Follow us on

LIFESTYLE

FIERCE STORY

รวม 10 ต้นไม้ตายยาก ปลูกไม่เก่งยังไงก็รอด!

Written by APPantira
Created: May 20, 2020 03:10 | Published date: May 20, 2020 23:10

บอกเลยว่าใครอยากแต่งบ้านให้มีความเขียวต้นไม้ มองกี่ทีก็สดชื่น แต่ปลูกทีไรไม่รอดทุกที วันนี้เฟียร์ซจะมาบอก 10 ต้นไม้ตายยาก ปลูกไม่เก่งยังไงก็รอด จะมีต้นไหนบ้าง ไปชมกันเลยค่าาาา

Lifestyle กวักมรกต ทิลแลนด์เซีย ต้นแมงมุม กระบองเพชร


51872 0 0

Photo Credits:

บอกเลยค่ะว่าคนที่ชอบปลูกต้นไม้มี 2 ประเภท ประเภทแรกคือปลูกอะไรก็ขึ้น ปลูกอะไรก็งาม แต่ประเภทที่สองนี้สิคะ ปลูกอะไรก็ไม่รอด เป็นต้องลาจากกันไปทุกที เพราะฉะนั้นวันนี้เฟียร์ซจะมาแนะนำ 10 ต้นไม้ตายยาก ที่ปลูกไม่เก่งยังไงก็รอด เพราะน้องๆแต่ละคนคือมีความเอาตัวรอดเองสูงมาก ทั้งอึด ทึก ทน! ไม่ต้องการให้ใครมาดูแลเยอะ ทีนี่ก็เข้าทางเราเลยค่ะ จะมีต้นอะไรบ้างไปชมกันเลยยย

 

 

1. กวักมรกต

 

(Photo credit: royalgreen)

(Photo credit: macys)

มากันที่ตัวแรกกับกวักมรกต บอกเลยว่าใครที่เป็นสายไม่ได้อยากดูแลบ่อยๆ แต่อยากให้มีความเขียวอยู่ในบ้าน ต้องนี้เลยค่ะ เพราะว่าหนึ่งเลย น้องเป็นต้นไม้ตัวน้อยๆที่อยู่ในร่มได้แบบไม่งอแง ที่สำคัญน้องมีความคูล อยู่ที่ไหนในบ้านก็ดูดีไปหมด ต้นจะสูงไม่มากนะคะ ประมาณ 80-100 เซนติเมตรเท่านั้นค่ะ

 

วิธีการดูแล

1. กวักมรกตสามารถปลูกในที่ที่มีแดดรำไรได้ แต่หากปลูกในที่แดดจัดจะทำให้ต้นไม้โตได้เร็วกว่า และหากเป็นใบด่างจะทำให้ด่างแตกลายได้สวยกว่าค่าาา

2. ไม่จำเป็นต้องรดน้ำมากนะคะ หากรดมากไปจนน้ำขัง จะทำให้ต้นเน่าได้ค่ะ

 

 

2. ทิลแลนด์เซีย

 

(Photo credit: beates)

(Photo credit: etsy)

ทิลแลนด์เซียหรือชื่อไทยก็คือสับปะรดอากาศนั้นเองค่ะ หลายคนอาจจะคุ้นหู คุ้นตากันอยู่แล้ว เป็นต้นที่ปลูกง่ายและตายยากตามที่เราต้องการเลยค่ะ แถมยังให้ความสวยงามคุ้มค่ากับที่เรารอคอยอีกด้วย เป็นต้นไม้ที่นิยมเล่นกันในหมู่ต้นไม้แปลกและไม้หายาก สามารถปลูกได้หลากหลายสไตล์ ที่สำคัญยังเหมาะกับประเทศอากาศร้อนอย่างเราด้วยค่าา

 

วิธีการดูแล

1. ควรได้รับแสงอย่างน้อย 50-70% เช่น บริเวณใต้ต้นไม้ที่มีแสงแดดส่องถึงค่ะ แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าฝน ควรตั้งไว้ในที่หลบฝน เพื่อป้องกันต้นเน่านั้นเองค่ะ

2. ในช่วงที่อากาศร้อน ควรรดน้ำวันเว้นวันนะคะ แต่หากเป็นช่วงหน้าฝนที่มีความชื่นค่อนข้างสูง สามารถรดน้ำได้ 3 วันต่อ 1 ครั้งค่ะ รดน้ำไม่ต้องมากจนขังนะคะ หากรดมากไปจะทำให้ต้นเน่าได้ค่ะ

 

 

3. ต้นแมงมุม

 

(Photo credit:  casadevalentina)

(Photo credit: wearefound)

ต้นแมงมุม หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อว่าเป็นต้นเศรษฐีในเรือน มีต้นกำเนิดที่ประเทศแอฟริกาใต้นะคะ เมื่อน้องแก่เต็มที่แล้วจะมีลำต้นอ่อน แตกออกมาเป็นกิ่งอ่อนๆ เป็นต้นอ่อนเล็กๆ แล้วกระจุกอยู่ที่ปลายกิ่ง ลักษณะจะคล้ายแมงมุมเลยค่ะ ทางฝรั่งเลยตั้งชื่อให้ความต้นแมงมุม หรือ Spider Plant นั้นเอง

 

วิธีการดูแล

1. ควรได้รับแสงแบบกึ่งแดด กึ่งร่ม ชอบแสงแดดอ่อนๆ ไม่ชอบแดดแรง 

2. เป็นต้นไม้ที่ต้องการน้ำเพียงอาทิตย์ละ 1 ครั้งเท่านั้น ไม่ต้องมาก ให้สังเกตว่าหน้าดินแห้งหรือยัง แล้วรดน้ำพอชุ่มๆค่ะ 

 

 

4. ดาวล้อมเดือน

 

(Photo credit: plantes-passion)

(Photo credit: emporiodoscactos)

ต้องบอกว่าต้นกระบองเพชรก็เป็นต้นไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีความเลี้ยงยากง่ายแตกต่างกันออกไป แต่ที่อยากแนะนำเลยก็คือ ดาวล้อมเดือน เพราะว่ากระบองเพชรชนิดนี้จะเหมาะกับมือใหม่หัดปลูก เลี้ยงง่าย ตายยาก แตกหน่อไวกว่าตัวอื่นๆ เลี้ยงแบบเดี่ยวก็ได้ หรือแบบเป็นฟอร์มกอก็ดีค่ะ 

วิธีการดูแล

1. ควรได้รับแสงแบบไม่ร้อนจนเกินไป เพราะต้นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล

2. รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ไม่ควรรดน้ำให้ชุ่มจนเกินไปและไม่บ่อยจนเกินไปเพราะหากมากเกินไปจะทำให้ต้นเน่าได้ค่ะ

 

 

5. เดหลีใบกล้วย

 

(Photo credit: tealnotes)

(Photo credit: indoor-plants)

เดหลีใบกล้วยจะมีต้นกำเนิดมาจากอเมริกา มีอายุได้หลายปี เป็นต้นล้มลุก คนส่วนใหญ่นิยมปลูกไว้เป็นไม้ประดับค่ะ ต้องบอกเลยว่า สวยมากกก มีความเป็นไม้ประดับ แถมด้วยความที่ว่าใบไม้จะมีลักษณะค่อนข้างใหญ่ ทำให้ดูดซับอากาศสารพิษได้ดีพอสมควรเลยค่ะ และดอกไม้ของต้นเดหลีใบกล้วย เราก็อาจคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เรียกได้ว่ามองกี่ครั้งก็สวยไม่เปลี่ยนเลยค่ะ เป็นดอกที่มีขนาดใหญ่ และยังมีความเชื่ออีกด้วยนะคะ ว่าบ้านที่ปลูกต้นเดหลีจะส่งเสริมให้คนที่อยู่ในบ้านมีอายุยื่นยาวค่าาา

 

วิธีการดูแล

1. เดหลีใบกล้วยเป็นไม้ที่ชอบแสงรำไร และมีอากาศไม่ร้อนมาก จึงควรวางกระถางในที่ร่มหรือในอาคารที่แสงแดดส่องถึงก็พอค่าาา

2. เป็นต้นที่ต้องการน้ำสูงนะคะ ต้องการน้ำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งตอนเช้าค่ะ

 

 

6. ว่านหางจระเข้

 

(Photo credit: elblogdeldecorador)

(Photo credit: homeology)

จริงอยู่ที่เราอาจจะรู้สึกชินกับต้นว่านหางจระเข้แล้ว แต่บอกเลยว่าถ้านำไปแต่งดีๆแล้ว สวยหรูมากนะคะ เพราะด้วยความที่มีรูปร่างที่สวยงาม ดูเรียบๆ แบบไม่ได้ฉูดฉาดอะไรมาก แถมประโยชน์ก็มีหลายอย่างและยังใช้ให้ความชุ่มชื่นกับผิวเราได้อีกด้วย ตัวว่านหางจระเข้ ถ้านำมาปลูกไว้ในห้องนอนก็จะทำให้เราหลับสบายขึ้นด้วยค่ะ แถมยังดูแลง่าย รดน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้นค่าา 

 

วิธีการดูแล

1. ว่านหางจระเข้จะชอบแสงแดดรำไร ถ้าแดดจัดไปใบจะไหม้ค่ะ

2. เป็นต้นที่ต้องการน้ำไม่มากนะคะ เพราะถ้ามากเกินไป รากจะเน่าและอาจเกิดเชื้อราได้ค่ะ ควรรอดินให้แห้งก่อนแล้วจึงรดน้ำในครั้งต่อไปค่ะ ถ้าเป็นหน้าฝน ไม่จำเป็นต้องรดน้ำเลยก็ได้ค่ะ หากปลูกไว้นอกบ้าน

 

 

7. พลูด่าง

 

(Photo credit: leonandgeorge)

(Photo credit: etsy)

หากใครกำลังมองหาต้นไม้ฟอกอากาศอยู่ละก็ พลูด่างถือว่าจะขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆเลยค่ะ เป็นต้นไม้ที่มีความนิยมค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะปลูกในสวน ในกระถ่าง หรือในแจกันก็ได้ค่ะ น้องรอดหมดและโตได้ดีทุกที่แถมดูแลง่ายมากๆเลยค่าา

 

วิธีการดูแล

1. พลูด่างจะเป็นต้นไม้ที่ไม่ทนต่อความร้อนนะคะ ไม่ต้องให้โดนแดดจัด ควรได้รับแดดรำไรก็พอค่ะ 

2. เป็นต้นที่ต้องการน้ำไม่มากนะคะ ถ้าหากปลูกในกระถ่างควรรดน้ำ 3 วันต่อครั้งนะคะ 

 

 

8. ฟิโลเดนดรอน

 

(Photo credit: society19)

(Photo credit: bayonabudget)

บอกเลยว่า ไม่ได้ฮิตแค่ตัวต้นไม้เท่านั้น แต่ตัวใบของต้นฟิโลเดนดรอบคือฮิตกันหนักมากกกก เพราะนางเอามาถ่ายรูปกับอะไรก็ดูสวยไปหมด และด้วยความที่เป็นต้นไม้ดูแลง่าย ทำให้เป็นที่นิยมขึ้นไปอีกค่าา

วิธีการดูแล

1. หากปลูกในบ้าน ไม่ควรวางไว้ในที่ทึบแสงมาก ควรไว้ริมหน้าต่างให้โดนแดดรำไร แต่ไม่ควรให้โดนแดดโดยตรงค่ะ

2. ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้เปียกหรือแห้งจนเกินไป ให้พอมีความชุ่มชื้นก็พอค่ะ

 

 

9. ชวนชม

 

(Photo credit:  worldofsucculents)

(Photo credit: camerata)

หลายๆคนคงคุ้นเคยกับต้นชวนชมกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ น่าจะเคยเห็นผ่านๆตากันมาบ้างแล้วแหละ ต้นชวนชมเริ่มนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยตอนช่วงรัชกาลที่ 6 นะคะ ด้วยความที่ดอกสวย ตอนแรกราคาค่อนข้างแพง แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยคิดค้นวิธีการเพาะปลูกต้นชวนชม จนมีราคาเบาลงมา ต้นชวนชมต้องบอกเลยว่าเป็นต้นไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ดอกไม้สวยงาม จึงเป็นที่นิยมสูงนั้นเองค่าาา

วิธีการดูแล

1. ด้วยความที่เป็นต้นที่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้มาก จึงทนต่อสภาพแห้งแล้งได้เป็นอย่างดี หากได้น้ำเยอะเกินไป จะมีอาการเหี่ยวเฉา เพราะฉะนั้นเราควรรดน้ำวันละ 1 ครั้งและอย่างให้แฉะจนเกินไปนั้นเองค่ะ 

2. ต้นชวนชมจะชอบแดดจัด จึงควรปลูกไว้กลางแจ้งนะคะ

 

 

10. ยางอินเดีย

 

(Photo credit: mauricettes)

(Photo credit: patchplants)

ที่จริงแล้วต้นยางอินเดีย คนส่วนใหญ่ชอบปลูกไว้ในบ้าน เพื่อเอาไว้ดูดสารพิษฟอกอากาศภายในบ้านได้ดีค่ะ ต้นไม้อินเดียแดงเป็นต้นที่เลี้ยงง่าย โตไว สามารถโตได้ทั้งกลางแจ้งและในร่ม ถ้าปลูกไว้ในตัวอาคาร ควรเช็ดใบบ่อยๆเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับต้นไม้ของเรานั้นเองค่าา

วิธีการดูแล

1. ชอบน้ำระดับปานกลาง ไม่ชอบน้ำขังแฉะ อาจรดน้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้งหรือจนกว่าดินจะแห้งค่ะ แต่อย่าปล่อยให้ดินแห้งจนเกินไป

2. ต้นยางอินเดียสามารถอยู่ได้ทั้งในที่ร่มและกลางแจ้งเลยค่ะ

 

 

เป็นไงบ้างคะทุกคนนน คงจะพอนึกกันออกแล้วใช่ไหมคะว่าต้องการต้นไม้ประมาณไหนกัน ใครี่กำลังจะรับน้องใหม่เข้าบ้านหรือปลูกอยู่แล้วตอนนี้ อย่าลืมมาแชร์กันด้วยนะคะ

 


Tags : Lifestyle กวักมรกต ทิลแลนด์เซีย ต้นแมงมุม กระบองเพชร เดหลีใบกล้วย ว่านหางจรเข้ พลูด่าง ฟิโลเดนดรอน ชวนชม

บทความที่คุณอาจสนใจ

รวม 7 ต้นไม้สีดำคูลๆ เอาใจสายดาร์คอยากจัดสวน

7 วิธีประหยัดไฟ เมื่อต้องอยู่บ้านหน้าร้อน!

สาวผมสีต้องดู! รวม 10 Hair Treatment ช่วยสำหรับผมสีให้เปล่งประกายยิ่งขึ้น!!

รวม 10 แชมพูสีม่วงสำหรับผมทำสี มีมาเพื่อฆ่าสีเหลืองในเส้นผมโดยเฉพาะ!

10 วิธีแก้ข้อศอกดำด้าน ให้กลับมาขาวใสเนียนนุ่มได้อีกครั้งแบบหายชัวร์!!!

ADVERTISEMENT
Top