่ะ ไม่ต้องมีญานทิพย์ หรือจิตสัมผัสใดๆ ดิฉันก็ฟันธงได้ ณ ตรงนี้เลย!
5. หยุด! ความคิด ที่จะโพสต์ทุกอย่างลง Social Network
การโพสต์ลงโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คนั้น ถือเป็นการประกาศให้คนอื่นทราบอย่างทั่วกัน ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์อะไรใดๆทั้งสิ้น จากการกระทำเช่นนั้น มีแต่เสียกับเสียค่ะ สาวเฟียร์ซอย่างเราจะไม่เอาปัญหาชีวิต (ที่ถึงแม้จะห่วยแตก บัดซบขนาดไหน) ไปประกาศให้โลกรู้ บอกเลยว่านี่คือทางออกที่แย่ที่สุด เพราะนอกจากคุณจะมีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้แฟนกลับคืนมาแล้ว ยังเป็นการเชื้อเชิญมือที่ 3-4-5-6 เข้ามาในความสัมพันธ์ของคุณด้วยตัวเองเลยค่ะ ก็แหม…เดี๋ยวนี้คนมีเจ้าของมันน่าสนใจ กว่าคนโสดอ่ะนะ เห็นเขาว่ากันว่าจีบคนโสดคู่แข่งเป็นแสน จีบคนมีแฟนมีคู่แข่งแค่คนเดียว เอ้อ เอากะเขาสิ แบบนี้ก็มีด้วยหรอ ไม่รู้สินะ!
6. อย่าปล่อยให้ตัวเองโทรม
แฟนฉันปันใจให้คนอื่น ฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ข้าวเขิ้วก็ไม่อยากกิน หน้าผมก็จะไม่แต่ง ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เอาให้มันแย่ให้สุดๆ ไปเลย กรี๊ดดดดดดดดดด หยุดค่ะ นี่คือเวลาที่ดีที่สุดที่เราจะลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง ดูแลรูปร่าง หน้าตาของเราให้ดูดี ทำตัวให้คนอื่นๆ รู้สึกว่าเราน่าเข้าหา เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณทำแบบนั้นได้ นอกจากจะภูมิใจในตัวเองแล้ว จงรู้ไว้นะคะ ผู้ชายร้อยละ 80 ที่เจ้าชู้ มักจะขี้หึง+หวงแฟนตัวเองมากถึงมากที่สุด เอาให้เสียดายกันไปเลย ว่าเธอกำลังจะเสียอะไรไป! (จิกหางตา บวกสะบัดบ๊อบใส่ 38 ที)
7. เผื่อใจ
ถึงอย่างไรก็ตามเราไม่มีทางรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ยังไงการเผื่อใจก็เป็นเรื่องสำคัญ อย่าคิดว่าขาดเขาแล้วเราจะอยู่ไม่ได้ ถ้าคนมันไม่ใช่คู่กัน ยื้อไปแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ค่ะ รังแต่จะเสียเวลาเปล่าๆ สู้เอาความรักและเวลาอันมีค่าของเราไปทำให้เกิดประโยชน์ให้ครอบครัว คนที่เรารักรอบตัวหรือสังคมซะยังดีกว่า
8. จงเชื่อในคุณค่าของตนเอง
เชื่อเถอะค่ะ ว่าทุกคนมีค่า นอกเสียจากว่าคุณจะทำให้คุณค่าของคุณนั้นลดลงด้วยตัวเอง อย่าเอาชีวิตไปผูกติดกับใครมากนัก เพราะวันนึงที่เขาจากไปคุณจะไม่เหลืออะไรแม้กระทั่งความเป็นตัวเอง ซึ่งตรงนั้นเฟียร์ซยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ค่ะ จงบอกตัวเองว่า “ถ้าขาดฉันไปแล้วเธอจะรู้สึก หาคนที่ดีกว่าฉันให้ได้ก็แล้วกัน ถึงวันที่ฉันมีชีวิตดีแล้วก็อย่าแม้แต่จะมาร้องขอโอกาส เธอทิ้งมันไปเองนะคะ คนดี”
9. หันหน้าเข้าหากัน
ถ้าคุณยังรักเขาอยู่มาก และคุณก็มั่นใจว่าเขาก็ยังรักคุณอยู่มากเช่นกัน จงหันหน้าเข้าหากันเถอะค่ะ สาเหตุใหญ่ส่วนหนึ่งของการนอกใจมักจะมาการไม่เข้าใจกัน อย่ากลัวว่าจะเป็นการเสียฟอร์ม เพราะนั่นเท่ากับว่าคุณพร้อมจะเสียแฟน (แต่ถ้าพร้อมแล้ว และคิดว่าศรีจะไม่ทน อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณนะคะ!) จงคุยกันเถิดจะเกิดผล คนเราไม่มีใครเพอร์เฟ็ค พลาดพลั้งไปบ้าง หากยอมรับและยังอยากมีเขาอยู่ บวกลบแล้วข้อดีมากกว่าข้อเสีย ก็จงอยู่ไปเถอะค่ะ ชีวิตเป็นของคุณอย่าให้ใครมาชี้นำได้
10.ให้อภัยและเริ่มต้นใหม่
ถ้าคุณแฟนของคุณสำนึกผิด(แล้วจริงๆ) และมาขอโอกาสจากคุณเพื่อเริ่มต้นใหม่ ถึงแม้จะเป็นเรื่องยาก แต่ดิฉันเชื่อค่ะ ว่าคุณจะสามารถผ่านจุดนั้นไปได้ ถึงแม้ความเชื่อใจจะถูกทำลาย (แอบร้องไห้ฟูมฟายไปตั้งเท่าไหร่ ชะนีมีตาบวม) ถ้าเขารักคุณจริงๆ คงยอมทุ่มเททำทุกวิธีทางเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับคนเดิมอย่างเขาที่เคยทำให้คุณผิดพลาดเสียใจ ไม่แน่ว่า รักครั้งนี้อาจทำให้คุณสำลักความสุขจนลืมไปเลยว่าเคยเกิดเรื่องร้ายๆ ระหว่างคุณกับเขา
หมายเหตุ: กรณีเหล่านี้ใช้ไม่ได้กับบุคคลที่เสพติดการมโน ระแวงไปซะทุกสิ่ง แฟนหยิบจับอะไร คุยกับใครเป็นคิดว่าเขามีกิ๊กไปซะหมด บทความนี้ไม่สามารถประยุกต์ใช้ได้นะคะ และคุณๆ ทั้งหลายเมื่อดีกันแล้วจงหยุดฟื้นฝอยหาตะเข็บ เอาเรื่องแต่ปางก่อนมาชวนทะเลาะ แต่จงทำตัวให้เขารู้สึกตลอดว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่มีคุณเป็นคู่ชีวิต และคงต้องเสียดายไปจนชีวิตจะหาไม่ ถ้าหากต้องเสียคุณไป เพราะอารมณ์ชั่ววูบ! (แม่จ้าววว ดูเว่อร์วีว่า แต่ใช่ค่ะ ดิฉันมั่นใจแบบนั้น) แต่ (อีกแล้ว) ถ้าคุณแฟนได้รับโอกาสจากคุณแล้วยังมีปัญหาเดิมซ้ำๆ ก็จงก้าวออกมาอย่างมั่นใจเถอะค่ะ ว่าเราได้ทำดีที่สุดแล้ว คิดซะว่าเราไม่ได้เสียคนรักไป เราแค่เสียคนที่ไม่รักเราไปอีกคน ไม่เห็นจะแย่ตรงไหน! รักเขาแบบที่เราอยากให้เขารัก แล้ววันหนึ่งคุณจะได้รักแบบที่คุณอยากรักนะคะ :)
|