ใครที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองน้ำหนักขึ้น ใส่เสื้อผ้าแล้วอึดอัดไม่สบายตัว ก็คงกำลังหาวิธีลดน้ำหนักใช่มั้ยคะ แต่ยิ่งลดก็เหมือนยิ่งอ้วน อดอาหารทีไรก็หิวจนตาลาย หรือยิ่งออกกำลังกายก็ยิ่งทำให้กินเยอะขึ้นไปอีกกก อดทนกับความหิวตอนกลางคืนก็ไม่ไหว คือถ้าท้องหิวยังไงก็นอนไม่หลับจริงๆ ค่ะ
วันนี้เฟียร์ซจึงได้เฟ้นหาเทคนิคลดน้ำหนักแบบไม่ต้องอดอาหารมาฝาก เป็นเบสิคง่ายๆ ที่หลายคนอาจลืม ความอ้วนมันเกิดขึ้นไม่ใช่เพราะกินเยอะ หรือไม่ออกกำลังกาย แต่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อระบบภายในพัง วันนี้เรามาหาวิธีฟื้นฟูระบบภายในกัน ถ้าระบบเผาผลาญเริ่ด กินดี อยู่ดี ก็ไม่มีน้ำหนักเกินแน่นอน จะต้องทำยังไงบ้างไปดูกันเลยค่า~
1. กินอาหารตรงเวลา
ก่อนอื่นจะต้องกู้ระบบย่อยอาหาร และระบบเผาผลาญให้ทำงานปกติก่อน เริ่มต้นง่ายๆ เลยก็คือทานอาหารให้ตรงเวลาทุกวัน จะทาน 2 มื้อ หรือ 3 มื้อก็ได้ แต่ต้องทานตรงเวลา (บางคนทำ IF เนอะ ก็จะลดเหลือแค่ 2 มื้อค่ะ) จะช่วยทำให้ระบบย่อยดีขึ้น และไม่ควรทานจุบจิบระหว่างมื้อ จะได้ไม่รู้สึกว่าหิวตลอดเวลาค่ะ
เอาจริงๆ อยากให้กลับไป Back to basic เหมือนตอนที่ยังเป็นนักเรียน คือทานข้าวเช้า-กลางวัน-เย็น และเข้านอนแต่หัวค่ำ ถ้าทำได้คือเริ่ด ระบบภายในกลับมาดีแน่นอน แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เอาที่สะดวกกับชีวิตเราจะดีกว่า แล้วอย่าลืมทานให้ครบ 5 หมู่ด้วยนะคะ
Image source : elements.envato.com
2. ทานโพรไบโอติก
โพรไบโอติกเป็นจุลินทรีย์ชนิดดี ช่วยทำให้ลำไส้แข็งแรง ทำงานได้อย่างเป็นปกติ และช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน พอทานแล้วระบบย่อยและระบบขับถ่ายก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุขภาพแข็งแรง โพรไบโอติกจะอยู่ในอาหารหมักดอง เช่น กิมจิ ผักดอง ผลไม้ดอง มิโซะ นมเปรี้ยว โยเกิร์ต เป็นต้น เมื่อเรานำอาหารดีๆ เข้าสู่ร่างกายแล้ว ก็ต้องขับถ่ายของเสียออกด้วย นี่คือธรรมชาติของร่างกายค่ะ
Image source : elements.envato.com
3. งดมื้อดึกและเข้านอนตรงเวลา
การเข้านอนให้ตรงเวลาก็จะช่วยให้เลี่ยงอาหารมื้อดึกได้ และยังทำให้ระบบภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรตั้งกฎกับตัวเองว่าจะไม่ทานอะไรอีกหลังมื้อเย็นอีก และมื้อเย็นก็ไม่ควรดึกเกินไป อย่างดึกก็ไม่ควรเกิน 3 ทุ่มนะคะ ทานแล้วก็พักผ่อนสัก 2-3 ชม. รอให้อาหารย่อยสักนิดค่อยเข้านอน ง่ายๆ เลยก็คือควรเข้านอนก่อนที่จะหิวมื้อถัดไปนั่นเองค่าาา ถ้าปล่อยให้ท้องว่างนานเกินไป อาจจะทนไม่ไหวจนทานมื้อดึกก็เป็นได้
Image source : elements.envato.com
เห็นมั้ยคะว่าข้อ 1-3 เป็นอะไรที่เบสิคมากๆ นั่นก็คือการกิน การขับถ่าย และการเข้านอนค่ะ
4. เลี่ยงแป้งขัดสี
ควรเลี่ยงการรับประทานแป้งขัดสี เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ เป็นต้น ใช้คำว่า 'เลี่ยง' เพราะบางมื้อก็เลี่ยงไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอดตายค่ะ! ควรทานพวกข้าวแดง ข้าวกล้อง ข้าวไรส์เบอร์รี่ ขนมปังโฮลวีท พวกแป้งที่ไม่ขัดสีจนขาวจะทำให้อิ่มนานมากกว่า ได้คุณค่าทางโภชณาการมากกว่า และมีไฟเบอร์สูง อาหารพวกเส้นพาสต้ากับเส้นบะหมี่ ภายนอกอาจจะดูเป็นสีเหลือง แต่จริงๆ แล้วก็ทำจากแป้งอเนกประสงค์ อันนี้ก็ต้องระวังเช่นเดียวกันนะคะ
Image source : elements.envato.com
5. ลดน้ำตาล ลดโซเดียม
อีกหนึ่งคีย์สำคัญเลยก็คือลดน้ำตาลและโซเดียม น้ำตาลจะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินจำเป็น จนไปสะสมเป็นส่วนเกินของร่างกาย และโซเดียม หรือเครื่องปรุงที่ให้ความเค็มต่างๆ ก็ทำให้ร่างกายดูบวมน้ำ ทั้งสองอย่างนี้ทำให้หุ่นพัง ทางที่ดีควรทานอาหารจืดๆ สัมผัสรสจากธรรมชาติ ควรปรุงรสให้น้อยที่สุดค่ะ
Image source : elements.envato.com
6. เลี่ยง Processed Meat
Processed Meat ได้แก่ ไส้กรอก แฮม โบโลน่า เบคอน ซาลามี่ เป็นต้น ถ้าจะทานเนื้อสัตว์ก็ทานของจริงไปเลยค่ะ ไม่ต้องกั๊ก แต่อาจจะเลือกเป็นส่วนที่มีไขมันน้อยนิดนึง นอกจากเลี่ยงอาหารเหล่านี้แล้ว ก็ควรเลี่ยงพวกอาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง หรือพวกข้าวกล่องแช่แข็งด้วย อาหารเหล่านี้แฝงไปด้วยโซเดียมเกินความจำเป็น และยังทำให้เราได้รับสารอาหารน้อยลงอีกด้วย ควรทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ จะดีมากค่ะ
Image source : elements.envato.com
7. ทานผักผลไม้เยอะๆ
ควรทานผักผลไม้ให้มากกว่าแป้งและเนื้อสัตว์ เพราะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า และร่างกายก็ต้องการวิตามินจำนวนมากจากผักผลไม้หลากสี (หลากสี เช่น เขียวเข้ม เขียวอ่อน ส้ม/เหลือง แดง และม่วง) หลายๆ คนที่หันมาทานวีแกนก็สามารถลดน้ำหนักได้จริง ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น ระบบต่างๆ ในร่างกายที่เคยพังก็กลับมาฟิตเปรี๊ยะอีกครั้ง ผักผลไม้ยังย่อยง่าย ไม่ทำให้กระเพาะและลำไส้ทำงานหนักอีกด้วยค่ะ
Image source : elements.envato.com
8. ทานโปรตีนให้เพียงพอ
ในหนึ่งวันควรรับประทานโปรตีนให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ โปรตีนมีความสำคัญต่อเรามากๆ ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกายให้คงสภาพใช้งานได้ดี และโปรตีนไม่สามารถสะสมเก็บไว้ได้เหมือนคาร์โบไฮเดรตกับไขมัน คนที่ทานวีแกนก็สามารถหาโปรตีนได้จาก ไข่ นม ชีส ถั่วเมล็ดเดี่ยว อโวคาโด เป็นต้น
Image source : elements.envato.com
9. กินเท่าไร ใช้เท่านั้น
อีกหนึ่งคีย์สำคัญเลยก็คือ “กินเท่าไร ใช้เท่านั้น” หมายถึงใช้พลังงานในร่างกายให้สัมพันธ์กับแคลอรี่ที่ทานเข้าไป สมมติทานวันละ 1,000 kcal. ก็ต้องใช้พลังงานให้ได้ 1,000 kcal. ต่อวัน หรือถ้าอยากลดน้ำหนัก ก็ควรใช้พลังงานให้ได้มากกว่าสิ่งที่ทานเข้าไปนิดหน่อยค่ะ
ทั้งนี้ไม่ควรอดอาหารอย่างยิ่ง ไม่อย่างนั้นจะโหย และอาจโยโย่ได้ง่าย ควรใส่ใจในอาหารที่ทานเข้าไป คำนวนแคลคร่าวๆ จากนั้นก็ใช้พลังงานให้ได้ครบตามนั้น ใครใช้พลังงานไม่ถึงตามที่กินเข้าไปก็ต้องออกกำลังกายเสริม หรือเลือกทานน้อยลงค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้น้ำหนักกลับไปเข้าที่เข้าทางดังเดิม ส่วนใครที่อยากปั้นหุ่นแบบจริงจัง ในช่วงแรกคงต้องมีเทรนด์เนอร์แนะนำนิดนึง พอออกกำลังกายเป็นแล้วค่อยทำเองค่ะ
Image source : elements.envato.com
10. กินเพื่ออยู่ ไม่ได้อยู่เพื่อกิน
คนเราควรกินเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารและพลังงาน ไม่ควรคิดว่าอาหารเป็นของปลอบใจ กินเมื่อโกรธ กินเมื่อเสียใจ หรือกินเพื่อความสนุกสนาน กินเล่นบ่อยๆ คือไม่โอเค! จริงๆ แล้วการกินสำคัญต่อการลดน้ำหนัก มากกว่าการออกกำลังกายอีกนะคะ คือออกให้ตายยังไง แต่กินเป็นเจ้าเข้าก็ไม่ช่วยค่ะ พวกขนม ของหวาน ของมัน อาหารที่มีประโยชน์น้อยกว่าแคลอรี่ทาน ทานแค่นานๆ ครั้งก็พอนะคะ
Image source : elements.envato.com
อ้วนขึ้นอาจเกิดจากการที่อายุมากขึ้น ระบบภายในทำงานได้ไม่สมบูรณ์แบบเหมือนแต่ก่อน จึงต้องใส่ใจอาหารการกินให้มากขึ้น เลือกทานของที่แคลอรี่น้อย แต่ได้ประโยชน์เยอะ มากกกว่าของแคลอรี่เยอะ แต่ไม่มีสารอาหาร รวมทั้งการใช้ชีวิตที่ไม่มีแบบแผน หิวก็กิน ง่วงก็นอน กินจุบจิบทั้งวันปากไม่มีว่าง ทำตัวนั่งๆ นอนๆ ไม่ขยับร่างกาย อยากกินอะไรก็จัดแหลกแบบไม่นับแคลไม่ได้! เมื่อเราไม่ทำอะไรเป็นกิจวัตร ระบบภายในก็จะงง กระเพาะไม่ย่อยแล้วหนึ่ง ระบบเผาผลาญรวนอีกหนึ่ง ไหนจะขับถ่ายไม่ออกลงพุงอีกหนึ่ง ดังนั้นต้องปรับการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพนะคะ ป่วยขึ้นมาไม่สนุกแน่ๆ ที่สำคัญอย่าอดอาหาร แต่ต้องเป็นคนเลือกทานนะคะสาวเฟียร์ซ~